สังคม

ฉลามบลูชาร์กกัดเด็กลูกครึ่ง 8 ขวบ หาดกมลา

โดย onjira_n

2 พ.ค. 2565

3.4K views

จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 พ.ค.หน่วยกู้ชีพ อบต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตได้นำ ด.ช.ลูกครึ่งอายุ 8 ขวบมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณขาขวาหลายจุดจากบริเวณชายหาดกมลา ต.กมลา อ.กะทู้ส่งรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต อ.เมือง เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดว่าถูกสัตว์ทะเลชนิดใดกัดหรือทำร้ายจนเกิดบาดแผลฉกรรจ์ จากนั้นได้มีการส่งภาพบาดแผลดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจพิสูจน์หรือวินิจฉัยบาดแผล

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 2 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายเดวิด มาร์ติน ช่างภาพใต้น้ำและผู้เชี่ยวชาญฉลามชาวอเมริกัน ซึ่งอาศัยอยู่ใน จ.ภูเก็ต เพื่อสอบถามเกี่ยวกับบาดแผลดังกล่าว โดยนายเดวิดเปิดเผยว่า ได้เห็นภาพดังกล่าวแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 เบื้องต้นคาดว่าเป็นบลูชาร์กกัดเข้าที่บริเวณขาของเด็กต่างชาติดังกล่าว ซึ่งจากประสบการณ์ที่เคยดำน้ำถ่ายภาพสัตว์ทะเลมาทั่วโลก จึงคาดว่าอาจเป็นฉลามในตระกูลบลูชาร์ก หรือ ฉลามหัวบาตร เนื่องจากเป็นบาดแผลกัดและกระชากหรือสะบัด ซึ่งแตกต่างจากการกัดของสัตว์ทะเลทั่วไป "สำหรับบูลชาร์กเมื่อโตเต็มวัยจะยาวถึง 3 เมตร ขณะที่นิสัยของบูลชาร์กนั้นไม่ใช่ฉลามที่ดุร้าย หรือทำร้ายมนุษย์ เพียงแต่อาจเข้าใจผิด คิดว่าคนเป็นเหยื่อที่สามารถกินเป็นอาหารได้ ซึ่งในธรรมชาติบูลชาร์กจะกินสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็กเป็นอาหาร เช่น หมึก กุ้ง เม่นทะเล และเต่าทะเล โดยบูลชาร์กสามารถว่ายน้ำเข้ามาบริเวณชายฝั่งหรือบริเวณน้ำที่ขุ่นได้ เนื่องจากมีเรดาร์ที่ปลายจมูก รับรู้การเคลื่อนไหวบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ข้างหน้าได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่สามารถมองเห็นก็ตาม โดยตนเองยังขอยืนยันว่าชายหาดกมลาหรือชายหาดใน จ.ภูเก็ตมีความปลอดภัยจากฉลามหรือสัตว์ทะเล ”นายเดวิดกล่าว

และเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 2 พ.ค.65 นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอกะทู้พร้อมด้วยรอง นายก อบต.กมลาได้ลงพื้นที่บริเวณหน้าหาดกมลา ข้าง สภ กมลา เพื่อสอบถามเหตุการณ์ กรณีพบปลาทำอันตรายแก่นักท่องเที่ยว โดยได้ความว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2565 เวลาประมาณ 16.30 น.มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเป็นครอบครัวประมาณ 6 คน มีเด็กชายอายุประมาณ 8 ปี เป็นเด็กลูกครึ่งไทยต่างชาติลงเล่นน้ำทะเล ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาน้ำลงจากชายฝั่งประมาณ 30 เมตร ลึกประมาณ 1 เมตร เป็นเวลาประมาณ 5 นาที ปรากฎมีปลาทะเลเข้ามากัดเด็ก และเด็กได้ร้องเรียกผู้ปกครองเข้าช่วยเหลือพาขึ้นฝั่ง และผู้ประกอบการบริเวณชายหาดได้เรียกกู้ชีพพาส่ง รพ.ป่าตอง ต่อมาได้ย้ายไป รพ.กรุงเทพ

จากการสอบถามนายอภิสิทธ์ อนันต์ ผู้ประกอบการที่อยู่บริเวณชายฝั่งซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ให้การว่า เหตุการณ์ปลาทำร้ายนักท่องเที่ยวในลักษณะแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 2 ปี ปลาสากทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวจีนในข่วงเวลานี้เดียวกัน ซึ่งบริเวณหาดกมลาตนเคยดำน้ำจะพบปลาสากอยู่บริเวณชายฝั่งขนาดประมาณต้นขาใหญ่สุดประมาณ 13 กิโลกรัม มันจะเข้ามากินปลาเล็กที่มากินพืชน้ำบริเวณนี้ที่มีความสมบูรณ์ จึงอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เบื้องต้นได้ประสาน อบต.กมลาทำป้ายแจ้งเตือนและการประชาสัมพันธ์ทางเสียงตามสาย เพื่อแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่จะลงเล่นว่ายน้ำในบริเวณดังกล่าวได้โปรดระมัดระวังอันตรายจากสัตว์น้ำอีกทางหนึ่ง



คุณอาจสนใจ