สังคม

กองทัพเสียใจ ตั้งสอบวินัย จ่าทหารไล่ยายขายหวย 80 บาท ฉุนขายถูกกว่า

โดย thichaphat_d

29 เม.ย. 2565

136 views

กรณีนางยุรี อร่ามแสง อายุ 71 ปี แม่ค้าขายลอตเตอรี่ ถูกจ่าทหารขับไล่ให้ไปขายที่อื่น เพราะเธอขายลอตเตอร์รี่ในราคา 80 บาท เหตุเกิดที่บริเวณใกล้ร้านสะดวกซื้อ ด้านหลังกองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา


ล่าสุดวันที่ (28 มี.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไม่พบแผงล็อตเตอรี่ของนายทหารรายดังกล่าว แต่ไปพบนางยุรี คนขายลอตเตอรี่ที่ถูกไล่ เธอเล่าว่า ก่อนที่เธอจะขายลอตเตอรี่ เธอขายไก่ทอดมาก่อน 20 ปี รู้จักกับทหารยศ จ.ส.อ.เป็นอย่างดี และช่วยเหลือกันตลอด


ต่อมาเศรษฐกิจไม่ดี ลูกชายได้โควต้าลอตเตอรี่มาขาย เธอจึงแบ่งมาขายให้กับลูกค้าบ้าง จนพักหลังไก่แพง ประกอบกับเธอได้โควต้าลอตเตอรี่ 1 เล่ม จึงมาตั้งแผงเล็กๆ ขายเป็นกิจจะลักษณะ  โดยตั้งแผงของตัวเอง ห่างจากแผงของนายทหารคนนี้เพียง 10 เมตร จากนั้นทหารคนนี้ก็เริ่มเข้ามาด่าและต่อว่า หาว่าเธอขายราคาตัดหน้า 80 บาท ส่วนทหารคนนี้ขายในราคา 100 บาท


จนกระทั่งวันเกิดเหตุ เธอมาขายลอตเตอรี่ตามปกติกับหลานชาย เมื่อนายทหารขับรถออกมาจากซอยพร้อมภรรยา หลานได้เข้าไปพูดคุยจนมีปากเสียง ลงไม้ลงมือ เธอโดนบีบแขนจนเป็นรอยเขียวช้ำ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกัน ฝั่งคู่กรณีมีการไปแจ้งความเอาผิด ส่วนหลานชายก็เข้าไปแจ้งความเช่นเดียวกัน นางยุรีเล่าว่า ตนเองได้รับโควต้ามาก็ต้องขายในราคาที่ภาครัฐกำหนด หากขายเกินราคากลัวจะถูกจับ


ลูกชายของนางยุรี เปิดเผยว่า แม่ไม่ได้ขายลอตเตอรี่แบบตั้งแผงตั้งแต่แรก แต่เวลาลูกค้าต้องการเลขอะไร ก็มาบอกแม่ แม่ก็จะช่วยหาเลขที่ต้องการไปขายให้ จนกระทั่งแม่ได้โควต้าลอตเตอรี่จากกองสลาก 1 เล่ม จึงตัดสินใจตั้งแผงเล็กๆ ขายเอง โดยขายในราคา 80 บาท ทำให้นายทหารไม่พอใจเพราะตัวเองขายแพงกว่า 20 บาท ในวันเกิดเหตุตนจึงให้แม่ไปขายของตามปกติ โดยให้หลานชายตามไปดูแล เพราะกลัวแม่จะไม่ปลอดภัย     


จนกระทั่งเวลา 11.00 น. ของวันเกิดเหตุ แม่และหลานกำลังจะสั่งก๋วยเตี๋ยวรับประทาน แต่จู่ๆ คู่กรณีและภรรยาขับรถออกมาถึงปากซอยใกล้ที่เกิดเหตุ หลายชายจึงเข้าไปถามว่าด่าแม่ตนทำไม จนเป็นเหตุให้ทะเลาะลงไม้ลงมือกัน เมื่อตนได้ข่าวว่าคู่กรณีกับหลานทะเลาะกัน จึงรีบขับรถมาหา เมื่อมาถึงก็เห็นว่าทั้งคู่กำลังชุลมุลกันอยู่ จึงเข้าไปแยก แต่กลับถูกคู่กรณีคว้าหมวกกันน็อคฟาดมาที่หัว ตนใช้มือซ้ายรับจนได้รับบาดเจ็บเกิดรอยฟกช้ำ


