เมียรับแล้ว ร่วมลูกชาย ฆ่าผัวรปภ.ยัดกระสอบหมกป่า เผยลวงขึ้นรถก่อนใช้สายยางรัดคอ อ้างปมทรัพย์สิน

เมียสารภาพแล้ว ร่วมกับลูกชายคนโตวางแผน ฆ่าผัว รปภ. ทิ้งศพหมกป่ากระถินข้างทาง หลังถูกตำรวจเค้นสอบนาน 10 ชั่วโมง 



กรณีพบศพนายวัชระ อายุ 52 ปี รปภ.บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ถูกทิ้งอยู่ในป่ากระถิน ริมถนนสาย 331 ฝั่งขาเข้าสัตหีบ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี สภาพขึ้นอืด เสียชีวิตแล้วมาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน ในตัวพบกระดาษเขียนเบอร์โทรศัพท์ลูกสาว และเมีย ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ จึงโทรไปแจ้งเรื่องให้เมีย คือ นางรัตติกาล อายุ 46 ปี ทราบ เมียกลับดูไม่ตกใจ แล้วถามกลับตำรวจว่า "อ้าว ใช่หรอคะ" จากนั้นตำรวจได้พาตัวมาสอบปากคำเบื้องต้น ก่อนปล่อยกลับบ้านไป



เมื่อวานนี้ พลตำรวจตรี ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้เรียกประชุมเพื่อติดตามคดี ก่อนให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ว่า นายวัชระ ถูกฆาตกรรมอำพรางจากที่อื่น แล้วนำมาทิ้งไว้ตรงจุดพบศพ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ต้องรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยจะรู้ผลในวันที่ 6 มีนาคม ขณะที่ปมสังหาร ตำรวจตั้งไว้หลายประเด็น แต่ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะกลัวจะเสียรูปคดี



ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณบ้านพักของผู้ตาย ซึ่งอยู่ใกล้ที่ทำงาน ในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต ยืนยันว่า มีคนพบเห็นผู้ตาย ครั้งสุดท้าย ในวันที่ 1 มีนาคม จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ส่วนเรื่องมอเตอร์ไซค์ และรถกระบะของผู้ตายที่หายไป ตอนนี้รู้แล้วว่าอยู่ที่ไหน โดยมีพยานอ้างว่า ผู้ตายให้คนอื่นยืมไปใช้ ซึ่งตำรวจเปิดเผยข้อมูลไม่ได้ เพราะกลัวคนร้ายจะไหวตัวทัน



จากนั้นช่วงหัวค่ำเมื่อวานนี้ ตำรวจได้เชิญนางรัตติกาล มาสอบปากคำอีกครั้ง รอบนี้เค้นสอบนานเกือบ 10 ชั่วโมง เพราะตำรวจพบข้อพิรุธหลายอย่างในคำให้การ ซึ่งไม่สอดคล้องกับภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ตำรวจได้มา ทั้งวันเวลา สถานที่ และไทม์ไลน์ของผู้ตาย



ในที่สุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางรัตติกาล ก็ยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมมือกับลูกชายคนโต อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของผู้ตาย ฆ่าสามีตัวเอง โดยให้ลูกชายขับกระบะสีบรอนซ์ทอง ทะเบียนราชบุรี พาตนเองไปรับผู้ตายที่บ้านพัก ช่วงตี 4 ของวันที่ 1 มีนาคม อ้างว่า จะพาไปเยี่ยมลูกสาวที่โรงพยาบาล จากนั้นจะพาไปทำงานที่อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี



พอออกจากบ้านมาได้สักพัก ตนเองได้สลับไปขับรถแทน ให้สามีนั่งข้างคนขับ ส่วนลูกชายนั่งที่เบาะด้านหลัง เมื่อได้โอกาสลูกชายก็ใช้สายยางรัดคอพ่อเลี้ยงจนเสียชีวิต จากนั้นตนเองกับลูกชายทำอะไรไม่ถูก ก็พากันขับรถวนอยู่ในเขตอำเภอบ้านฉาง และมาบตาพุด จนถึงเช้ามืด ก็ขับรถกลับบ้านที่อำเภอนิคมพัฒนา เพื่อตั้งหลักโดยทิ้งศพไว้ในรถ แล้วนำผ้ามาคุมรถไว้ กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 1 มีนาคม จึงนำไปทิ้งที่จุดพบศพ แล้วลูกชายก็กลับไปที่จังหวัดจันทบุรี ส่วนตนเองก็กลับมาใช้ชีวิตปกติที่บ้าน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น



ส่วนสาเหตุในการลงมือ นางรัตติกาล ให้การเพียงว่า เป็นเรื่องของทรัพย์สินระหว่างตนเองกับสามี แต่ยังไม่ระบุถึงรายละเอียดเพิ่มเติม



ทั้งนี้ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ยื่นขอศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับนางรัตติกาล และลูกชายแล้ว คาดว่า ศาลจะอนุมัติหมายจับในวันนี้ หลังจากนั้นจะไปคุมตัวลูกชายของนางรัตติกาล มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



