สังคม

ตร.ชนหนุ่มขี่จยย.ทำเป็นเจ้าชายนิทรา ยันไม่ได้เงียบหาย คุยญาติตลอด หากผิดจริงพร้อมเยียวยาเท่าที่ไหว

โดย panwilai_c

3 ม.ค. 2568

45 views

กรณี สิบตำรวจโท ถูกกล่าวหาขับเก๋ง ชนหนุ่มขี่มอเตอร์ไซด์จนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง หลังพยายามหลบหนีด่าน ล่าสุดสิบตำรวจโท ยืนยันไม่ได้หนี โวยญาติพูดมั่วหนังคนละม้วน ทั้งที่ติดต่อพูดคุยได้ตลอด



จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ตำรวจ สภ.คลองหลวง ขับรถชนวัยรุ่นชายจนพิการติดเตียง กลายเป็นเจ้าชายนิทรามา 2 เดือน ทางตำรวจอ้างว่า ตนเองไม่ผิด ได้มีการใช้เจ้าหน้าที่ พฐ. มาตรวจสอบความเร็วรถและตรวจรอยชน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าใครผิด



ต่อมา ตำรวจ สภ.คลองหลวง เปลี่ยนแผนมาใช้วิธียัดข้อหาให้วัยรุ่นชาย อ้างว่าวัยรุ่นชายแหกด่านมา และใช้ความเร็วรถมอเตอร์ไซต์เกินทำให้รถไปชนกับรถตำรวจ และจะไม่ขอชดใช้ค่าเสียหายให้ เพราะไม่ใช่ฝ่ายผิด ทางญาติๆ เกรงว่า วัยรุ่นชายจะเจ็บตัวพิการฟรี เพราะตำรวจช่วยเหลือกันในทางคดี เคสนี้แย่มาก ชายที่พิการติดเตียง ปกติต้องคอยเลี้ยงแม่ที่พิการติดเตียง แต่ตอนนี้กลับต้องมานอนติดเตียงเอง 2 เดือนแล้ว แจ้งความคดีก็ไม่คืบหน้า



ซึ่งเรื่องนี้เมื่อวานทางเพจสายไหมได้รับเรื่องร้องเรียนเอาไว้ และเตรียมประสานไปยัง ผู้กำกับ สภ.คลองหลวง เพื่อทำการตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย



ล่าสุดทางด้านคนขับรถยนต์ที่ถูกพาดพิงถึง ซึ่งเป็นตำรวจยศ สิบตำรวจโท ได้เดินทางเข้าพบกับ ร้อยตำรวจโท อนุสรณ์ เวียงสิมา รองสารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม



ต่อมาได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2567 ตนเองได้ขับรถยนต์ โตโยต้า คัมรี่ ไปส่งผู้บังคับบัญชา และขากลับขับรถมาถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพฯ ช่องทางคู่ขนานเลนขวา หน้าบริษัทบริสโตน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งตนเองมองไม่เห็นรถมอเตอร์ไซด์คันดังกล่าว จู่ๆ ก็เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน จึงทำให้เฉี่ยวชนกัน แล้วพบว่าคนขี่รถได้รับบาดเจ็บ ตนเองจึงลงไปดูอาการของน้อง ซึ่งด้านหน้ามีด่านตำรวจอยู่ ตำรวจจึงรีบมาดูเหตุการณ์



จากนั้นได้เรียกรถกู้ภัยฯ ให้เข้ามาช่วยเหลือ หลังจากเกิดเหตุแล้วก็มีการพูดคุยกันตลอด และตนเองก็ได้เข้าไปหาน้องคนเจ็บที่โรงพยาบาล เพราะน้องเขาไปรักษาตามสิทธิที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง โดยตนเองเป็นคนพาน้องไปย้ายโรงพยาบาล จากนั้นก็เข้ามาพบพนักงานสอบสวน 2 ครั้ง และได้คุยกับพี่ชายคนเจ็บด้วย ซึ่งพี่ชายยังบอกว่า "ไม่ได้อะไร แค่อยากให้ช่วยเหลือเยียวยาค่ารักษาพยาบาล" ตนเองยังบอกไปว่า ก็พร้อมช่วยเหลือตามที่ตนเองช่วยไหว เพราะตำรวจเจ้าของคดีก็ยังไม่ได้ชี้ว่าใครเป็นคนผิดถูกอย่างไร



จากนั้นตนเองก็ยังโทรศัพท์พูดคุยกับพี่ชายคู่กรณีตลอด ล่าสุดก็สัปดาห์ก่อน โดยคนเจ็บกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน คืออาการมีไข้ มีอาการแทรกซ้อน ซึ่งตนเองเห็นข่าวที่พี่ชายเขาพูดแล้วรู้สึกผิดหวัง เพราะเขาพูดไม่เป็นความจริง พูดหนังคนละม้วน ซึ่งตนเป็นตำรวจที่อื่น ไม่ใช่ตำรวจ สภ.คลองหลวง และพร้อมดูแลเท่าที่ไหว



ด้าน พ.ต.ท.สุชัย แส่งส่อง รองผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งรถและ ภาพจากกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบความเร็วที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเขต 1 รวมถึงได้สอบปากคำตำรวจคู่กรณีเอาไว้แล้ว จากนี้ต้องรอสอบปากคำคนเจ็บด้วย ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/zGWM_RseaZ8

คุณอาจสนใจ

Related News