สังคม

ความสัมพันธ์แบบใด? อดีตสามีอินฟลูฯสาว เผย หย่าแล้วยังอยู่ด้วยกัน นอนฟังเขาคุยหวาน "นักร้องหนุ่ม"

โดย paweena_c

14 มี.ค. 2568

358 views

อดีตสามี จ๊ะโอ๋ เผย อยู่ด้วยกันมา 15 ปี จากวันที่ไม่มี จนวันนี้ ไล่ออกจากบ้านมือเปล่า


เมื่อวานนี้ ตั้ม อดีตสามีจีะโอ๋ และทนายพัฒน์ มาออกรายการโหนกระแส หลังจากเพจอีซ้อขยี้ข่าวโพสต์เรื่องราวของอดีตสามี กล่าวหาอดีตภรรยา ที่เป็นอินฟลูฯสาวนอกใจไปคบและมีความสัมพันธ์ กับนักร้องชื่อดัง จนเกิดการหย่าร้างกัน โดยอดีตสามีอ้างว่าพึ่งทราบเรื่อง


โดยตั้ม อดีตสามี เล่าว่า ที่ผ่านมาอยู่กินกับคุณจ๊ะโอ๋มา 15 ปี มีลูก ลูกคนโตเป็นลูกติดของคุณจ๊ะโอ๋ ส่วนลูกคนเล็ก เป็นลูกของตนกับคุณจ๊ะโอ๋ด้วย เคยมีทะเบียนสมรส แต่ไม่เคยรับรู้เลยว่าภรรยาไปมีข่าวอะไรกับใคร เพราะตนไม่ได้เล่นโซเชียลเลย จนวันที่ 26 มิถุนายน 2566 อดีตภรรยาโทรมาตาม ให้เข้าไปเซ็นใบหย่า ณ ที่ว่าการอำเภอ โดยไม่ได้ให้เหตุผลว่าหย่าทำไม ตนก็ไป ไม่ได้ถาม คิดเอาเองว่าคงเป็นเรื่องธุรกิจ แต่ก็ไปเซ็นให้ เซ็นเสร็จ ก็กลับอยู่กิน นอนห้องเดียวกับอดีตภรรยาตามปกติ


ต่อมา ลูกมาบอกว่า ไปโรงเรียนแล้วโดนเพื่อนล้อ เรื่องที่แม่ไปมีข่าวอะไรต่างๆ นานา จึงระแคะระคาย มาไล่ดู ก่อนจะลองเอาการ์ดจากกล้องหน้ารถมาฟังเสียงที่บันทึกไว้ในรถ ได้ยินเสียงภรรยาของตน กับนักร้อง นัดแนะจะไปเที่ยวไหนกัน ตกลงกันอย่างนั้นอย่างนี้ จนมั่นใจว่า เขาแอบนอกใจ ไปมีอะไรกับนักร้องคนนี้แน่นอน และตอนที่ตนนอนห้องเดียวกับจ๊ะโอ๋ ก็ได้ยินจ๊ะโอ๋โทรคุยกันกับนักร้อง ซึ่งตนก็ได้แต่นอนฟังเขาคุยกัน


ตั้มบอกว่า ตอนที่อยู่กันแรกๆ จ๊ะโอ๋จนมาก เราลงทุนให้เขาทำธุรกิจ จนเริ่มขายของได้ เงินที่ทำมาหาได้จากการขายสครับ เป็นรายได้หลักในครอบครัว ยืนยันว่าเงินที่ทำมาหาได้ เป็นเงินที่ทำมาร่วมกัน เขาไลฟ์ขาย ส่วนตนลงแรง วิ่งรับของ รับวัตถุดิบให้เขา เงินได้มาก็ใช้กระเป๋าเดียวกัน


ตั้ม บอกว่า หลังจากตนเจอคลิปในกล้องหน้ารถ ตนก็ไปตามหาหลักฐานอื่นๆ จนเจอว่ารูปอยู่ใต้ฐานพระ เป็นรูปของจ๊ะโอ๋ กับนักร้องชายที่เป็นข่าวกับเขา ทำให้ตอนนั้นรู้สึกว่าใจสลาย แต่ก็อดทนเรื่อยมา นอกจากนี้ตั้มยังเอาคลิปจากกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ดูว่า เมื่อเดือน พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ยังมีภาพที่จ๊ะโอ๋จะขับรถเข้า กทม. ไปทำธุระ ก่อนออกจากบ้านยังเดินมาจุ๊บปากกับตนก่อนออกจากบ้านอยู่เลย ซึ่งยืนยันว่าเขาทั้งสองยังอยู่บ้านเดียวกันและยังอยู่ด้วยกัน


