สังคม

แค้นหนัก! สาวนิรนามราดน้ำกรดใส่จยย. ปมรักสามเส้า เหยื่อสาวร้อง จบสักที

โดย panisa_p

14 ม.ค. 2565

49 views

จากกรณีที่โลกโซเชียล แชร์ภาพวงจรปิด ที่จับภาพสองสาวนิรนามเข้ามาก่อเหตุนำของเหลวที่ผู้โพสต์ระบุว่าเป็นน้ำกรด มาเท ใส่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณจุดจอดรถของการเคหะพรพระร่วงประสิทธิ์ โดย มูลเหตุมาจากการที่ผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมีความ บาดหมางจากเรื่องชู้สาว


ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่ พูดคุยกับ นางสาวนวรัตน์ อายุ 45 ปี ที่เป็นผู้เสียหายรายนี้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองมาพบสภาพรถจักรยานยนต์เสียหายในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมาจึงมีการไปย้อนดูภาพจากกล้องวงจรปิดของอาคารที่พักก่อนจะพบว่าเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมามีผู้หญิงสองรายเข้ามาก่อเหตุตามคลิปวงจรปิดซึ่งตนเองจำได้ว่าหนึ่งในสองของผู้หญิงที่เข้ามาก่อเหตุเป็นคู่กรณีที่เคยมีความบาดหมางกันเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวกับตนเองมาเมื่อหลายปีก่อนที่ชื่อว่าอ้อม และก่อนหน้านั้นเมื่อ ช่วงเย็นวันที่ 5 มกราคม ตนเองก็พึ่งมีเรื่องตบตีกันกับคู่กรณีที่ชื่ออ้อมมาก่อน


เนื่องจากคู่กรณีหาว่าตนเองยังแอบคบหากับแฟนของคู่กรณีอยู่ทำให้ทางคู่กรณีไม่พอใจและมีการติดตามมาจากผู้ชายที่บังเอิญมาเจอตนเองในวันที่ 5 มกราคมและช่วงบ่าย ยืนยันว่าตนเองกับฝ่ายชายไม่ได้มีการคบหาหรือเจอหน้ากันมานานกว่าสามปีแล้วและในวันที่ 5มกราคมที่ผ่านมาที่ฝ่ายชายมาเจอก็เป็นการอ้างว่าต้องการมาเจอเพื่อสอบถามสารทุกข์สุกดิบตามปกติไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับชู้สาวหรือเกินเลยใดๆ แต่ขณะที่มีการพยามอธิบายหลังจากที่ทางคู่กรณีเดินทางตามมาเจอต้นและฝ่ายชายอยู่ด้วยกันก็ไม่มีการรับฟังจึงเกิดการตบตีกันในช่วงเย็นของวันที่ 5 มกราคม


สำหรับความสัมพันธ์ของตนเองและฝ่ายชายรู้จักกันมาเมื่อ 10 ปีที่แล้วและมีการพูดคุยและคบหากันก่อนที่ตนเองจะทราบว่าฝ่ายชายมี การคบหาอยู่กับฝ่ายหญิงที่ชื่อว่าอ้อมอยู่แล้วตนเองจึงพยายามยุติความสัมพันธ์และหลีกเลี่ยงการพบเจอแต่ฝ่ายชายก็ยังคงตามตื๊อและมีการพยายามกลับมาขอคืนดีอีกรวมทั้งหมดสามครั้งตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทุกครั้งจะมีการอ้างว่าได้มีการพูดคุยกับทางคู่กรณีที่ชื่ออ้อมแล้วก่อนที่ครั้งสุดท้ายเมื่อสามปีที่แล้วตนเองจะตัดสินใจตัดขาดจากทั้งคู่และย้ายบ้านหนีมาจากจังหวัดนนทบุรีย้ายมาอยู่ในโซนกรุงเทพ เพื่อไม่ต้องการให้มีการเจอกันแต่ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาฝ่ายชายพยามติดต่อตนเองผ่านทางลูกชายรวมถึงเพื่อนของตนเองหลายครั้ง รวมถึงฝ่ายหญิง ก็ได้มีการโทรมาคุกคามรบกวนชีวิตตนเองอยู่หลายครั้งจนตนเองต้องมีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มาสามครั้งแต่ฝ่ายหญิงก็ยังหาเบอร์และโทรมาคุกคามได้รวมถึงมีการปลอมเฟสเข้ามาขอเป็นเพื่อนเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของตนเองอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่จะมาเกิดปัญหาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มกราคมและช่วงกลางดึกของวันที่ 6 มกราคมเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว ต่อจากนี้ตนเองอยากขอให้คู่กรณีทั้งสองคนยุติปัญหาและเลิกคุกคามรวมถึงอยากขอให้สื่อมวลชนหรือเจ้าที่ตำรวจช่วยประสานแจ้งให้ฝ่ายชายเลิกมาติดตามตอแยกับตนเองเนื่องจากว่าทุกครั้งที่ฝ่ายชายพยายามติดต่อตนเองตนเองจะได้รับการคุกคามจากทางฝ่ายคู่กรณีที่ชื่ออ้อมทำให้เกิดความไม่สบายใจเพราะตนเองกลัวว่าอาจจะถูกทำร้ายจากทางคู่กรณีที่ไม่พอใจเพราะตนเองปัจจุบันอาศัยอยู่เพียงคนเดียว


ส่วนความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์ของตนเองมีการเข้าไปให้ทางร้านตรวจสอบความเสียหายพบว่ามีมูลคาบอยู่ที่ 17,000 บาทซึ่งตนเองอยากให้ทางคู่กรณีเข้ามาดำเนินการรับผิดชอบซ่อมแซมให้รถกลับไปเป็นเหมือนเดิมและยุติความสัมพันธ์ทุกอย่าง ซึ่งในวันนี้จะมีการเดินทางไปยังสน. คันนายาวเพื่อไปให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้เรียกคู่กรณีมาเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย



คุณอาจสนใจ

Related News