'หมอปลา' บุกหา 'หลวงปู่' ลูกศิษย์กินฉี่ บอกหวานหอม แจงท่านป่วยอัลไซเมอร์ หลังสาวอ้างถูกลวนลาม

หมอปลา บุกวัดป่าเมืองยโสธร ลุยสอบหลวงปู่ชื่อดัง หลังหญิงสาวร้องเรียนถูก กระชากกอด ล้วงหน้าอก – อวดอุตริ สิ่งปฏิกูลในร่างกายกลายเป็น พระธาตุ ให้ลูกศิษย์บูชา ด้านพระเลขาฯ แจงหลวงปู่อายุ 90 กว่าปีแล้ว ป่วยอัลไซเมอร์ พอสื่อถามจี้ ทำหลวงปู่ไม่พอใจ โยนเหรียญวัตถุมงคลใส่หมอปลาและเจ้าหน้าที่ พร้อมไล่ให้ออกไป อ้างจะจำวัด

พระเลขาฯ อีกองค์ ยอมรับหลวงปู่จับหน้าอกสีกาจริง เพราะเป็นการรักษาโรคมะเร็ง ยัน ปัสสาวะ อุจาระ เลือด และเส้นผม ของหลวงปู่ก็กลายเป็นพระธาตุจริงๆ เพราะเป็นพระอรหันต์ พระลูกวัด ดื่ม ฉี่หลวงปู่โชว์ต่อหน้าสื่อ อ้างเป็นการรักษาโรค สำนักพุทธจังหวัดลุยเอาผิดทันที ตำรวจเร่งสอบพื้นที่วัดเข้าข่ายอยู่ในป่าสงวน

วานนี้ (11 พ.ค. 65) หมอปลา ภรรยาหมอปลา กันจอมพลัง รวมตัวกับสำนักสงฆ์ ตรวจสอบจากกรณีหญิงสาวรายหนึ่ง ร้องเรียนให้ตรวจสอบหลวงปู่ชื่อดัง วัดป่าแห่งหนึ่ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร โดยมีคลิปช่วงเกิดเหตุเป็นหลักฐาน

ซึ่งภายในคลิป จะเห็นหลวงปู่ พร้อมลูกศิษย์ชาย 3 คนนั่งประกบ เมื่อญาติโยมผู้หญิงเข้ามากราบไหว้ จะถูกเรียกเข้าไปใกล้ๆ ก่อนพระชราที่ถูกกล่าวหา จะพยายามลวนลามผู้เสียหาย ทั้งลูบหัว โอบกอด จับหน้าอก และพยายามดึงเข้าไปหอมแก้ม จนบางคนทนไม่ไหว ต้องสะบัดตัวหนีออกมา

ทั้งนี้ ข้างหน้าสำนักสงฆ์ จะมีป้ายติดไว้ ว่า

1. ห้ามถ่ายรูปก่อนได้รับอนุญาต

2. ห้ามสุภาพสตรีเข้าใกล้องค์หลวงปู่

3. ต้องมีบุรุษผู้รู้ความอยู่ ในขณะที่เข้ากราบ

4. เนื่องจากองค์หลวงปู่ชราภาพ และมีโรคประจำตัว ขอให้เว้นระยะห่างตามสุขอนามัย ป้องกันโรคติดต่อ หากต้องเข้ารับของที่ระลึก ก็ให้รับแล้วถอยออกมาดังเดิม

5. ให้แต่งกายสุภาพ เรียบร้อย เคารพครูบาอาจารย์

ข้อปฎิบัตินี้ ขอให้ทุกท่านปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด

โดยผู้เสียหาย เปิดเผยว่า พ่อและแม่ศรัทธาในวัดแห่งนี้ โดยเคยเดินทางไปที่วัดครั้งแรก เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มาที่วัดเป็นครั้งที่ 2

