จุกอก! ติดโควิดยกบ้าน 9 คน เสียชีวิตไล่เลี่ยกัน 3 คนใน 1 สัปดาห์ พ้อไม่รู้จะติดต่อใคร เหมือนรอวันตาย

วันที่ 15 ก.ค.2564 นางชัญญา บุญเกิด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตสาทร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พบครอบครัวหนึ่งมีสมาชิก 9 คน ติดเชื้อโควิด ล่าสุดเสียชีวิตไปแล้ว 3 คน ภายในเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์ ติดเชื้อ 3 คน อีก 3 คน กักตัวเฝ้าสังเกตอาการอยู่ภายในบ้านซึ่งเป็นตึกแถว ในซอยเจริญราษฏร์ 1 แยก 5 เขตสาทร กทม.

โดยก่อนหน้านี้มีสมาชิกคนหนึ่งเป็นชาย วัย 60 ปี ไม่สบายและอาการทรุดหนักลงอย่างรวดเร็วในเวลาแค่ไม่กี่วัน ทราบผลตรวจตรวจติดเชื้อโควิดและเสียชีวิตลงในวันที่ 6 ก.ค. ทำพิธีฌาปนกิจวันที่ 7 ก.ค. จากนั้นสมาชิกคนอื่นภายในบ้านเริ่มทยอยเจ็บป่วย มีอาการคล้ายติดเชื้อโควิดกันทุกคน แต่เนื่องจากมีทั้งผู้สูงอายุ รวมไปถึงเด็กอายุ 14 ปี ทำให้ไปยืนรอตรวจเชื้อโควิดที่จุดตรวจเชื้อของภาครัฐไม่ไหว จึงนอนรอดูอาการที่บ้าน

ค่ำวันที่ 9 ก.ค. คนในครอบครัวประสานงานเข้ามายังทีมงานแจ้งว่า มีคุณแม่และคุณยายเริ่มมีอาการไม่ดีหายใจไม่สะดวกแล้ว ขอถังออกซิเจนช่วยเหลือ ตนจึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบว่าสมาชิกในบ้านนี้อาศัยรวมกันอยู่ชั้นล่างของบ้าน ไม่สามารถแยกได้ เพราะข้างบนบ้าน มีสมาชิกอีกคนหนึ่งที่ได้รับการยืนยันการตรวจเชื้อ จึงให้แยกอยู่บนบ้านคนเดียว

คนที่เหลือจึงย้ายมาข้างล่างอยู่รวมกัน เลยกลายเป็นเหตุให้เชื้อระบาดกันภายในครอบครัว เมื่อทีมงานไปถึงได้นำท่อออกซิเจน เข้าไปช่วยคุณยาย วัย 72 ปี ค่าออกซิเจนตกลงต่ำเหลือประมาณร้อยละ 70 เมื่อให้ออกซิเจน ค่าออกซิเจนเริ่มดีขึ้นตามลำดับจนถึงประมาณ 90 กว่า จึงประสานหน่วยงานภาครัฐเพื่อมารับตัวทั้งคุณยาย วัย 72 ปี และหญิงวัย 54 ปี ที่มีอาการหนักให้ไปรักษาตัวในโรงพยาบาล จนเที่ยงคืนก็มีรถพยาบาลเข้ามารับคุณยายไปโรงพยาบาล

ต่อมาเช้าวันที่ 10 ก.ค. รถกู้ภัยของ อพปร.เขตสาทร ก็เข้ามารับหญิง วัย 54 ไป คุณหมอได้โทรมาแจ้งญาติว่าคุณยาย อาการหนักต้องเจาะคอช่วยหายใจ แต่ทั้งสองรายอาการทรุดลงตามลำดับ และเสียชีวิตไปพร้อมกันในวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา รวมแล้วครอบครัวนี้สูญเสีย 3 ชีวิตไปในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งครอบครัวนี้รู้สึกตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว

