สังคม
สุดทน! แม่เลี้ยงเดี่ยวป่วยมะเร็ง แจ้งความเพื่อนบ้านเปิดเพลงดังลั่นซอย ซ้ำยกพวกรุมด่า
โดย paweena_c
7 ชั่วโมงที่แล้ว
54 views
แม่เลี้ยงเดี่ยวป่วยมะเร็ง แจ้งความเพื่อนบ้านตั้งลำโพงหน้าบ้าน เปิดเพลงลั่นซอย ไม่เกรงใจใคร หากใครโวย ยกพวกรุมด่า ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย
ผู้เสียหายบันทึกคลิป ขณะที่เพื่อนบ้านย่านสุขาภิบาล เปิดเพลงเสียงดังลั่นซอย ผ่านเครื่องขยายเสียง ทำเอาเพื่อนบ้านเอือมระอา ไม่มีใครอยากยุ่ง ทำให้มีประเด็นเกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกอ่อน ไลฟ์สดผ่านโซเชียล อดทนฟังเพลงที่เพื่อนบ้านเปิดมานาน 9 เดือน หลังแจ้ง 191 ลงพื้นที่ช่วยระงับเสียง วันต่อมาเพื่อนบ้านขนญาติพี่น้องมาดักรอหน้าบ้าน หวังทำร้ายร่างกาย ผู้เสียหายไหวตัวทัน เปิดไลฟ์สดผ่านโซเชียลเป็นหลักฐาน
ต่อมา นายสิทธิกร ปรักกัมนนท์ ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่สุขาภิบาล 2 ซอย 15 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ พบนางสาวธิยานันท์ กมลกุลวิศิษฐ์ หรือ คุณพิ้งค์ อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูกน้อยวัย 2 ขวบ และเธอป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
คุณพิ้งค์ เปิดเผยว่า เธอย้ายเข้ามาอยู่ในซอยนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ลักษณะเป็นชุมชนที่มีคนอาศัยมานาน เธอเปรียบเสมือนผู้มาอยู่ใหม่ อยู่กับลูกสาว 2 ขวบ และจ้างพี่เลี้ยงผู้หญิงมาอยู่ด้วยอีก 1 คน แต่พี่เลี้ยงจะไปๆ มาๆ ส่วนใหญ่เธอจะอาศัยอยู่กับลูก
พอย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน เพื่อนบ้านมีพฤติกรรมที่แปลกๆ ชอบเปิดเพลงเสียงดัง ร้องคาราโอเกะเวลากลางคืน บางครั้งเปิดจนถึงเที่ยงคืน ไม่ยอมหลับยอมนอน และที่แปลกใจคือ เพื่อนบ้านจะเอาลำโพงขยายเสียง มาวางไว้ที่หน้าบ้านของเขาและหันหน้าลำโพงออก ทำให้เสียงดังสนั่นเข้ามาในบ้านของเธอ
ด้วยความที่เป็นผู้มาอยู่ใหม่ จึงพยายามอดทนมาตลอด 9 เดือน ทั้งๆ ที่เธอก็ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และลูกน้อยมีอาการผวาเวลากลางดึก จนเมื่อ 22.00 น. ของคืนวันที่ 3 พ.ย. 2567 เพื่อนบ้านเปิดเพลงเหมือนเช่นเดิม เปิดเสียงดังโดยไม่เกรงใจใคร เธอจึงตัดสินใจโทรแจ้ง 191 พอ 22.10 น. สายตรวจมาถึง เจ้าของลำโพง ผู้ชาย ออกจากบ้านมาโวยวาย ตะโกนด่าหน้าบ้าน และพูดจายั่วยุ กล่าวหาว่าเธอเป็นเจ้าของหมู่บ้าน บอกว่ากฎของหมู่บ้านนี้ เปิดเพลงได้ถึงเที่ยงคืน ซึ่งเธอบอกให้เพื่อนบ้านลดเสียง ซึ่งวันนั้นก็ผ่านไป
