ลุ่มเจ้าพระยาวิกฤตต่อเนื่อง! ชัยนาท-อ่างทอง-อยุธยาอ่วม ปทุมธานี-นนทบุรีเตรียมรับมือ

สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยายังคงวิกฤตอย่างต่อเนื่อง ทั้งชัยนาท อ่างทอง อยุธยา ขณะที่ปทุมธานี นนทบุรี เตรียมรับมือผลกระทบ



หลังจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำที่ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก็ทำให้สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 อำเภอเมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านจุดวัดอยู่ที่ 2,971 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.71 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 16.49 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง



ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ทำการหน่วงน้ำไว้เหนือเขื่อน ทำให้พื้นที่เหนือเขื่อนอย่าง ตำบลศิลาดาน อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ได้รับผลกระทบเป็นรอบที่ 4 ติดต่อกันในเวลาไม่ถึง 2 เดือน ชาวบ้านต้องอพยพมาอยู่ริมถนนบ้าง ย้ายขึ้นไปชั้น 2 บ้าง เพราะบ้านที่อยู่ติดริมแม่น้ำทั้งหมดน้ำเข้าท่วมเต็มพื้นที่แล้ว ระดับน้ำสูงเมตรกว่าเป็นต้นไป ส่วนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือพืชผลของเกษตรกร ทั้ง กล้วย ถั่ว ข้าวโพด ส้มโอ ได้รับผลกระทบร่วมหลาย 100 ไร่ หากท่วมนานไปกว่านี้จะทำให้ต้นส้มโอนั้นรากเน่าตาย เสียหายนับล้านบาทเลยทีเดียว



ชาวบ้าน นางนงลักษณ์ บอกว่า น้ำท่วมรอบที่ 4 แล้ว ทำความสะอาดบ้านทาสีไปแล้ว 3 รอบ น้ำมาๆ ลดๆ 3 รอบแรกเราทำใจได้ แต่รอบนี้ขึ้นพรวดเดียว โดยมาตอนกลางคืน ขนของแทบจะไม่ทัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยน้ำแบบไม่สนใจไม่ชี้แจงชาวบ้านเลย ปีนี้น้ำมากกว่าปี 65 ท่วมยืดเยื้อ ปกติท่วมเดือนเดียวก็จบ



ส่วนที่จังหวัดอ่างทอง หลังจากพนังกั้นน้ำเจ้าพระยา ใต้เชิงสะพานป่าโมก ตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้มีการเร่งวางบิ๊กแบ็คอุดรอยรั่ว แต่ปรากฎว่ามีการแตกเพิ่ม ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมถนนทางหลวง 33 สายป่าโมก-สุพรรณบุรี เป็นวงกว้าง ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เบื้องต้นได้ปิดเส้นทางตั้งแต่แยกหน้าโคกอำเภอผักไห่ จนถึงเชิงสะพานป่าโมก รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้



เช่นเดียวกับที่อยุธยา ระดับน้ำเจ้าพระยายังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำที่ระดับ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อคืนนี้เทศบาลเมืองต้องเร่งทำคันกั้นเพื่อป้องกันเกาะเมืองเป็นการเร่งด่วน ขณะที่เช้าวันนี้มีการระดมคนงานขนกระสอบทรายเสริมแนวพนังกั้นน้ำป้องกันโบราณสถานวัดธรรมาราม ซึ่งสุ่มเสี่ยงน้ำทะลักเข้าท่วม โดยตัวพนังกั้นน้ำเหลือเพียงอีก 40 เซนติเมตร น้ำก็จะล้นเข้าสู่ด้านในตัวพนังเดิม ที่มีความสูงอยู่ที่ 180 เซนติเมตร วันนี้มีการเสริมขึ้นมาสูงอีก 60 เซนติเมตร เพื่อความปลอดภัย



ส่วนที่ปทุมธานี ที่อำเภอสามโคก ชาวบ้านกว่า 200 หลังคาเรือนที่มีบ้านอยู่ติดริมเจ้าพระยา ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เพื่อความไม่ประมาทชาวบ้านบางรายตัดสินใจขนมอเตอร์ไซค์ขึ้นเรือโฟมนำออกจากบ้านเพื่อหนีน้ำท่วม



และที่นนทบุรี นอกจากนี้น้ำยังเอ่อท่วมถนนนครอินทร์ และจุดยูเทิร์นใต้สะพาน สูงกว่า 50 ซม. ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ล่าสุดนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมกับตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อลดปริมาณน้ำที่เข้าท่วมถนนให้เร็วที่สุด คาดว่าวันนี้น้ำจะน้อยกว่าเมื่อวาน ซึ่งน้ำที่เข้าท่วมพื้นที่นนทบุรี เกิดจากน้ำที่ปล่อยจากเขื่อนเจ้าพระยา 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งต้องให้ท้องถิ่นเฝ้าระวังว่าบางจุดอาจมีการได้รับผลกระทบ เช่นแนวคันกระสอบทรายรั่ว ซึ่งท้องถิ่นได้เข้าดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว วันนี้จะมีการเข้าสำรวจเพิ่มเติมป้องกันน้ำเข้าท่วมพื้นที่ด้านใน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/MDAKHLwXbfQ