บุกค้นห้องเชือด 'ปริญญ์' ลวงมาขืนใจ 'ลูกนัท' โวย ตร.ถูกกันไม่ให้เข้าพื้นที่

ตำรวจนำหมายศาล บุกค้นห้องเชือด ภายในคอนโด สุขุมวิท ซอย 3 หลังเหยื่ออ้างถูกล่อลวงมาขืนใจ ด้านภรรยา พร้อมสามีไฮโซนักเคลื่อนไหว โผล่ชี้จุด แต่ถูกกันไม่ให้เข้าพื้นที่ ตำรวจแจง ร้อยเวรเรียกมาชี้ยืนยันตึก แต่ไม่มีชื่อในหมายค้น จึงไม่สามารถรวมชี้จุด ณ ห้องเกิดเหตุได้

เมื่อเวลา 16.30 น. วานนี้ (18 เม.ย.) พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมตำรวจ สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำหมายค้นของศาล เข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดมิเนียมในสุขุมวิทซอย 3 ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เสียหายในคดี อ้างว่าถูกนายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองล่วงละเมิด ข่มขืนกระทำชำเรา เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโด ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในให้รออยู่หน้าทางเข้าออกของคอนโดมิเนียมเท่านั้น

ต่อมาเวลา 16.35 น. แอนนา ภรรยาของธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท ไฮโซนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งเป็นเหยื่อในคดีนี้ ได้เดินทางมาด้วยรถสปอร์ตหรู พร้อมกับสามี ก่อนขับเข้าไปจอดภายในคอนโดฯ และเข้าไปพบตำรวจ จากนั้นก็เดินออกมาจากคอนโด และเดินเท้าไปออกไปริมถนนสุขุมวิทซอย 3

ระหว่างนั้น ทั้งคู่เปิดเผยกับสื่อว่า วันนี้ตำรวจประสานให้มาชี้จุดเกิดเหตุตามนัดหมาย ซึ่งเพิ่งโทรศัพท์มาแจ้งเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้าที่จะเดินทางมาถึง แต่ก็ยังไม่ได้ขึ้นไปข้างบนคอนโด เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะให้มาดูโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ปากซอย ริมถนนสุขุมวิทซอย 3 ซึ่งผู้เสียหายให้การว่า ผู้ต้องหาชักชวนให้นัดมากินข้าว แต่ร้านปิด จึงออกอุบายให้มาที่คอนโดที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่หลังร้าน ก่อนลงมือ กระทำชำเรา

หลังจากนั้นทั้งคู่ ก็เดินกลับเข้าไปภายในคอนโดอีกครั้ง จากนั้นไม่นาน ลูกนัทได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ โดยกล่าวว่าตนเองมีความกังวลกับการทำงานของตำรวจ เพราะตอนนี้ กลับไม่อนุญาตให้ตนขึ้นไปด้านบนห้องเกิดเหตุ อ้างว่าจะเป็นผลกับรูปคดี ให้รอเก็บหลักฐานเสร็จแล้วจะให้ขึ้นไป ตนก็ให้เหตุผลว่าจะขึ้นไปทำลายหลักฐานตัวเองทำไม ยืนยันไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม แต่มั่นใจในประชาชน สื่อมวลชนและทีมงานที่ตนแต่งตั้งเอง

ระหว่างนั้น พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการ สน.ลุมพินี ได้เชิญทั้งคู่ไปทำความเข้าใจ ว่าเพราะเหตุใดจึงยังไม่ให้ขึ้นไปด้านบน แต่ลูกนัท จะตะโกนขึ้นมาว่า “ทำไมต้องให้ภรรยาตนเองกลับมาที่นี่ถึงสองครั้งครับ เพื่ออะไรครับ กลับมาที่นี่แต่ละครั้ง แล้วกลับไปสภาพจิตใจจะเป็นยังไง ผมไม่สนครับ ผมจะขึ้นไป”

ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า ถ้าคำพูดต่อไปที่ออกจากปากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่เชิญภรรยาตนซึ่งเป็นผู้เสียหายขึ้นไปด้านบน เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว และระบุว่า “เอาคำพูดนั้นออกมาครับ เอาคำพูดนั้นออกมา ถ้าไม่ให้ก็เดินออกไป” ก่อนจะต่อว่าเจ้าหน้าที่ว่า “ไปสิ ไอ้ขี้ข้าเผด็จการ” ผู้กำกับการจึงเดินออกไป ส่วนทั้งคู่ก็เดินกลับเข้าไปในคอนโดฯ

โดยระหว่างกลับเข้าไป ลูกนัท สามีผู้เสียหาย ได้บันทึกคลิปเพิ่มเติม ระหว่างที่ไปถามตำรวจเพื่อขอดูหมายค้นของศาล เพื่อยืนยันว่าภรรยาตนซึ่งเป็นผู้เสียหาย ไม่สามารถขึ้นไปด้านบนได้ พร้อมยื่นคำขาดว่าหากไม่มีก็จะต้องอนุญาตให้ภรรยาตนขึ้นไปชี้จุดด้านบน ซึ่งช่วงนี้เจ้าหน้าที่พยามกล่อมให้สามีผู้เสียหายใจเย็น และระบุว่า ให้รอทนายความของผู้ต้องหาลงมาเจรจากับผู้เสียหายเอง

ต่อมาในภายหลัง พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการ สน.ลุมพินี ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ร้อยเวรนัดผู้เสียหายมาชี้ตึกที่เกิดเหตุว่าใช่ตึกนี้หรือไม่ เมื่อชี้เสร็จก็ถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการ สาเหตุที่ไม่พาขึ้นไป เพราะผู้เสียหายไม่มีชื่อในรายชื่อที่ศาลอนุญาต คาดว่าจะเกิดจากความไม่เข้าใจ เพราะที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล

ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทำตามพยานหลักฐานและอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย แต่การตรวจเข้าไปในตึก ห้องพัก จะต้องมีหมายค้น และต้องเป็นบุคคล มีชื่อที่ระบุเท่านั้น ซึ่งก็คือตำรวจ และกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งได้แจ้งให้ผู้เสียหายเข้าใจแล้ว

ทนายความฝ่ายคู่กรณีเปิดเผยว่า ได้รับมอบอำนาจให้มาเป็นผู้เปิดห้องให้เจ้าหน้าที่ พร้อมยืนยันว่าบุคคลที่จะเข้าได้ต้องเป็นคนที่มีชื่อระบุเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้ ได้ชี้แจงให้ฝ่ายผู้เสียหายทราบแล้ว

จากนั้นไฮโซคนดัง และภรรยาผู้เสียหาย ก็ได้เดินทางกลับออกจากคอนโด แต่ระหว่างขับออกจากซอย ซึ่งเป็นซอยแคบ ทำให้สวนเลนกันไม่ได้ จึงมีบางช่วงที่รถของลูกนัท เผชิญหน้ากับรถของกองพิสูจน์หลักฐานที่กำลังขับเข้ามา เพื่อส่งอุปกรณ์พอดี จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกันอยู่สักพัก ก่อนที่รถที่ขับเข้ามาจะเข้าคอนโดฯ รวมถึงรถของกองพิสูจน์หลักฐานต้องค่อยๆ ถอยออกให้รถของไฮโซหนุ่มขับออกไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/x5wNMyOQmMo