ระหว่างที่แม่ของตนเองเข้าไปก้มกราบ พบว่าหลวงปู่พยายามจับมือ และล้วงไปที่อวัยวะเพศ แต่แม่เห็นว่าท่านอายุ 90 ปีแล้ว จึงคิดว่าทำไปด้วยความเมตตา จนมาถึงคิวของตนเอง หลวงปู่กระชากเข้าไปกอด และมีความพยายามจับหน้าอก จึงพยายามปัดป้อง และสะบัดตัวหลุดออกมา

นอกจากนี้ หลวงปู่รูปดังกล่าว มักอวดอุตริ บอกว่า มีปัสสาวะ เลือด เล็บ และเส้นผม กลายเป็นพระธาตุ จนลูกศิษย์หลายคนนำน้ำปัสสาวะไปบูชา หรือดื่มกินนั้น จากการตรวจสอบพบว่า หลวงปู่รูปดังกล่าว คือ “หลวงปู่แสง ญาณวโร” พระเกจิชื่อดัง ที่อาศัยอยู่ในที่พักสงฆ์ พื้นที่บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก แต่เนื่องจากหลวงปู่มีอายุ 99 พรรษา ทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องพูดคุยผ่านพระเลขาฯ

ระหว่างที่มีการพูดคุยอยู่นั้น มีพระลูกวัดนำโถฉี่ของหลวงปู่ มาเทใส่ขวดน้ำ พร้อมกับดื่มโชว์ต่อหน้านักข่าว ดื่มจนหมดขวด โดยบอกว่าอยู่กับหลวงปู่ มานานเป็นสิบปี ดื่มปัสสาวะหลวงปู่ตลอดทุกวัน ก่อนดื่มต้องตั้งจิตอธิษฐาน เชื่อว่าฉี่หลวงปู่ ช่วยรักษาโรคนิ่วของตัวเองได้ และยังบอกอีกว่า กลิ่นและรสชาติปัสสาวะของหลวงปู่ไม่เหม็น หวาน หอมเหมือนน้ำผลไม้ ถ้าไม่เชื่อลองดมดู ทำให้ผู้สื่อข่าวถึงกับพะอืดพะอม และเป็นเสียงเดียวกันว่า หนีการกินฉี่พระบิดามาเจอกินฉี่หลวงปู่อีก

นอกจากฉี่ของหลวงปู่ที่ลูกศิษย์เชื่อว่าเป็นพระธาตุได้แล้ว ยังมีอุจจาระและเลือดของหลวงปู่จะใส่ไว้ในแพมเพิส นำมาแปะตามเสาในบริเวณโรงครัว โดยมีปล่องระบายความร้อนอยู่บริเวณนั้น ซึ่งเมื่อหลวงปู่ถอดแพมเพิสออกมามันจะมีอุจจาระติดอยู่ ลูกศิษย์จะกราบอารธนาเพื่อขออนุญาตหลวงปู่ก่อน ก็จะนำมาทาบหรือแปะที่บริเวณเสาที่มีความร้อน แล้วจะกลายเป็นผลึกพระธาตุขึ้นมา ก่อนนำไปตากอีกครั้ง แล้วนำไปแจกจ่ายลูกศิษย์เพื่อนำไปบูชา ทั้งนี้ยังมีคำกล่าวอ้างว่า พระธาตุที่มาจากอุจจาระ จะมีลักษณะเป็นผลึกใสๆ และมีสี บางก้อนมีสีเหลืองอ่อน และสีแดงเข้ม เวลานำมาส่องกับแสงพระอาทิตย์จะเรืองแสง

ขณะที่ “หมอปลา” ซักถามพระเลขาฯ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ แต่ทาง “หลวงปู่แสง” พยายามไล่ให้ทุกคนออกไป พร้อมโยนพระเครื่องให้กลุ่มนักข่าว จนทำให้มีปากเสียงกัน

ด้านพระเลขาฯ อธิบายว่า หลวงปู่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ หากหลวงปู่ทำอะไรไป จะไม่รู้ตัว โดยคนป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์จะไม่ได้เป็นตลอด ก่อนหน้านี้เคยมีผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เข้ามาให้ช่วยรักษา พอหลวงปู่จับ หรือเคาะศีรษะก็หาย