.///000







ตำรวจคุมตัวพ่อค้าแผงหมูตลาดสดบางบอนไปฝากขัง หลังใช้ปืนยิงพ่อค้าปลาเจ็บสาหัส อ้างโมโหที่พ่อค้าปลาทำร้ายลูกสาว ไปดูวงจรปิดวินาทียิงกันกลางตลาดบางบอน



เสียงปืน 8 นัดดังขึ้นกลางตลาดสดบางบอนช่วงบ่าย 2 โมงกว่าวานนี้ (5มี.ค.68) ทำให้พ่อค้าแม่ค้าและคนที่มาเดินซื้อของในตลาดต้องหาที่หลบกันจ้าละหวั่น เพราะไม่รู้ว่าใครยิงใคร



ทันทีที่เสียงปืนหยุดก็พบร่างนาย วรวุฒิ ซินแสน อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้าแผงปลา ถูกยิงเข้า 3 จุด คือ ท้อง ก้น และขาขวา ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุ พบปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 8 ปลอก และกระสุนขนาดจุด32 อีก 6 นัด ที่ยังไม่ถูกใช้ตกเกลื่อนพื้น



ขณะที่ผุ้ก่อเหตุ คือ นาย วิโรจน์ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นพ่อค้าหมูแผงอยู่ใกล้กันกับผู้บาดเจ็บ หลังก่อเหตุได้ถือปืนวิ่งหลบหนีไป



จากการสอบสวนพยานที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ชนวนเหตุเริ่มจากเมียของพ่อค้าปลาและเมียของพ่อค้าหมู ทะเลาะกันเรื่องเวลาล้างแผงแล้วน้ำกระเด็นใส่กัน ทะเลาะกันแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ นาย วิโรจน์ พ่อค้าหมู ได้ยืนดูทั้ง 2 คนทะเลาะกัน แต่ไม่ได้ห้าม ก่อนจะตะโกนว่า "ให้มันมา" ซึ่งน่าจะหมายถึงนาย วรวุฒิ พ่อค้าปลา สักพัก นาย วรวุฒิ ก็ขับรถเข้ามาที่ตลาด ก่อนที่ นาย วิโรจน์ จะเดินอ้อมมาด้านหลังแล้วชักปืนกระหน่ำยิง แล้วหลบหนีไป



พลเมืองดีที่เข้าช่วยเหลือนาย วรวุฒิ บอกว่า เห็นนาย วรวุฒิ มีปืนเหน็บอยู่ที่ตัว จึงนำปืนออกมาและสไลด์ลูกกระสุนออก ทำให้เจอกระสุน ขนาดจุด 32 ที่ยังไม่ได้ใช้งานตกอยู่เกลื่อนพื้น



กระทั่งช่วงหัวค่ำวานนี้ (5มี.ค.68) นาย วิโรจน์ พ่อค้าหมู เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.บางขุนเทียน พร้อมอาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. 1 กระบอก จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นปืนมีทะเบียน



ระหว่างที่ตำรวจ ควบคุมตัวนายวิโรจน์เดินเข้าห้องสอบสวน ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ทำไมถึงลงมือก่อเหตุ นายวิโรจน์ ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า "ป้องกันตัว เนื่องจากคนเจ็บพยายามชักปืนมายิงเขาก่อน แต่กระสุนด้าน"



เช้าวันนี้ (6มี.ค.68) ตำรวจสน.บางขุนเทียนคุมคัว นาย วิโรจน์ พ่อค้าแผงหมูมือยิง ไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรีฝากขังผัดแรก ซึ่งนาย วิโรจน์ ใส่เสื้อโปโลสีแดง เดินออกมาพร้อมเมีย ด้วยท่าทีสลด เมื่อนักข่าวถามถึงชนวนเหตุที่ยิงพ่อค้าแผงปลา เจ้าตัวบอกว่า "ไม่ได้มีความแค้นส่วนตัว แต่โมโหที่นาย วรวุฒิ ไปทำร้ายลูกสาว"



เมื่อทีมข่าวสอบถามเมียผู้ก่อเหตุว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร เจ้าตัวบอกว่า เป็นปัญหาเรื่องการค้าขายในตลาด ซึ่งทะเลาะกันมานานแล้ว และวันเกิดเหตุเมียพ่อค้าปลามาท้าทายก่อน



เบื้องต้น นาย วิโรจน์ รับสารภาพว่าเป็นคนยิง ชนวนเหตุมาจากเรื่องของปัญหาแผงค้าขายที่อยู่ติดกันและมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ่อยครั้งจนกลายเป็นปัญหาสะสมมานานแล้ว



ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่า พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและเป็นเหตุอุกอาจ



ทีมข่าวได้พบกับเมียของพ่อค้าปลาที่โดนยิงบาดเจ็บสาหัส เล่าว่า เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.68) เธอถูกนาย วิโรจน์ พ่อค้าแผงหมูใช้ปืนจี้บังคับให้ตามสามีมาที่ตลาด พอสามีมาถึงก็โดนยิงทันที ตอนนี้อาการสาหัสยังอยู่ในภาวะวิกฤต ต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU เพราะแพทย์ต้องผ่าตัดเอาไตออกไปข้างหนึ่ง ตัดตับอ่อนออกเล็กน้อย รวมทั้งต้องเย็บกระบังลม และให้เลือดเพิ่ม



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/uTShf7SldZo