ตั้ม บอกว่า ตอนที่รู้ว่าจ๊ะโอ๋ไปแจ้งความจับตน บอกเลยว่าเสียใจมาก นั่งร้องไห้อยู่ที่บ้าน เพราะตนรักลูกมาก การที่เขาไปแจ้งความ ลูกเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจของตนเลย รับส่งเขาไปโรงเรียนทุกวันๆ เขาไปแจ้งความ ไปกล่าวโทษตนแบบนี้ มันไม่ใช่แล้ว


และที่เขากล่าวหาว่าตนขึ้นบ้านไปขโมยของหลังจากที่หย่ากันไปแล้ว มันไม่จริง ตนเข้าไปเอาของที่เป็นของตน ก็คือพระเลี่ยมทอง ส่วนทรัพย์สินต่างๆ ที่ทำมาหาได้ด้วยกัน มันเป็นชื่อของคุณจ๊ะโอ๋ทั้งหมด ตนไม่เคยทักท้วงว่าอยากให้เป็นชื่อเรา เพราะคิดแค่ว่าซื้อมา หามา มาใช้ด้วยกันในครอบครัว แต่พอถึงเวลาจะเลิกรา แยกย้าย ตนกลับถูกไล่ไม่เหลืออะไรเลย


ทนายพัฒน์ บอกว่า ในมุมของกฎหมาย เรื่องทรัพย์สินที่หามาในตอนที่มีทะเบียนสมรส ถือเป็น สินสมรส ถึงเวลาที่ต้องแบ่งกัน ก็ต้องหารครึ่ง แบ่งกันครึ่งๆ ตรงไปตรงมา


แต่ทรัพย์สินที่ได้มาในตอนที่ไม่มีทะเบียนสมรส ถ้ามีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไปอ้างว่าเป็นกรรมสิทธิ์รวม คนที่ร้องก็ต้องนำสืบให้ได้ว่าเป็นกรรมสิทธิ์รวมอย่างไร ทำมาหาได้กันอย่างไร แล้วเวลาแบ่ง ก็ต้องแบ่งตามสัดส่วน จะไม่หารกันแบบสินสมรส


ส่วนเรื่องที่จ๊ะโอ๋อ้างว่า ตนไปเอาปืนจ่อหัวลูก ขอบอกว่าไม่จริงเลย ตนไม่เคยแม้แต่จะคิด ปืนตนก็ไม่มี จะเอาปืนที่ไหนไปจ่อ แล้วตนรักลูกมากๆ เป็นแก้วตาดวงใจ ไม่มีทางที่จะทำแบบนั้นแน่นอน


อย่างไรก็ตาม จ๊ะโอ๋ ได้ฝากคำถามมาถามว่า ตั้มติดพนันตีไก่จริงไหม เอาเงินของเมียไปตีไก่จริงไหม ตั้มก็ยอมรับว่าจริง


ส่วนที่จ๊ะโอ๋ฝากคำถามคำถามมาว่า ก่อนหน้านี้ ตั้มทำอาชีพอะไร ทำถูกกฎหมายไหม ตั้มยืนยันว่า เคยทำธุรกิจสีเทา แต่ไม่บอกว่าทำอะไร


นอกจากนี้ ตั้มยังบอกอีกว่า ธงที่ตั้งไว้ ตอนนี้ไม่อยากให้เขากลับมา แต่อยากให้เอาทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ ร่วมกันเอามาแบ่งกัน เพราะเป็นสิ่งที่ตนควรจะได้เหมือนกัน แต่ถ้าถามว่า เขาจะกลับมาคืนดีได้ไหม ตั้มยืนยันว่าไม่เอาแล้ว ไม่ขอกลับไปอยู่ด้วยกันอีกแล้ว


เมื่อถาม สันต์ น้องคนสนิท ที่มานั่งด้วยกันในรายการวันนี้ ว่าพี่หน่วงกับทนายพัฒน์ จะต้องกินอาหารหมาไหม สันต์ก็บอกว่า ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมก็กลัวต้องกินอาหารหมาเหมือนกัน


สันต์ยังบอกว่า ตั้มรักลูกมาก เวลาออกมานั่งเล่นด้วยกัน ลูกโทรมาตามก็จะรับกลับบ้านทันที แล้วยอมรับว่า พี่ตั้มเขาก็รักเมียมากๆด้วย


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/x4S5FCWj_Gs

คุณอาจสนใจ

Related News