ส่วนกรณีที่มีป้ายติดหน้ากุฏิว่า ห้ามผู้หญิงเข้าใกล้หลวงปู่ แต่กลับมีการจับเนื้อต้องตัวผู้หญิงนั้น พระลูกวัดชี้แจงว่า หลวงปู่ไม่ได้เดินไปจับ ทุกครั้งที่จะมีญาติโยมเข้ามาใกล้หลวงปู่ จะมีการอธิบายให้ฟังก่อนทุกครั้งว่าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ แล้วไม่พอใจท่าน ก็ไม่ต้องขึ้นมาบนกุฏิ และบางครั้งญาณของหลวงปู่รู้ว่า คนนี้เคยเป็นลูกเป็นเมียมาก่อน ซึ่งที่ท่านจับเพราะท่านเมตตา

ขณะที่ คุณสิทธิลักษณ์ จิตอาคณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร ระบุว่า สำหรับการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบว่าเป็นที่พักสงฆ์ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตป่าถาวรป่าโคกนาโก อยู่ระหว่างการขออนุญาตใช้พื้นที่ และขึ้นทะเบียนเป็นวัด

ซึ่งพบไม้มีค่าในพื้นที่จำนวนมากและมีการแปรรูปด้วย โดยจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ขยายผล เพื่อดำเนินการตรวจสอบด้านอื่นๆ ต่อไป ขณะที่เห็นคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจนว่า บุคคลในคลิปใช่หลวงปู่จริงหรือไม่ แต่ถ้าเป็นหลวงปู่จริง ถือว่าเข้าข่ายเกี่ยวกับพระธรรมวินัย ที่จะมีการส่งเรื่องให้คณะผู้ปกครองสงฆ์พิจารณา

ด้าน นายสิทธา มูลหงส์ ผู้ตรวจราชการ และโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)​ กล่าวถึงกรณีข้อร้องเรียนถึงพฤติกรรมหลวงปู่แสง จนฺทโชโต (ญาณวโร)​ วัดป่าดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ที่มีการสัมผัสร่างกายสีกาที่เข้าไปกราบไหว้ ทั้งยังมีการอ้างว่ามีเลือด ปัสสาวะ สามารถกลายเป็นพระธาตุได้ ว่า

สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ​ยโสธร โดยมีนายสิทธิลักษณ์ จิตอาคนารัตน์ ผอ.พศจ.ยโสธร พร้อมด้วย นายอานนท์ ศรีมันตะ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ และนายยิ่งยศ ยวนยี นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ ร่วมกับฝ่ายปกครอง ประกอบด้วยนายอำเภอป่าติ้ว และปลัดอำเภอป่าติ้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวที่พักสงฆ์ป่าดงสว่างธรรม บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

พบว่า ที่พักสงฆ์ดังกล่าว ยังไม่มีสถานะเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ปัจจุบันมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา 15 รูป มีพระแสง จนฺทโชโต อายุ 98 ปี พรรษา 72 เป็นหัวหน้าที่พักสงฆ์ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต ซึ่งที่พักสงฆ์ดังกล่าว ตั้งในเขตพื้นที่ป่าสงวน และอยู่ในขั้นตอนยื่นคำขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวน จำนวน 15 ไร่ เพื่อสร้างศาสนสถาน  

นายสิทธา กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นข้อร้องเรียนดังกล่าวนั้น พระอุปัฏฐาก (พระผู้ดูแล)​ แจ้งว่า หลวงปู่เป็นโรคอัลไซเมอร์และมีอาการอาพาธ ไม่สามารถเดินได้ จะนั่งด้านหน้าบริเวณกุฏิเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระธรรมวินัย พศจ.ยโสธร จะได้นำกราบนมัสการเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอฝ่ายธรรมยุต เพื่อพิจารณา ผลเป็นประการใด จะมีการรายงานมายัง พศ.ต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/EjkV1Fe0ixU