จากนั้นจึงแยกย้ายกันไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนคู่กรณีเดินทางมาแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง กล่าวหาว่าตนรุมทำร้าย ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย คู่กรณีและภรรยาต่างหากที่รุมทำร้ายหลานตน ถามว่ากลัวไหมที่คู่กรณีเป็นทหาร ตอบตรงๆ ว่า ไม่กลัวเรื่องความปลอดภัย แต่กังวลที่จะไม่ได้รับความเป็นธรรมมากกว่า


ด้านหลานชาย ยอมรับว่าเขาเดินไปหาคู่กรณีก่อนจริง ไปถามว่า มาไล่ และด่าแม่ตนทำไม คู่กรณีจึงตอบกลับมาว่าแล้วมึงจะทำไม จากนั้นคู่กรณีก็เตรียมถอดเสื้อเครื่องแบบออก และง้างหมัดจะต่อย ตนจึงส่วนหมัดใส่คู่กรณี จากนั้นจึงชุลมุนโดยมีภรรยาของคู่กรณีรุมทำร้าย เอาหมวกกันน็อคมาฟาดที่แขนและมือตน 2 ครั้ง ทำให้กระดูกนิ้วก้อยซ้ายแตก


หลังเรื่องนี้เป็นข่าว นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ คณะกรรมการ บริษัท เสือแดงลอตเตอรี่ ออนไลน์ จำกัด  ได้พานางยุรี /นายอมรรัตน์ ลูกชายของยายยุรี /และนายปิยาภรณ์ หลานชายนายยุรี ติดตามความคืบหน้าคดีความ ที่ สน.นางเลิ้ง 


เพราะคดีดังกล่าวคู่กรณีเป็นถึงเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนผู้เสียหายเป็นชาวบ้านทั่วไป จึงเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้ามาเป็นตัวกลางในการติดตามความคืบหน้าของคดี ส่วนตัวมองว่า คู่กรณีเป็นถึงนายทหารจะมาอ้างไม่ได้ว่า ไม่รู้กฎหมายห้ามขายเกินราคา ในส่วนนี้ถ้าตรวจสอบข้อเท็จจริงพบความผิด ต้นสังกัดเองก็ควรจะมีบทลงโทษเช่นเดียวกัน


ด้าน พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ทหารรายดังกล่าว เข้าแจ้งความเอาผิดในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย พนักงานสอบสวนจึงเรียกนายปิยาภรณ์ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและส่งฟ้องศาลไปแล้ว


ส่วนคดีที่นายปิยาภรณ์ แจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกาย ที่สน.ชนะสงคราม ซึ่งอยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยว 2 สน. ซึ่งได้ประสานงานกันแล้ว  วันนี้ (28 เมษายน 2565) ได้รับไปตรวจร่างกาย ที่แพทย์ลงความเห็นว่ากระดูกนิ้วแตก ต้องเข้าเฝือก และต้องรักษาตัวมากกว่า 20 วัน


หลังจากนี้ก็ต้องสอบปากคำนายปิยาภรณ์ และคู่กรณีซึ่งจะถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส" ส่วนที่ทางผู้เสียหายกังวลเรื่องความปลอดภัย ต้องประสานไปยังสน.ชนะสงคราม เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือต่อไป


ด้าน พ.อ.หญิง. ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกรับทราบข่าวดังกล่าว และได้ตรวจสอบแล้ว บุคคลดังกล่าวเป็นนายทหารชั้นประทวน สังกัดกรมกำลังพลทหารบก


ขณะนี้ ต้นสังกัดได้เรียกเจ้าตัวมาให้ข้อมูล และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้นแม้เป็นเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างบุคคล แต่เมื่อเกิดการร้องเรียนว่า มีการใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบเกินกว่าเหตุ และไม่เหมาะสม ทางต้นสังกัดจะได้พิจารณาลงโทษตามวินัยทหาร ตามพฤติกรรมที่ปรากฎต่อไป ส่วนการแจ้งดำเนินคดีตามกฎหมายก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย


กองทัพบกขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ และได้มีการเชิญผู้ร้องเรียนมาพูดคุย รับทราบข้อมูลและความวิตกกังวล พร้อมให้การช่วยเหลือคลี่คลายเรื่องราวตามสมควรต่อไป


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/kprXGXPh1jo

คุณอาจสนใจ

Related News