‘หมอบี’ ดอดให้ปากคำ ยันทำด้วยใจบริสุทธิ์ - มติวัดสั่งห้ามยุ่งเกี่ยว เผยเงินบริจาคหายไปกว่า 5 ล้าน

หมอบี ดอดเข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวานนี้ ใช้เวลากว่า 9 ชั่วโมงสอบปากคำ ปัดให้รายละเอียด ระบุตอบไปหมดแล้วในรายการแฉ ด้านตำรวจ ระบุ พบมูลความผิด ดึงเงินบริจาคใช้ผิดวัตถุประสงค์

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (7 สิงหาคม) หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ หรือ นายเสกสันต์ ทรัพย์สืบสกุล ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม โดยเดินทางมาพร้อมทนายความ หอบเอกสาร หลักฐาน มาชี้แจงข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวน ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 9 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาพูดสั้นๆ กับสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หมอบี บอกว่า หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็เดินทางมาให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบฯ ส่วนรายละเอียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หมอบีบอกว่า ได้ตอบทุกอย่างไปในรายการ (รายการแฉ) หมดแล้ว ส่วนเรื่องเลขา ตนยังไม่ขอตอบรายละเอียดใดๆ ตนเชื่อว่า "ถ้าทำดี ทำด้วยใจบริสุทธิ์ มันไม่มีทางขัดกับกฎหมาย มันถูกต้อง"

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นเรื่องทางการเมืองในส่วนของกลุ่มพรรคพวกที่อยู่กับหลวงพ่อหรือไม่ หมอบี ไม่ตอบคำถามนี้ แล้วขึ้นรถที่มาจอดรอออกไปทันที

ด้าน พันตำรวจเอกเอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หมอบี เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวัน นำเอกสารที่เกี่ยวกับการเงินมามอบให้เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และยืนยันว่าไม่หลบหนี ซึ่งการมาพบพนักงานสอบสวนก่อนที่จะมีหมายเรียกหรือหมายจับนั้น เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่ไม่ได้ส่งผลต่อรูปคดี หากพบกระทำความผิด ก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ทันที

โดยตอนนี้ทางวัดยังไม่ได้แจ้งความ จึงยังไม่เป็นคดีความ แต่กองปราบฯ รับเรื่องแล้ว ได้ส่งตำรวจไปพบเจ้าอาวาสแล้ว เรื่องนี้มีผู้มาแจ้งให้ทางตำรวจกองปราบตรวจสอบตั้งแต่ประมาณต้นเดือนมีนาคม ว่าพบข้อพิรุธของการเบิกถอนเงินบริจาคออกจากบัญชีหมอบี แล้วเอาไปให้เจ้าอาวาสไม่ครบ

ส่วนกรณีที่ไปซื้อที่ดินเป็นชื่อของตัวเองอ้างเป็นสถานปฏิบัติธรรม ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เงินที่นำไปใช้ส่วนตัว จากการตรวจสอบเบื้องต้นก็พบว่า มีมูลกระทำความผิด ส่วนเจ้าอาวาสหรือคณะกรรมการที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะมีความผิดด้วยหรือไม่ ถ้าพิสูจน์แล้วว่าหมอบีมีความผิด ก็ต้องดูเจตนาของวัดว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่

---------------------------------------------------

เมื่อวานนี้ (7 สิงหาคม) ที่วัดพระบาทน้ำพุ มีประชุมคณะกรรมการและไวยาวัจกร ด้านเจ้าอาวาสเผยรู้สึกกังวล หลังมีกระแสข่าวที่เกิดขึ้น วอนหมอบีออกมาชี้แจง ตอบข้อสงสัยสังคม ยอมรับได้รับรายงานจากคนใกล้ชิดหมอบี ส่งมอบเงินบริจาคไม่ครบ เงินหายไปกว่า 5 ล้านบาท

พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการของวัดและไวยาวัจกรโดยมี รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี , เจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบลร่วมประชุม รวมถึง ทนายเกิดผล ทนายความของวัด และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรีด้วย

หลวงพ่ออลงกต เปิดเผยว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน หมอบีเข้ามาปาวารณาตัวขอเป็นจิตอาสาจัดการบรรยายธรรมะ ซึ่งได้นิมนต์อาตมาไปเป็นวิทยากร

กระทั่งปี 62-63 หมอบี ขอเปิดบัญชีธนาคารโดยใช้ชื่อว่า "ใจฟ้า อาทรประชานารถ" เพื่อรับเงินบริจาคจากญาติโยมและนำมาถวายอาตมา ช่วงแรกๆมีคนบริจาคไม่มาก หลักแสน หลักล้านต้นๆ ต่อมากระแสตอบรับดี ประกอบกับหมอบีมีชื่อเสียง เป็นอินฟลู ทำให้มีคนเริ่มมาทำบุญ บริจาคเงินกับหมอบีมากขึ้น ซึ่งบางโครงการใหญ่ๆ เช่น ไถ่ชีวิตโค - กระบือ มียอดเงินบริจาคเป็นหลักสิบล้าน ตอนนั้นหมอบีก็โอนตรงให้กับทางโรงฆ่าสัตว์ ที่ผ่านมาจึงไม่เคยเกิดปัญหา

