สอบสวนกลาง ทวงคืนทรัพย์สินหมื่นล้าน สู่วัดพระบาทน้ำพุ ยึดโฉนดที่ดิน 411 ฉบับ รถยนต์ 60 คัน

วันนี้ (13 พ.ย.68) ที่กองบังคับการปราบปราม ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. , พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ร่วมกับ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. และนายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ง. , นายจรงค์ เกราะเหมาะ ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษสำงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ร่วมแถลงข่าว ปฏิบัติการคืนศรัทธา ทวงคืนทรัพย์สินสู่วัดพระบาทน้ำพุมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท

พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ระบุว่า หลังจากที่มีการจับกุมอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ หรือ ทิดอลงกต ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้น 3 เดือนผ่านมา เราได้ร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ส.ต.ง. ,ป.ป.ท. , ป.ป.ง. ร่วมมือกับทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนการ ในการดำเนินการสืบสวนในประเด็นต่างๆที่สงสัย เบื้องต้นสามารถยึดทรัพย์สินได้บางส่วนในการจับกุม แต่เชื่อว่าความศรัทธาของประชาชนมีมากกว่าที่เราพบ จึงเป็นที่มาที่ไปของการดำเนินการแถลงผลความคืบหน้าในการดำเนินการในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ ยังระบุอีกว่า ในส่วนของโฉนดที่ดินที่ยึดมาได้ 7200 ไร่ แต่จากการสืบสวนยังพบว่ามีมูลค่าทรัพย์สินอีกประมาณ 200 กว่าล้านบาท ที่ออกไปในรูปแบบต่างๆ เช่นการกู้ยืม เพราะฉะนั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่ามีเล็ดลอดของทรัพย์สิน เพราะฉะนั้นเราจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ใครที่รู้ว่าถือของทรัพย์สินโดยไม่ชอบอยู่ ก็ให้โอกาสในการนำมาคืน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า ตั้งแต่ที่เรามีการจับกุมทิดอลงกต และหมอบี เราก็รู้ว่าจากการสืบสวนของกองบังคับการกับการกองกำกับการ 1 ได้ทำเรื่องนี้ พบว่าเบื้องลึกของเรื่องนี้มีทรัพย์สินอีกจำนวนมาก ไม่ใช่แค่เคสหมอบี และหมอบีเป็นแค่จุดเริ่มต้นของเรื่อง ที่เราต้องทำการสืบสวนต่อนำข้อมูลทั้งหมดมาขยาย เพื่อนำทรัพย์สินหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ใช้เวลาพอสมควร แต่วันนี้ได้ข้อสรุปน่าเชื่อถือเป็นพยานหลักฐาน บางส่วนอาจจะยังไม่สรุป แต่จะมีการสืบสวนสอบสวนต่อ

ทั้งนี้มีหลายประเด็นที่ประชาชนสนใจรวมทั้งหมด 24 ประเด็น ที่ผ่านมา เราทำทุกประเด็น ประเด็นไหนสามารถดำเนินคดีได้ เราก็มีการดำเนินคดี หรือคดีไหนสามารถทำการยึดทรัพย์สินนำมาคืนสู่วัด เราก็มีการดำเนินการ ที่ผ่านมาเราทำงานกันทุกหน่วยงานเพื่อเรียกร้องศรัทธาของประชาชน และทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้น่าเคารพเชื่อมั่นให้กับประชาชน เราไม่ได้มาทำลาย แต่กำลังจะวางรากฐาน ตั้งระบบการตรวจสอบวัดทั่วประเทศ ให้วัดเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพี่น้องประชาชน และมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้

พร้อมบอกว่าในส่วนของทรัพย์สินที่ผ่านมา เราพยายามให้โอกาสผู้ที่เกี่ยวข้อง อยากจะดำเนินกับที่จำเป็นจริงๆ เพราะฉะนั้นทรัพย์สินที่รวบรวมมาได้ ยังไม่ครบ ยังมีผู้ที่นอนทับทำสิทธิ์ เราจะดำเนินคดีอาญาในฐานฟอกเงิน หรือเป็นผู้สนับสนุนในรายละเอียดตรงนี้ ชุดสืบสวนมีหลักฐานทุกเรื่องที่เราทำงานกันมา 2-3 เดือน เพราะฉะนั้นผู้ใดที่ยังไม่นำทรัพย์สินของวัดมาคืน ขอประกาศเตือนครั้งสุดท้าย พวกเราจะนำหมายไปให้ท่าน เพราะเราให้โอกาสเต็มที่แล้วหมดเวลาแล้ว

พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผบก.ปทส. กล่าวว่า ในทางคดี พบว่าเงินที่ประชาชนบริจาคเข้าไป มีหลักฐานปรากฏชัดว่าโอนให้วัดพระบาทน้ำพุ ผ่านบัญชีของหมอบี ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นำเงินของวัดไปใช้โดยมิชอบ ก็มีความผิดมูลฐานตามความผิดฐานฟอกเงิน นอกจากนี้ยังพบว่ามีทรัพย์สินยังมีบางส่วนที่ทิดอลงกต ได้นำเงินของวัดพระบาทน้ำพุไปให้ผู้อื่นกู้ยืม ซึ่งหลักฐานต่างๆเหล่านี้เราพิจารณารวบรวมดำเนินการตามกฏหมายเช่นเดียวกัน แต่บางกรณีอาจจะไม่ได้เข้าข่ายผิดทางอาญา ทางสอบสวนกลางเราได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ทนายความของวัดนำหลักฐานต่างๆที่เรารวบรวมได้ไปฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกเอาเงิน หรือทรัพย์สินจากผู้ที่เอาเงินจากทางวัดไปอีกทางหนึ่ง

พร้อมบอกว่าทรัพย์สินที่เราขยายผล และมีการส่งสัญญาณ หรือแจ้งไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องที่ถือของทรัพย์สินแทนวัด ทั้งโฉนดที่ดิน รถยนต์ หรือทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งหมดก็มีบางส่วนนำทรัพย์สินมาคืน

ส่วนประเด็นเงิน 200 กว่าล้าน จากการสืบสวนและพบว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นำทรัพย์สินของวัดไปให้ผู้อื่นกู้ยืม ไปช่วยเหลือผู้อื่นในทางที่ไม่ถูกต้อง เราจึงรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนนี้เตรียมดำเนินคดีอาญาในฐานฟอกเงินได้ ในขณะนั้นทิดอลงกต ก็ถือว่าเป็นเจ้าอาวาสวัดเป็นเจ้าพนักงานนำเงินของวัดไปใช้โดยไม่ถูกต้องจะผิดในเรื่องของมาตรา146 และ157

ส่วนประเด็นดาราที่มีการนำเสนอข่าวออกไป ทางสอบสวนกลางได้เรียกเข้ามาซักถามข้อมูลข้อเท็จจริงมีบางเรื่อง อย่างอดีตพระมหาสมปอง ปรากฏชัดเจนเป็นเรื่องของการกู้ยืมเงิน ซึ่งทางอดีตพระมหาสมปอง ก็แสดงเจตจำนงได้นำเงินที่กู้ยืมคืนไปแล้วบางส่วน ภายหลังนำมาคืนเพิ่มเติมอีก ส่วนนักร้อง หรือตลกชื่อดังที่เป็นข่าว ทางสอบสวนกลางและกองปราบ ได้เรียกมาสอบปากคำ พบว่าเป็นเรื่องของการจ้างไปเล่นคอนเสิร์ต ไม่ได้พบในเรื่องของข้อเท็จทุจริต

ส่วน 24 ประเด็น ที่สั่งให้ทีมงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบประเด็นต่างๆทั้ง 24 ประเด็น มีการตรวจสอบครบทุกประเด็นแล้ว ส่วนบุคคลที่ยังไม่นำทรัพย์สินมาคืนให้กับทางวัด ก็เป็นทางผู้ที่ถือครองผู้ที่เกี่ยวข้อง บุคคลภายนอกซึ่งเรากำลังตรวจสอบ

ผลตรวจยึดของกลางที่สำคัญ ดังนี้

1. ยานพาหนะรถยนต์ จำนวน 3 คัน รวมมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท

2. เงินสด รวมทั้งสิ้นประมาณ 2,562,350 บาท

3. กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 3 ใบ รวมมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท
4. เช็คนำฝาก จำนวน 21 ใบ มูลค่า 52 ล้าน

5. โฉนดที่ดินและเอกสารสิทธิ จำนวนทั้งสิ้น 23 ฉบับ พื้นที่ 323 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา รวมมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท

และหลังจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้แล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้บูรณาการร่วมกัน เพื่อสืบสวนติดตามทรัพย์สิน ที่บุคคลอื่นมีชื่อถือครองไว้แทนวัดพระบาทน้ำพุ ให้นำกลับมาคืนสู่วัดพระบาทน้ำพุ จนเป็นที่มาของ การได้กลับคืนมาซึ่งโฉนดที่ดิน เอกสารถือครองที่ดิน ยานพาหนะจากผู้ถือครองแทน ดังนี้

1. โฉนดที่ดิน (น.ส.4 จ.) จำนวน 411 ฉบับรวมพื้นที่ 2,258 ไร่ 3 งาน 28.5 ตารางวา

2. หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) จำนวน 389 แปลง รวมพื้นที่ 4,957 ไร่ 2 งาน 74 ตารางวา

3. ยานพาหนะรถยนต์ และรถบรรทุก ร่วม 60 คัน

รวมที่ดินที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางติดตามเพื่อนำมาคืนสู่วัดพระบาทน้ำพุ ได้นั้น เนื้อที่ดิน รวมประมาณ 7,200 ไร่เศษ เมื่อตรวจสอบราคาประเมินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและยานพาหนะ นั้น มูลค่ารวมประมาณกว่าหมื่นล้านบาท