สังคม

ทลายซิมมือถือเถื่อน ยึดได้ร่วมแสนซิม ใช้บัตร ปชช.ต่างด้าวลงทะเบียน คาดโยงแก๊งคอลเซนเตอร์

โดย thichaphat_d

25 ม.ค. 2565

57 views

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ค้าซิมมือถือรายใหญ่ 2 ราย หลังสืบสวนพบพฤติการณ์จำหน่ายและรับลงทะเบียนเปิดใช้บริการไม่ถูกต้อง

นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลจากข้อมูลที่พบว่ามี การประกาศขายซิมมือถือผ่านทางสื่อออนไลน์ 2 ร้านค้า พบในคันนานาว กรุงเทพมหานคร1 แห่ง และ ที่อำเภอขุนตาล เชียงราย 1 แห่ง

โดยพฤติการณ์ร้านจำกน่ายซิม ที่คันนายาว จำหน่ายซิมและรับลงทะเบียนเปิดใช้บริการ ส่วนอีกแห่งที่เชียงรายจะจัดหาซิมมาจำหน่าย และเปิดใช้บริการให้ตามออเดอร์ ที่ได้รับจอง เบื้องต้น 2 ร้านค้า ยังไม่พบว่า เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน

ด้านนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผลการเข้าตรวจสอบร้านค้าทั้งสองแห่ง จุดแรกในเขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร พบของกลางเป็นซิม

ที่ลงทะเบียนแล้วและที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรวมกันกว่าหนึ่งแสนหมายเลข โดยพบว่า เป็นซิมที่ลงทะเบียนโดยบัตรประชาชนชาวเมียนมาและกัมพูชา จำนวน 8,500 หมายเลข และที่ลงทะเบียนโดยเจ้าของร้านที่เป็นคนไทย อีกจำนวน 1,500 หมายเลข รวมยึดเพื่อตรวจสอบทั้งสิ้น จำนวน 10,000 หมายเลข และได้ยึดคอมพิวเตอร์และเครื่องโทรศัพท์ดัดแปลงสำหรับใช้ลงทะเบียน จำนวน 9 เครื่อง

ขณะเดียวกันในจุดที่ 2 ที่อำเภอขุนตาลจังหวัดเชียงราย เป็นร้านขายโทรศัพท์และอุปกรณ์ ร้านดังกล่าวจะไม่มีการเก็บซิมสำรอง หากลูกค้าต้องการเมื่อใดต้องสั่งจองล่วงหน้า ผลการตรวจค้นพบภาพถ่ายบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยจำนวนมาก และพบไฟล์สั่งซื้อซิมโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนแล้วอีกหลายรายการ จึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อสืบสวนและนำเข้าคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง เพื่อเสนอเป็นคดีพิเศษแล้ว

พร้อมตั้งข้อสันนิษฐานว่า ผู้สั่งซื้อซิมเหล่านี้ อาจจะเกี่ยวข้องในกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกให้โอนเงินหรือก่ออาชญากรรมอื่น เช่น พนันออนไลน์ หลอกลวงกู้เงินผ่านลิ้งค์ออนไลน์ รวมถึงใช้ในวงการค้ายาเสพติด

นอกจากนี้ ได้ฝากเตือนผู้ประกาศขายซิม ผู้ลงทะเบียน และผู้ใช้ อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) และ (2) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ฐานทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม จำหน่ายหรือมีไว้ครอบครอง ใช้หรือมีไว้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มาตรา 269/1 และมาตรา 269/4 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 7 ปี ปรับ 20,000 - 140,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ควรจะต้องมีการควบคุมและสอดส่องดูแลเรื่องนี้ให้ดี อาจจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ให้มีความรัดกุมมากกว่านี้

ทางค่ายผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือก็เช่นเดียวกันต้องมีความรอบคอบในการปล่อยชิมออกมาให้กับตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ไม่ใช่แค่ขายออกมาอย่างเดียวต้องมีการคัดกรองที่เข้มงวด รวมถึงการสอดส่องดูแลพนักงานที่แอบนำออกมาขายด้วย เพราะถือเป็นการสร้างความเดือดร้อนและความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชน

พร้อมเตือนประชาชนให้ระวังการนำหมายเลขบัตรประชาชนไปลงทะเบียนชิม และอย่ารับจ้างเปิดหมายเลขและบัญชีธนาคารเด็ดขาดเพราะท่านอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/qD3oUMvHX5k

คุณอาจสนใจ

Related News