เรือบรรทุกน้ำมัน บึ้มสนั่นปากอ่าวเจ้าพระยา ลูกเรือเสียชีวิต 1 เจ็บ 4 ยันไม่พบน้ำมันรั่วไหล

บึ้มสนั่นกลางเจ้าพระยา เรือบรรทุกน้ำมันดิบกว่า 3 ล้านลิตร ระเบิดขณะลอยลำกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงป้อมพระจุล สมุทรปราการ ลูกเรือ 14 คน ตาย 1 เจ็บ 4 เผยบรรทุกน้ำมันดิบมาจากเกาะสีชัง มุ่งหน้าท่าเทียบเรือกรุงเทพ ต้นเพลิงมาจากหัวเรือ คาดโซ่สมอเรือเสียดสี ทำให้เกิดประกายไฟจนเรือระเบิด

เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (27 มี.ค.) เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า สาขาสมุทรปราการ เข้าตรวจสอบเหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิด บริเวณปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับกองเรือทุนระเบิด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบจ.สมุทรปราการ นำเรือดับเพลิงเข้าไปดับไฟ ซึ่งในช่วงแรกยังไม่สามารถที่จะเข้าไปตรวจสอบใกล้เรือลำดังกล่าวได้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการระเบิดซ้ำ จึงคอยสังเกตการณ์บริเวณโดยรอบเท่านั้น และทางกรมเจ้าท่าไม่อนุญาตให้เข้าเทียบท่าได้ จึงปล่อยให้เรือแล่นออกไปยังอ่าวไทย โดยมีเรือดับเพลิงคอยฉีดน้ำหล่อเย็นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 17.15 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้อย่างสิ้นเชิง และถอนกำลังดับเพลิงออกจากที่เกิดเหตุแล้ว

เหตุการณ์นี้มีลูกเรือบนเรือทั้งหมด 16 คน มีผู้เสียชีวิต 1 คน สภาพคล้ายถูกไฟคลอกแล้วตกน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยนำร่างขึ้นฝั่งได้ นอกจากนี้ยังพบลูกเรือ 4 คนได้รับบาดเจ็บ กรมเจ้าท่าได้ประสานกองทัพเรือ อพยพลูกเรือที่เหลือทั้งหมดขึ้นฝั่งที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ก่อนให้รถพยาบาลนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุการระเบิด อยู่ระหว่างสอบสวน

จากการตรวจสอบพบว่า เรือดังกล่าวเป็นเรือ บรรทุกน้ำมันดิบกว่า 3.2 ล้านลิตร เดินทางมาจากเกาะสีชัง จ.ชลบุรี เพื่อไปยังท่าเทียบเรือกรุงเทพ แต่ระหว่างทางมาถึงปากคลองสรรพสามิต พระสมุทรเจดีย์ เกิดระเบิดขึ้น เรือลำนี้มีชื่อว่า อัมภา 8 ประเภท เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต บรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส ขนาดตันกรอส : 2118

ด้านนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เรือที่เกิดเหตุ เป็นเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงของบริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลิซซิ่ง จำกัด นายพงศ์ชัย สิงหววรรณกุล เป็นนายเรือ พร้อมสั่งการให้กรมเจ้าท่าโดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ดำเนินการ

1. ให้เรือดับเพลิงใช้สเปรย์น้ำเลี้ยงลดอุณหภูมิดับไฟประสาน ปภ. เจ้าหน้าที่กู้ภัย ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ

2. ร่วมบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าตรวจสอบความปลอดภัยของเรือที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ

3. กำชับห้ามประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น มุงดูหรือเข้าใกล้พื้นที่มากเกินไป

4. ตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ และความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อวางแผนการป้องกัน

5. รายงานความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง

ต่อมานายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (ด้านปฏิบัติการ) ลงพื้นที่ตรวจสอบ ก่อนเปิดเผยว่า ขณะนี้ไม่พบกลุ่มควันแล้ว และมีเรือเตรียมพร้อมในการล้อมบูมหากมีน้ำมันรั่วไหล และยังไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหลแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ออกคำสั่งห้ามใช้เรือลำฯ ดังกล่าว พร้อมกันนี้ ให้กรมเจ้าท่าดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุ เพื่อหาสาเหตุเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันต่อไป

จากนั้นนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังมีการฉีดน้ำเลี้ยงไว้ และ ไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหลแต่อย่างใด ในเบื้องต้น มีนายเรือพร้อมลูกเรือรวม ทั้งหมด 15 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย ส่วนสาเหตุการระเบิดอยู่ระหว่างสอบสวน ทั้งนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ ได้ออกคำสั่งห้ามใช้เรือลำดังกล่าว พร้อมกับให้กรมเจ้าทำดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุ เพื่อหาสาเหตุกำหนดมาตรการป้องกันต่อไป

ส่วนทางด้าน นายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ เผยว่า เรือลำดังกล่าว คนประจําเรือจํานวน 14 นาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บจํานวน 1 นาย ชื่อ นายณัชพิศณุพงศ์ มาเนียม ตําแหน่ง ผู้ช่วยต้นเรือ ได้นําตัวส่งโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ และพบผู้เสียชีวิตจํานวน 1 นาย ชื่อนายประสิทธิ์ สุภัทรวัน ตําแหน่งต้นเรือ

จากการสำรวจยัง ไม่พบน้ำมันรั่วไหล และไม่กีดขวางการจราจรทางน้ำแต่อย่างใด เนื่องจากเรือดังกล่าวขณะนี้จอดเกยตื้นอยู่ โดยเจ้าหน้าที่จะเชิญทางเจ้าของเรือเข้าพบอีกครั้ง ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เรือกำจัดคราบน้ำมันของสำนักงานเจ้าท่าออกไปวางทุ่นรอบเรือดังกล่าวเพื่อป้องกันคราบน้ำมันที่อาจรั่วไหลภายหลัง

ขณะที่มีรายงานสาเหตุเบื้องต้น คาดมาจากการเสียดสีของโซ่สมอเรือ ที่ทำให้เกิดประกายไฟที่หัวเรือ จนไปติดไฟซึ่งเป็นไอระเหยและแรงดังที่สะสมอยู่ในห้องหัวเรือ จนเกิดการระเบิดดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/jlk35FWqxUc