นางชัญญา กล่าวว่า “บอกตามตรงว่าเสียใจ ทำไมวิธีการบริหารจัดการโควิดของภาครัฐล้มเหลว ทำไมช่วยเหลือคนติดเชื้อโควิดไม่ได้ ทำไมไม่รีบแยกปลาป่วยออกจากน้ำ แยกผู้ติดเชื้อออกจากบ้านโดยเร็ว แต่ปล่อยให้อยู่รวมกัน พอติดเชื้อคนหนึ่งก็ลามไปทั้งครอบครัว แต่ครอบครัวเขาช็อกมากกว่าจนทำอะไรไม่ถูก เตียงไม่ต้องมีคำว่ารอ ถ้าเรามีวัคซีนดี ๆได้ฉีดกันอย่างรวดเร็วทุกคน ถ้ามีการบริหารจัดการที่ดี ทุกอย่างนี้ยังไม่เกิดขึ้นกับทุกครอบครัวที่สูญเสีย”

เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ทางญาติได้นำร่างของยาย วัย 72 ปี และหญิงวัย 54 ปี ไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดโสมนัสฯ ในเวลาไล่เลี่ยกัน พระสงฆ์ 4 รูป ทำพิธีสวด มีญาติร่วมพิธีเพียงไม่กี่คน เนื่องจากบางส่วนติดเชื้อต้องรับการรักษาตัว บางส่วนเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต้องกักตัวไม่สามารถมาร่วมพิธีได้ ท่ามกลางความหดหู่ใจ เพราะไม่คิดว่าจะต้องมาสูญเสียคนในครอบครัวจากการติดเชื้อโควิด ถึง 3 คน ภายใน 1 สัปดาห์

นายธนู อายุ 28 ปี ลูกบุญธรรมของยายวัย 72 ปี ที่เสียชีวิต เผยว่า มันหดหู่มาก เพราะวันที่ 15 ก.ค. ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของตน ตนเองอาศัยอยู่บ้านอีกหลังกับครอบครัวของแฟนที่ จ.นครปฐม พร้อมเล่าว่าจุดเริ่มต้นพ่อบุญธรรม อายุ 60 ปี มีอาการเป็นไข้จึงไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง ทางคลินิกบอกสุ่มเสี่ยงจึงส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แจ้งผลว่า “เป็นไข้หวัดใหญ่เฉย ๆ” แล้วให้ยามาทาน จากนั้นพ่อบุญธรรม ก็กลับบ้าน

ผ่านไป 2-3 วัน กินยาตามหมอบอกแต่อาการไม่ดีขึ้น พ่อบุญธรรม โทรมาหาตนบอกว่า “พ่อเหนื่อยไม่ไหวแล้ว ไม่รู้เป็นอะไร” ตนจึงให้อา (หญิง วัย 54 ที่เสียชีวิต) พาไปโรงพยาบาลในวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งขณะนั้นพ่อบุญธรรม ไม่รู้สึกตัวแล้ว พอไปถึงโรงพยาบาลหัวใจหยุดเต้น หมอตรวจวินิจฉัยเร่งด่วนพบว่าปอดขึ้นฝ้า ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงพ่อบุญธรรมได้เสียชีวิตลง

หลังจากนั้นคนที่บ้านเริ่มมีอาการไอนิดหน่อย ตนอยากให้ไปตรวจ แต่แม่บุญธรรม อายุ 72 ปี ไปไม่ไหว ตนจึงพยายามหาวิธีจ้างเจ้าหน้าที่มาตรวจหาเชื้อให้แม่บุญธรรม ที่บ้าน ไม่นานค่า ออกซิเจนลงลงฮวบ 60-70 กว่า ๆ จากนั้นแม่ของตนถึงอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกัน กับแม่บบุญธรรม ติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามามาช่วยเหลือนำออกซิเจนมาให้ ก่อนพาแม่บุญธรรม ไป โรงพยาบาล

ส่วนอา วัย 54 ปี ก่อนที่เสียชีวิตนั้น ได้ไปกักตัวที่พร้อมกับหลานชาย 2 คน อายุ 14 กับ 16 ที่ โรงแรมแห่งหนึ่ง เพราะต้องแยกจากครอบครัวเพื่อกักตัวสังเกตอาการ ต่อมาวันที่ 13 ก.ค. คุณอา วัย 54 ปี เริ่มมีอาการ จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ในวันเดียวกันนี้แม่บุญธรรม วัย 72 ปี ของตนก็ได้เสียชีวิตลงจากโควิด และช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ หมอได้โทรมาแจ้งว่าว่าคุณอาวัย 54 ปี ได้เสียชีวิตแล้ว

