‘ผู้บริหารดัง’ ขอโทษเมาแล้วขับ สามีผู้ตายเผยทั้งน้ำตา ไม่ให้อภัย ประกาศขอจองเวรทุกชาติ

ผู้บริหารคลินิกเสริมความงาม ขอโทษเมาแล้วขับ อ้างสะพานมืด สามีผู้ตายยืนยันไม่ให้อภัย พุ่งชนหญิงวัย 44 ตกสะพานดับ ประกาศขอจองเวรจองกรรม

กรณีเกิดอุบัติเหตุเมื่อเวลา 02.18 น. วันที่ 5 ธ.ค. 67 บนสะพานไทย-ญี่ปุ่น ข้ามแยกอังรีดูนังต์ ถนนพระราม 4 แขวงและเขตปทุมวัน กรุงเทพฯ รถเบนซ์ของผู้บริหารคลินิกเสริมความงามชื่อดัง ชนท้ายมอเตอร์ไซต์ของ นางสาวฉวี อาศัยสงฆ์ อายุ 44 ปี ที่กำลังขี่จากบ้านในจังหวัดชลบุรี เพื่อไปซื้อของที่ตลาดสำเพ็ง ทำให้ร่างของเธอตกลงมาจากสะพานที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เสียชีวิตคาที่

ต่อมาทีมข่าวได้พบกับสามีของผู้เสียชีวิตที่มาติดต่อขอเอกสารการรับศพภรรยาที่ สน.ปทุมวัน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ราวตี 5 วันที่ 5 ธันวาคม มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าภรรยาเกิดอุบัติเหตุ พอฟังจบมือถือก็ร่วงจากมือทันที ช็อคและใจสลายอย่างมาก ลูกชายก็ร้องไห้โฮทันทีที่ทราบข่าวว่าแม่เสียชีวิต ภรรยาไม่ใช่ไรเดอร์ แต่อาศัยอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ทำอาชีพขายของ และทุกเดือนจะขี่มอเตอร์ไซต์มาหาซื้อของที่ตลาดสำเพ็ง ซึ่งคืนที่เกิดเหตุ ภรรยาก็ขี่มอเตอร์ไซต์มาซื้อของตามปกติ แต่มีลางสังหรณ์ตรงที่ก่อนออกมา ภรรยาเดินเข้าเดินออกบ้านบ่อยครั้ง ทำทีเหมือนว่ากำลังคิดว่าจะไปหรือไม่ไปดี ซึ่งหากย้อนเวลากลับไปได้จะห้ามเขาไม่ให้มา อยากจะบอกแฟนกับตนมากเป็นหมื่นล้านคำ แต่คงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว

หลังจากสามีเข้ามาที่ สน.ได้ไม่นาน คนขับรถเบนซ์ คือ นายปุณณมี ผู้ต้องหาคดีเมาแล้วขับ ซึ่งตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบว่า สูงถึง 119 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ได้เข้ามาที่ สน.เช่นกัน เพื่อเจรจากับครอบครัวผู้เสียชีวิต และสอบปากคำเพิ่มเติม แต่หลบนักข่าวโดยเข้าทางประตูหลังแล้วขึ้นไปห้องประชุมชั้น 2 ของ สน. ทันที โดยใช้เวลาพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตราว 1 ชั่วโมงครึ่ง

พร้อมมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 70,000 บาท แบ่งเป็นเงินค่าเดินทางครอบครัว 50,000 บาท และค่าส่งศพกลับ จ.ร้อยเอ็ด 20,000 บาท พร้อมรับปากว่า จะดูแลค่าใช้จ่ายในงานศพทั้งหมด แล้วไปร่วมงานศพที่ จ.ร้อยเอ็ด ด้วย

จากนั้นนาย ปุณณมี ผู้ก่อเหตุ ออกมาให้สัมภาษณ์พร้อมยอมรับว่า ไปดื่มอยู่กับเพื่อนๆ มาจริง แต่ดื่มแค่พอประมาณ และสถานที่ที่ดื่ม ก็ไม่ได้อยู่ไกลจากบ้าน ปกติก็ขับรถได้ และพยายามเรียกรถแท็กซี่แล้ว แต่ไม่มีใครรับ จึงต้องขับรถกลับมาเอง ประกอบกับคืนเกิดเหตุสะพานมืดถึงมืดมาก แล้วผู้เสียชีวิตขี่อยู่ทางด้านซ้ายของสะพาน ทำให้เขามองไม่เห็น พอชนยังมีสติดีโทรศัพท์เรียกประกัน และยังบอกให้ประกันพาเขาไปหาตำรวจ ซึ่งเหตุการณ์นี้เขาไม่ได้ตั้งใจ และเสียใจมาก พร้อมยอมรับผิดทุกอย่าง และหลังจากนี้คงจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์อีก ส่วนความสูญเสียที่เกิดขึ้น ยินดีจะเยียวยาทุกอย่าง ให้ทางครอบครัวเสนอมาได้เลย

ช่วงบ่าย 3 โมง สามีของผู้เสียชีวิต พร้อมครอบครัวไปติดต่อรับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมบอกว่า "ไม่ให้อภัย" ยังรู้สึกโกรธอยู่ แต่เรื่องมันแล้วไปแล้ว เราทำอะไรไม่ได้ เราได้แค่ทำใจ มันไม่มีใครรับได้หรอก ที่คนๆ หนึ่งมาพรากชีวิตคนที่เรารักไป แล้วเราจะบอกว่า อ๋อ ไม่เป็นไร เราไม่โกรธ มันดูโกหก กล้าพูดเลยว่า ชั่วชีวิตนี้ ไม่ให้อภัยเขาแน่นอน

แล้วที่ผู้ก่อเหตุจะไปร่วมงานศพไม่มีปัญหา แต่เรื่องการให้อภัย ยืนยันว่าไม่ อยากขอโทษ ขอโทษไป แต่ไม่ให้อภัยแน่นอน กล้าพูดเลยว่า เรียกว่าจองเวรจองกรรมเลยก็ได้

ส่วนประเด็นเรื่องเมาแล้วขับ พนักงานสอบสวนอนุญาตให้ นาย ปุณณมี ได้ประกันตัวชั่วคราว ด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 แสน 5 หมื่นบาท คาดว่าพนักงานสอบสวนจะส่งฟ้องศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ ภายในสัปดาห์หน้า เพราะขณะนี้ยังรอผลการชันสูตรศพ และตรวจสอบรถที่เกิดอุบัติเหตุก่อน และวันนี้ (6 ธ.ค.67) นายปุณณมี พร้อมทนายความกำลังเดินทางไปที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อร่วมงานศพของผู้เสียชีวิต

https://youtu.be/8G1X_09ZW_s