สังคม
'เหยื่อปริญญ์' แฉถูกมอมเหล้าก่อนขืนใจ ตื่นมาถูกทิ้งที่ป้อมยาม อีกรายโดนขู่ 'รู้ไหมว่าพ่อเป็นใคร'
โดย thichaphat_d
19 เม.ย. 2565
44 views
จากกรณี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวข้องกับคดีข่มขืนอนาจารหญิงหลายราย
เมื่อวานนี้ (18 เม.ย. 65) ผู้เสียหายที่ทยอยแจ้งความความต่างถูกลวนลามและกระทำอนาจาร โดยในส่วนของผู้เสียหายรายที่10 (ใส่แว่นดำผ้าคลุมผม) เปิดเผย กับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ของตนเกิดขึ้นเมื่อปี 2559 ซึ่งสนใจทำธุรกิจที่ผู้ต้องหา สอนและแนะนำ จึงตัดสินใจมาปรึกษาผู้ต้องหาเพราะเชื่อว่าเป็นคนเก่ง และมีชื่อเสียงในสังคมแวดวงนักธุรกิจ
แต่เมื่อได้เจอ ผู้ต้องหา คืออดีตนักการเมืองคนนี้ เรื่องก็ไม่ใช่เหมือนที่คิด ตนเริ่มรู้จักกับผู้ต้องหาจากการเข้าฟังบรรยายเทคนิคทำธุรกิจ
จากนั้น ผู้ต้องหาก็ชวนมา คุยเรื่องธุรกิจที่ออฟฟิศ และบอกว่ายินดีให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ ตนเองที่สนใจจะทำธุรกิจ จึงติดต่อไป เมื่อเดินทางไปถึงห้องทำงาน ก็พบว่าในห้องมีกันแค่สองคน และผู้ต้องหาคนนี้ ก็พยายามเชิญชวนให้ดื่มแอลกอฮอลล์ โดยอ้างว่าจะทำให้การพูดคุยราบรื่น ตนก็ดื่มไปครึ่งแก้ว และถูกบังคับว่าให้ดื่มหมดแก้วจะได้คุยงานกันทีเดียว
ระหว่างที่ดื่ม รู้สึกแปลกๆ ร่างกายเริ่มมึนงง ตอนนั้น ผู้ต้องหาคนนี้ ก็เริ่มลวนลามจับมือ แขน และล่วงละเมิดทางเพศ และไม่รู้สึกตัวอีกเลย
มารู้สึกตัวอีกทีคือ เช้าวันรุ่งขึ้นและพบว่าตนเองอยู่ในสภาพนอนอยู่ข้างป้อม รปภ.ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสุขุมวิท หลังเกิดเหตุการณ์ ผู้ต้องหา ยังโทรมาพูดคุยตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนตัดสินใจไม่รับสาย และปิดกั้นช่องทางการติดต่อทั้งหมด
ที่ออกมาแจ้งงความ เพราะทนไม่ไหวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเอง และเห็นผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธ และยังระบุว่าผู้เสียหายแต่ละราย ก๊อปปี้คำพูดกันมานั้นรับไม่ได้
“ตนอยากฝากไปถึงผู้ต้องหาว่า ให้ขอให้ถูกดำเนินคดีถึงที่สุด ชดใช้กรรมในคุก “
ยอมรับว่า ที่ติดต่อกับผู้ต้องหา เพราะมีความหวังเรื่องการทำธุรกิจ อยากประสบความสำเร็จแบบเขา และเชื่อในภาพลักษณ์ ความสามารถของผู้ต้องหาเป็นคนดี คนเก่ง มีหน้าตา แต่ความเป็นจริงคนๆ นี้ เวลาออกสังคม เป็นสีขาว เป็นคนดี ธรรมะธัมโม แต่อีกด้านคือมืดดำ
ผู้เสียหายรายนี้บอกว่า ผู้ต้องหา เหมือนกับสัตว์ เพราะทำกับผู้เสียหายเหมือนไม่ใช่มนุษย์ และสร้างตราบาปให้กับผู้หญิง ส่วนตัวรู้สึกขยะแขยงทุกครั้งที่เห็นชายคนดังกล่าวทำหน้าที่วิทยากร ที่ผ่านมาเรื่องรู้สึกอาย และอดทนอยู่อย่างเงียบๆ
ส่วนผู้เสียหายรายที่ 11 เคยให้สัมภาษณ์เปิดใจกับทีมข่าวของเราเมื่อวันที่ 14เมษายน ผู้เสียหายรายนี้ถูกข่มขืนจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารักษาตัว 7 ปี เหตุเกิดปี พ.ศ.2557 เมื่อวานเธอตัดสินใจเข้าแจ้งความ แม้ว่าเรื่องราวของเธอจะผ่านมานานแล้ว ช่วงที่เกิดเหตุเธอคิดจะแจ้งความ แต่ผู้ต้องหารายนี้บอกว่า “แจ้งความไปใครจะช่วยใคร จะเชื่อและรู้ไหมว่าพ่อตนเป็นใคร"
ที่ผู้เสียหายออกมาจำนวนมาก ยืนยันว่าผู้เสียหายทุกคนไม่รู้จักกันมาก่อนแต่พูดตรงกันและรวมตัวกันออกมาแจ้งความ หลุดพ้นจากความกลัว ความอาย อยากบอกว่าตอนนี้ ผู้เสียหายเปรียบเหมือน “ไม้ซีกพร้อมงัดกับคอนกรีตแล้ว”
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/HYnT4DlxPKA