วันรุ่งขึ้นหลานชาย 2 คน วัน 14 กับ 16 ซึ่งกักตัวอยู่ที่โรงแรม ทราบผลตรวจติดโควิดทั้ง 2 คน แต่ยังไม่มีอาการ ยังหาสถานที่รับรักษาไม่ได้ ส่วนนายสมศักดิ์ คุณปู่ ซึ่งอยู่บ้านหลังเดียวกันนั้น ก็ติดโควิดเช่นกัน เข้ารับการรักษาแล้วที่ รพ.บางมด “ผมต้องเข็มแข็งแต่มันร้องไห้อยู่ในใจ มันทรมานตรงที่ผมอยู่อีกที่ แต่มาช่วยเขาไม่ได้ มันหดหู่สะเทือนใจ ถ้าผมติดเชื้อคงไม่มีใครช่วย ประสานงานต่อ ผมเข้าใจทุกภาคส่วนที่ลำบากพยายามช่วยเหลือพวกเรา ”

ผู้สื่อข่าวได้คุยกับนางขนิษฐา (สงวนนามสกุล) แม่ของนายธนู ผ่านทางโทรศัพท์ซึ่งขณะนี้กักตัวอยู่ภายในบ้านรวม 3 คน ได้แก่ แม่ของตน และพี่ชายเป็นผู้พิการ ทีแรกหมอแจ้งว่าไม่พบเชื้อ ล่าสุดเมื่อวานนี้หมอโทรมาแจ้งผลตรวจว่าทั้งสามติดโควิด (สรุปบ้านหลังนี้อยู่ 9 คน ติดโควิดทั้งหมด) หลังทราบผลตนรู้สึกช็อก ตนติดต่อไปยัง 1669 ตอนนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าบติดต่อกลับมา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับตัวไปรักษา โดยเฉพาะพี่ชายที่เป็นผู้พิการและคุณแม่ เป็นห่วงมาก

ตนรู้สึกหมดแรงแต่ก็สู้ แทบไม่มีแรงต้มยากิน ได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ กินยาที่มีอยู่ เช่น ฟ้าทะลายโจร ยาลดไข้ แก้ไอ ตอนนี้เหนื่อยหอบ อยากเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง พร้อมระบุว่า คนในบ้านติดโควิดเสียชีวิต 3 คน มันไม่มีความรู้สึกเสียใจแต่มันจุก

พอไม่มีกำลังใจมันก็ท้อ คิดอยากจะกิน ยานอนหลับโดยที่ไม่รับรู้อะไรเลยเพราะมืดแปดด้าน ไม่รู้จะทำยังไง ขอความช่วยเหลือจาก หน่วยงานไหนก็ไม่มีใครมาช่วย ประสานเพจต่าง ๆ ก็เงียบหายไป เราอยากให้คนมาช่วย ตอนนี้ คุณแม่ และพี่ชายพิการของตนเริ่มมีอาการไอ แต่ไม่มีไข้ พี่ชายบที่พิการนอนอยู่บนบ้าน ตนขึ้นไปดูไม่ได้ เพราะเดินขึ้นไปไม่ไหว

“ตนเข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสีย ครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว ทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่จะไปร่วมพิธีฌาปณกิจศพก็ไปไม่ได้ มันไม่มีคำบรรยาย เหนื่อยใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใครไม่เป็นเราจะไม่มีวันเข้าใจ โรคมันน่ากลัวและเป็นที่น่ารังเกียจ ขอกราบให้ช่วยชีวิต กันหน่อยให้เขาได้มีชีวิตต่อ ไม่มีใครที่อยากติดเชื้อโควิด ตนทำได้แต่รอความช่วยเหลืออย่างมีความหวัง ไม่รู้จะติดต่อใคร เหมือนรอวันตาย”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5v4bAR3VtFM