สังคม
ลุงป้าชาวนาโอด ถูกสหกรณ์ตามยึดรถกระบะ หลังไปเซ็นค้ำประกันปุ๋ยให้เพื่อน
11 พ.ย. 2568
108 views
ลุงกับป้า ชาวไร่ชาวนาที่จังหวัดกำแพงเพชรเดือดร้อนหนัก ถูกสหกรณ์ตามยึดรถกระบะที่ใช้ทำมาหากิน หลังไปเซ็นค้ำประกันปุ๋ยให้เพื่อนในราคาหลักหมื่น แต่สุดท้ายสหกรณ์แจ้งยอดหนี้พุ่งไป 4 แสนบาท ขอรวมหนี้เก่าที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย
ลุงสมัย ป้าเพ็ญ ชาวนาที่จังหวัดกำแพงเพชร เล่าให้ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ฟังถึง เดือดร้อนหนัก หลังถูกสหกรณ์การเกษตรตามยึดรถกระบะที่ใช้ทำมาหากิน ทั้งที่ตัวเองเพียงแค่เซ็นค้ำประกันซื้อปุ๋ยให้เพื่อนบ้านมูลค่าหลักหมื่น แต่กลับกลายเป็นหนี้พุ่งกว่า 4 แสนบาท
โดยลุงสมัย บอกว่า เรื่องเริ่มจากการค้ำประกันซื้อปุ๋ยให้เพื่อน ชื่อนายบุญปลูก เมื่อประมาณปี 2563 ในวงเงินเพียง 30,000 บาท ปรากฏว่าเพื่อนชำระหนี้ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง สุดท้ายขาดส่ง ทำให้สหกรณ์จึงตั้งเรื่องฟ้องเพื่อนลุงสมัยรวมถึงลุงสมัยด้วย และกลายเป็นว่าสหกรณ์ไม่ได้ฟ้องแค่เรื่องซื้อปุ๋ยเท่านั้น
เพราะไปพบว่าเมื่อปี 2553 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นายบุญปลูก เพื่อนลุงสมัยไปเข้าโครงการรับจำนำข้าวและมีการสวมสิทธิ์กันทำให้เกิดปัญหา และเพื่อนลุงสมัยเป็นหนี้สหกรณ์ 300,000 กว่าบาท ทำให้ทางสหกรณ์ฟ้องรวมยอดหนี้มาในคราวเดียวกันด้วย จนตนเองต้องเสียเวลาไปขึ้นศาลและได้ขอคัดค้าน พร้อมชี้แจงต่อศาลว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงิน 300,000 บาท ตนเพียงเข้าไปเซ็นค้ำประกันซื้อปุ๋ยในราคา 30,000 บาทเท่านั้น ซึ่งศาลก็รับฟังและนัดพิจารณาไต่สวนอีกครั้ง
ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ในสหกรณ์การเกษตรดังกล่าวมาบอกกับลุงสมัยว่า รอบหน้าที่ขึ้นศาลไม่ต้องคัดค้านแล้วให้ยอมรับไปเลย ศาลจะได้ตัดสินเสร็จเร็วๆไม่ต้องเสียเวลา
ส่วนการชำระหนี้ที่ นายบุญปลูก ค้างกับสหกรณ์ไว้เดี๋ยวทางสหกรณ์จะไปติดตามยึดทรัพย์จากนายบุญปลูกเอง สำหรับลุงสมัยสหกรณ์จะขอให้รับผิดชอบใช้หนี้แค่ 30,000 บาทเท่านั้นและจะช่วยถอนชื่อออกจากคดีฟ้องร้อง
ซึ่งลุงสมัยก็หลงเชื่อตามนั้น ไม่คัดค้านในศาลแล้วนำเงินไปมอบคืนให้กับทางสหกรณ์ แต่สุดท้ายสหกรณ์กลับไม่ทำตามที่พูด ไม่รับเงิน 30,000 บาทและไม่ยอมถอนชื่อตนเองออกจากคดีฟ้องร้อง แถมกลับนำหนี้เก่าของนายบุญปลูก และคนอื่นๆที่ไปร่วมกับค้ำประกันมารวมเป็นยอดหนี้เดียวกันหมดเลยรวมๆแล้วประมาณกว่า 4 แสนบาท และเดินหน้าฟ้องร้อง ยึดทรัพย์สินทันที จนมีหนังสือจากกรมบังคับคดีว่า จะยึดรถกระบะของลุงสมัย เพราะติดตามทรัพย์จากนายบุญปลูกไม่ได้ นายบุญปลูกและคนค้ำคนอื่นไม่มีทรัพย์สินอะไรที่ถือครองไว้เองเลย
ลุงสมัยเล่าว่า ตนได้เคยถามกับทางสหกรณ์ว่าตอนนั้นที่เคยรับปากให้คำมั่นสัญญาว่า หากตนไม่คัดค้านจะยอมถอนชื่อออกจากคดีและให้ใช้เงินแค่ 30,000 บาท ทางสหกรณ์ตอบกลับมาว่าคำพูดเก่าๆเรื่องเก่าๆไม่ต้องพูดถึงแล้วตอนนี้ยอดหนี้ของนายบุญปลูกมันมากกว่า 400,000 บาทด้วย ดังนั้น สหกรณ์ไม่รับเงิน 30,000 บาทของลุงสมัยแล้ว จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเดียว
ลุงสมัย บอกว่า ตอนนี้ครอบครัวลุงสมัยเดือดร้อนหนักต้องหยุดรับจ้าง ไม่มีรายได้ ขณะที่สหกรณ์ส่งทนายมาขีดเส้นตายยึดรถภายในวันที่ 24 เดือนนี้ สร้างความเครียดและสิ้นหวังให้กับสองลุงป้าที่ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร
ลุงสมัยยืนยันว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนี้กว่า 4 แสนบาทนั้น และอยากขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าตรวจสอบ เพราะเห็นว่าการกระทำของสหกรณ์ไม่โปร่งใส และอาจเอาเปรียบชาวบ้านรายอื่นด้วย พร้อมวอนให้มีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้เกษตรกรที่หาเช้ากินค่ำต้องตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qKmgYHFPLw8
แท็กที่เกี่ยวข้อง เซ็นค้ำประกัน ,กำแพงเพชร