ส่วนตัวคิดว่า เรื่องทั้งหมดจบลงด้วยดี แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย. 2567 ขณะขับรถจอดหน้าบ้าน เวลา 19.00 น. คู่กรณี 2 สามีภรรยามายืนดัก ที่หน้ารถของเธอ แล้วบอกให้ลงจากรถมาคุยกัน ตอนนั้นภายในรถมีพี่เลี้ยงและลูกสาวอยู่ด้วย ฝ่ายชายพยายามมาเปิดประตูรถ เธอจึงบอกว่า ขอถอยรถเข้าบ้านก่อน พอถอยรถเข้าบ้าน พี่เลี้ยงพาลูกเข้าบ้าน เธอยืนอยู่ในรั้วบ้าน จึงเปิดไลฟ์สดผ่านมือถือ เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เก็บไว้ป้องกันตัวเอง
ช่วงเวลานั้น มีคนมายืนเต็มหน้าบ้านเธอ ต่างคนต่างยืนรุมด่าเธอที่หน้าบ้าน ซึ่งมีสามี ภรรยา เพื่อนบ้านที่เป็นประเด็น มีคุณลุงคุณป้า (พ่อแม่ของเขา) มีญาติอีกประมาณ 3-4 คน รวมกัน 7-8 คน ทุกคนมารุมด่าเธอ พูดลักษณะยุยง ให้เธอออกจากบ้าน
ผู้เสียหายสังเกตท่าทีของแต่ละคน ไม่น่าไว้ใจ เพราะในมือถือรองเท้า ถือขวดแก้ว หากเธอออกไป อาจถูกทำร้ายร่างกายได้ จากนั้นมีประธานหมู่บ้านได้เห็นในไลฟ์สดของเธอพอดี จึงรีบมาระงับเหตุ ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทำให้ไม่กล้าออกจากบ้าน ในวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. 2567 จึงรีบเข้าแจ้งความที่ สน.อุดมสุข ถึงตอนนี้ ยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทีมข่าวได้พูดคุยกับลุงซาว อายุ 48 ปี (นามสมมติ) เจ้าของลำโพง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ รู้ว่าเพื่อนบ้านย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ แต่ไม่เชื่อว่า เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายจริง เพราะดูพูดจาฉะฉาน แข็งแรงดี เห็นชอบไลฟ์สดขายของในติ๊กต็อกเป็นประจำ เวลาที่ตนเองเปิดเพลง ก็จะชอบแซะครอบครัวของตนเองผ่านโซเชียลว่า “เพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดัง เคยออกมาพูดแล้ว แต่ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ ยิ่งเปิดเสียงดังขึ้น” แต่ความจริงแล้วไม่ใช่
บางครั้งพูดว่า “แถวนี้เหมือนสลัม ดูดบุหรี่ถอดเสื้อหน้าบ้าน สกปรก” กล่าวหาว่า ตนเองเอาอุจจาระแมว มาไว้หน้าบ้านเขามั้ง แต่ก็ไม่เคยไปว่าอะไร ต่อมาเมื่อแจ้งตำรวจ ทำให้ภรรยาไม่พอใจ จึงตะโกนด่าไป 1 รอบ
กระทั่งวันที่ 18 พ.ย. 2567 ภรรยาและแม่ยายนั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้าน เมื่อรู้ข่าวว่า จะแจ้งตำรวจมาจับ เห็นกลับมาบ้าน ภรรยาจึงเดินเข้าไปคุยด้วยดี แต่ไม่ยอมคุยด้วย ยอมรับว่าภรรยาได้ถือรองเท้าจริง ไม่มีใครถือขวด ไม่ได้จะไปทำร้ายร่างกาย หากทำต้องมาติดคุกมันไม่คุ้มกัน ส่วนเรื่องเปิดเพลงเสียงดัง ตนเองเปิดแค่วันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ก็จะเปิดเพลงตามปกติ 13.00 ถึงไม่เกิน 22.00 น.
https://youtu.be/bpPXBPdmsQw