เพื่อนบ้านเสพยาคลั่ง โวยวาย-หาเรื่อง นานนับปี วอนหน่วยงานช่วย

จากกรณีเฟสบุ๊ก Phattara Ken Kajornchutiwat เมื่อวานนี้เวลา 22.00 ณ ได้โพสข้อความพร้อมคลิปวีดีโอเผย ระบุผมขอความกรุณาเพื่อนทุกคน ใครมีช่องทาง ช่วยจัดการได้ ขอบคุณมากครับเติมจนหลอน ใหญ่ชิบ*** ตำรวจทำอะไรไม่ได้พร้อมคลิปเสียงวีดีโอจำนวน 3 คลิป

ทีมข่าวได้เดินทางไปยังหมู่บ้านนันทนากาเด้น ปทุมธานี พูดคุยกับนาย ภทร คจรชุติวัต ผู้ร้องเรียนเปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเป็นเพื่อนบ้านกับนายแค้ม ซึ่งในบ้านนายแค้ม อาศัยอยู่กับ พ่อและแม่ อยู่มาร่วม 4 ปี ก่อนหน้าที่อยู่กันอย่างเป็นสุข ที่บ้านตนมี ภรรยา ลูกอีกสองคน คนนึงอายุ 6 ขวบ คนนึง 10 ขวบ ก่อนหน้านี้เวลาไม่อยู่บ้านมีคนมาส่งพัสดุ นายแค้ม จะคอยออกมารับของให้เนื่องจากบ้านติดกัน มีอะไรจะท่อยที ท่อยอาศัยกันตลอด เป็นเด็กดีคนหนึ่งก็ว่าได้

แต่มาเมื่อช่วงปีหลังที่ผ่านมา นายแต้ม มีอาการเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เหตุเกิดขึ้นเนื่องจากนายแค้ม มองหน้าตนและถามว่า “มึงมีอะไร ต่อยกับกูเปล่า” และพูดจาด่าทอ ทำให้ตนถึงกับ งง ว่าตนไปทำอะไรให้ แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องมีราวอะไร บ่อยครั้งเริ่มส่งเสียดังออกมาจากภายในบ้าน รบกวนเพื่อนบ้านเวลากลางคืน คล้ายอาการของคนหลอนยาเสพติด บางครั้งมีอาการคลุ้มคลั่งจนพ่อแม่เอาไม่อยู่ จนถึงขั้นแจ้งตำรวจมาจับ จับไปแค่วันเดียว สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยตัวออกมา

ของตนได้รับความเสียหาย อีกทั่งบ้านของตนมี ภรรยา และลูกอีกสองคน เกรงว่าจะได้รับอันตรายเนื่องจากบ้านใกล้กัน เวลาจะออกไปไหนต้องคอยระวัง ว่านายแค้มจะออกมาทำร้ายหรือไม่ ทำให้ตนพักอาศัยอย่างไม่มีความสุข วอนหน่วยงานช่วยเข้ามาดูแล หรือจับไปบำบัด วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยมาสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิด ถ้าเป็นไปได้ช่วยทำเรื่องส่งให้หน่อยงานที่เกี่ยวของมาดูแลต่อไป

ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสถาพร พ่อของนายแต้ม เปิดเผยว่าลูกชายยอมรับว่าลูกชายของตนจิตไม่ปกติจริงเนื่องจากแอบหนีไปกินยา เขียวเหลือง ยาแก้ปวด หรือที่เรียกว่ายาแท็กซี่ ยาเขียวเหลือง กินกับโค้ก กินไปแล้วจะรู้สึกมึนเมา

เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกชายเลิกกับแฟน เวลาตนและภรรยาออกไปขายของ ลูกชายจะแอบไปซื้อยาเขียวเหลือง มากินตลอด ตนพยายามพูดแล้ว ห้ามแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เวลาตนและภรรยาออกไปทำงาน ลูกชายจะขายของออนไลน์อยู่บ้านคนเดียว เวลาออกไปข้างนอก ลูกชายจะไม่มีอาการ แต่เวลาอยู่บ้านลูกชายจะมีอาการหูแวว พูดจาไม่รู้เรื่อง จู่ๆก็โมโห โวยวาย ตนเข้าใจเพื่อนบ้าน ตนก็ยอมรับว่าลูกตนทำจริง แต่ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร

พยายามติดต่อหลายหน่วยงานแต่ไม่มีหน่วยงานไหนรับไปบำบัด ตนยินดีให้หน่วยงานรับลูกชายไปบำบัดรักษา ตอนนี้ตนก็รอหน่วยงานติดต่อมาอยู่ แต่ไม่มีหน่วยงานไหนมา ตนยอมรับทุกอย่างขอแค่หน่วยงานช่วยเข้ามารับลูกชายไปบำบัด