นาทีสลด! แม่โดนยิงบอกลาลูกก่อนสิ้นใจ ตร.รวบมือยิง 2 ศพ ร่วมกันฆ่าพี่สาว-หลานสะใภ้ปมขัดแย้งที่ดิน

จับเมีย-ลูกชายนายยศ ร่วมฆ่าพี่สาว-หลานสะใภ้ ปมทะเลาะกันเรื่องสร้างรั้วแบ่งเขตที่ดิน หลังมีคลิปเป็นหลักฐานมัดตัวชัดเจน ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหาหนัก

กรณีนายยศ อายุ 60 ปี มีปากเสียงกับ นางจิตตานันท์ อายุ 66 ปี พี่สาว เรื่องการปักแนวสร้างรั้วแบ่งเขตที่ดิน จนลูกชายของทั้ง 2 ฝ่าย คือ นายแบงค์ลูกนายยศ กับนายเอก ลูกนางจิตตานันท์ ได้ออกมาวางมวยชกต่อยกัน แล้วนายแบงค์สู้ไม่ได้ จนเรื่องราวบานปลาย เพราะนายยศเอาปืนออกมายิงจ่อหัวพี่สาวตัวเองเสียชีวิต แล้วยังไล่ยิงหลาน ซึ่งก็คือนายเอก แต่นายเอกวิ่งหนีทัน สุดท้ายนายยศก็ไปยิงนางชวัลรัตน์ ซึ่งเป็นเมียของนายเอก ซึ่งนั่งอยู่ในรถเก๋งกับลูกชายวัย 2 ขวบ ทำให้นางชวัลรัตน์เสียชีวิต จากนั้นนายยศ และนายแบงค์ก็กลับเข้าบ้านของตัวเองไป กระทั่งตำรวจมาตามจับตัวไปสอบปากคำที่ สภ.บางระกำ

หลังสอบปากคำครั้งแรก ตำรวจแจ้งข้อหานายยศคนเดียว เพราะนายยศรับสารภาพว่า เป็นคนยิง แต่ตอนนั้นไม่ได้ถือปืนออกมา จึงวิ่งกลับไปหยิบปืนในกระเป๋าที่เมียถืออยู่ และจะไม่ขอโทษครอบครัวของพี่สาว

ส่วนนายแบงค์ ตำรวจได้ปล่อยตัวไปก่อน สร้างความขุ่นข้องหมองใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสียเป็นอย่างมาก เพราะมีคลิปขณะเกิดเหตุเป็นหลักฐานชัดเจน ว่า นอกจากนายยศจะเป็นมือยิง 2 ศพ นายแบงค์ กับนางสำราญ เมียของนายยศ ก็มีส่วนร่วมในการก่อเหตุครั้งนี้ โดยเฉพาะนางสำราญ มีหลักฐานว่าเป็นคนไปซื้อปืนมาเตรียมไว้ และเป็นคนยุให้นายยศ เอาปืนไปยิงพี่สาวและหลานสะใภ้จนเสียชีวิต

ซึ่งฝั่งผู้สูญเสียยังมีคลิปขณะที่นางชวัลรัตน์ อุ้มลูกน้อยวัย 2 ขวบ ไว้พร้อมกับถ่ายคลิปสั่งเสีย หลังจากที่ตัวเองถูกยิงแล้ว โดยบอกรักลูกกับสามี พร้อมบอกว่า ตัวเองไม่ไหวแล้ว

อีกคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นายเอกร้องไห้โฮ เพราะมาเห็นเมียของตัวเอง อยู่ในสภาพฟุบหน้าไปกับพวงมาลัยแล้ว จึงเปิดประตูพาเมียลงมาจากรถ เพื่อพาไปส่งโรงพยาบาล แต่เมียเสียชีวิตไปก่อนแล้ว

วันนี้ผู้สื่อข่าวไปติดตามความคืบหน้าทางคดีที่ สภ.บางระกำ พบว่า ตำรวจได้ไปจับกุมนางสำราญ และนายแบงค์ เมียและลูกชาย ของนายยศ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำที่โรงพัก หลังศาลอนุมัติหมายจับทั้งคู่ โดยระหว่างที่ตำรวจคุมตัวทั้ง 3 คน มาสอบปากคำ ผู้สื่อข่าวถามนายยศว่า กังวลไหมที่เมียกับลูก โดนจับด้วย เพราะเมียยื่นปืนให้ใช่ไหม ซึ่งนายยศ ตอบว่า ไม่ใช่ ลูกเมียไม่เกี่ยว ผมไปหยิบปืนมาเอง เพราะพี่สาวก็ถือค้อน ส่วนในรถเขาก็มีปืน ก็กลัวเขาจะยิงผมไง ขณะที่นางสำราญ บอกนักข่าวว่า แม่ไม่ได้ทำ แม่ไม่ได้ส่งปืน ไปดูบรรยากาศช่วงนี้

พันตำรวจเอก สมเกษม จารักษ์ ผู้กำกับการ สภ.บางระกำ เผยว่า ตำรวจได้ทำคดีไปตามพยานหลักฐานที่มี ซึ่งคดีนี้มีคลิปชัดเจนว่า มีใครลงมือก่อเหตุบ้าง และได้ส่งศาลขออนุมัติหมายจับ

เบื้องต้นทั้ง 3 คน ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันมีปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน

ด้าน น.ส.ยุ้ย ลูกสาวนายยศ บอกว่า ตั้งแต่จำความได้ พ่อกับป๊าทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ตัวหนู แม่ และพี่ชาย ก็ไม่เคยเข้าไปยุ่ง หลังเกิดเรื่อง ก็ไม่ไม่ได้กินอิ่มนอนหลับสบาย และไม่กล้ากลับเข้าไปอยู่ในบ้าน ต้องไปนอนบ้านญาติ ไม่มีทางที่จะคิดย้อนกลับไปก่อเหตุ ไม่รู้เลยว่าคนอื่นมองว่า บ้านของตนเองโหดร้ายขนาดนั้น แต่ยอมรับว่า พ่อเป็นคนอารมณ์ร้ายจริง ๆ และชอบทะเลาะกับป้าเสียงดัง แต่ก็ไม่เคยทำร้ายกัน

ด้านพลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงคดี 2 พ่อลูกโหดที่อำเภอบางระกำจังหวัดพิษณุโลก หลังมีกระแสข่าวว่า ตำรวจจะมีการกันตัวนางสาวยุ้ย ลูกสาวของนายยศ (มือปืน) ไว้เป็นพยาน โดยผู้การแต้ม มองว่า กันตัวนางสาวยุ้ยไว้เป็นพยานไม่ได้ เนื่องจากตามกฎหมายป. วิอาญา ของพนักงานสอบสวน และจากคลิปพยานหลักฐาน ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เห็นชัดเจนว่า นางสาวยุ้ย ถือว่าเป็นตัวหลักในการร่วมก่อเหตุ เท่ากับเป็นตัวการร่วม และต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย เพราะคดีนี้หลักฐานมันชัดเจน

ส่วนตัวนางสำราญ ภรรยาของนายยศ (มือปืน) คนนี้จากพยานหลักฐานก็ชัดเจนว่าเป็นคนไปหยิบปืนมาให้ นายยศ คนก่อเหตุ ซึ่งจากข้อมูลตำรวจก็มีการแจ้งข้อกล่าวหานางสำราญด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XPIbn9jMEo4