แต่ต่อมาพอเริ่มมีคนบริจาคเงินเข้ามามากขึ้น ประกอบกับหมอบีโด่งดังมีชื่อเสียงมากขึ้นและเริ่มมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเงินบริจาค ให้ทำทุกอย่างโปร่งใส ตรงไป ตรงมา /กระทั่งคนใกล้ชิดหมอบีที่อยู่ในคณะทำงานของหมอบีเอง มาแจ้งอาตมาว่า หมอบีมีการนำเงินบริจาคออกไปบางส่วน เช่น โครงการซื้อเครื่องมือแพทย์ / โครงการไถ่ชีวิตโค - กระบือ ทำให้อาตมาเริ่มทราบข้อเท็จจริงและเห็นความผิดปกติแบบสลัวๆ

ทางหมอบี ได้เคยเข้ามาชี้แจงก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่ตำรวจสอบสวนกลางเข้ามาสอบถามข้อมูล กับทางวัดเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน พร้อมมีหลักฐานบางส่วนที่สอดคล้องรับกัน ว่าเงินบริจาคที่หมอบีนำมาส่งมอบให้ ทางวัดนั้นยอดเงินหายไปประมาณ 5 ล้านกว่าบาท ซึ่งวันนี้ในการประชุมได้มติแล้วว่าจะเดินทางไปลงบันทึกประจำวันและเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความต่อไป

หลวงพ่ออลงกต อยากฝากถึงหมอบีด้วยว่า ให้ออกมาชี้แจงเพื่อตอบข้อสงสัยของสังคม ซึ่งขณะนี้ทางวัดถือว่าชี้แจงไปแล้วเท่าที่ทราบและมีข้อมูล ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของหมอบีต้องออกมาตอบพ่อสักถามของสื่อมวลชนและให้ความกระจ่างต่อสังคม

สำหรับเรื่องการซื้อที่ดิน หลวงพ่ออลงกต บอกว่า ที่ดินของวัดมีกว่า 1,000 ไร่ อำเภอหนองม่วง ซึ่งเป็นชื่อของวัดและการซื้อที่ดินของวัดแต่ละครั้ง ผ่านการพิจารณาแล้วว่า ซื้อเพื่อสร้างสาธารณะประโยชน์ เช่น โรงเรียน / สถานอนุบาลผู้สูงอายุ เป็นต้น

ส่วนที่มีการตกลงเรื่องส่วนแบ่ง 70 -30 หรืออไม่นั้น หลวงพ่ออลงกตบอกว่า"เธอดูหน้าหลวงพ่อ" หลวงพ่อจะเป็นอย่างนั้นไหม หลวงพ่อทำมา 30 ปี ถ้าพ่อทำแบบนี้ พ่อจะเป็นยังไง จะอยู่ได้ไหม

ด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความของทางวัด บอกว่าที่ประชุมวันนี้มีมติสำคัญ 4 เรื่อง คือ

1.สั่งห้ามหมอบี ยุ่งเกี่ยวกับกิจการของวัดทุกอย่าง โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

2.ขอให้ หมอบี ปิดบัญชีที่นำชื่อโครงการใจฟ้า หรือ ชื่อหลวงพ่อ หรือ ชื่อวัดไปใช้รับเงินบริจาค ซึ่งตอนนี้ตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการปิดบัญชีดังกล่าวทางคณะกรรมการจะหามาตรการเพื่อป้องกันต่อไป

3.โครงการร้านกาแฟที่หมอบีเคยดำเนินการมีคำสั่งให้ยุติ ตลอดจนการเข้าไปพิจารณาว่ามีส่วนไหนบ้างที่หมอบีถือหุ้นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง

4.กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับจิตอาสาของวัดพี่เสนอตัวมาช่วยวัด ขณะนี้มีมติให้ยุติการรับอาสาทั้งหมดไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะปกติและจะมีการพิจารณาใหม่

ส่วนประเด็นเรื่องบ้านและทรัพย์สินอื่นๆต้องรอให้ทางหมอบีออกมาตอบคำถามทั้งหมดก่อน แต่ส่วนเงินรับบริจาคจะเป็นการฉ้อโกงวัดหรือฉ้อโกงประชาชนจะต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อน

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเบื้องต้นของทางเจ้าหน้าที่ สรุปการรับเงินบริจาคจากหมอบีที่ถวายหลวงพ่อเพื่อใช้ในโครงการตามดำริ ยอดรวมจากธนาคารอยู่ที่ 31,145,300 บาท แต่มียอดถวายหลวงพ่ออยู่ที่ 25,741,100 บาท โดยมียอดรวมต่างกันอยู่ที่ 5,404,200 บาท




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pUqfiBI6EW8