หมอวินิจฉัยป่วยมะเร็ง หญิงถูกถอนฟันกราม 8 ซี่ สุดท้ายช็อก วินิจฉัยพลาด หมอไม่ขอโทษสักคำ

เมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 นางสาวจารุนันท์ อายุ 45 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจังหวัดฉะเชิงเทรา นำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม โดยผู้เสียหายร้องเรียนว่า ถูกโรงพยาบาลชื่อดังวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในต่อมทอนซิลระยะที่ 2 และถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอีกแห่งที่รักษาโรคมะเร็งเฉพาะทาง แต่ผลวินิจฉัยออกมากลับไม่พบว่าเป็นมะเร็งตามที่หมอโรงพยาบาลแห่งแรกวินิจฉัย


ผู้เสียหายเล่าย้อนไปว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน 67 ตนเองไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากในช่องปากมีแผลขึ้นเป็นจุด ๆ ตอนแรกคิดว่าเกิดจากอาการร้อนใน กินยาแล้วแต่อาการไม่ทุเลา จึงไปโรงพยาบาล แพทย์ได้ตัดชิ้นเนื้อบริเวณลำคอออกไปทำ TC สแกน เจาะเลือด วัดคลื่นหัวใจ และนัดให้ตนมาพบแพทย์อีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป โดยบอกให้สามีและลูกชายของตนมาร่วมฟังผลตรวจด้วย


เมื่อถึงวันนัดหมาย ตนและครอบครัวไปฟังผลตรวจ แพทย์แจ้งว่า เป็นมะเร็งต่อมทอนซิล ระยะ 2 ตนตกใจมาก รู้สึกกลัว แต่ก็ต้องรักษา ทางโรงพยาบาลจึงทำเรื่องส่งตัวไปรักษากับแพทย์เฉพาะทางที่ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลชลบุรี แพทย์ตรวจดูเอกสารการวินิจฉัยและการยืนยันจากโรงพยาบาลที่ส่งตัวมา และบอกว่ามีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องถอนฟันกรามและฟันซี่อื่น ๆ ออกทั้งปาก แต่ตนเองคิดว่าคงเจ็บปวดทรมานมาก จะเอาฟันที่ไหนเคี้ยวข้าว จึงปรึกษาครอบครัว และได้ข้อสรุปว่า ควรรักษาดีกว่าปล่อยให้มะเร็งลุกลาม จึงปรึกษาแพทย์ และสุดท้ายไม่ต้องถอนทั้งปาก แต่ถอนฟันกรามไป 8 ซี่ โดยไปถอนที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.67


ต่อมาศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลชลบุรี นัดให้ตนไปฟังผลตรวจอย่างละเอียด และยืนยันว่า ไม่พบเชื้อมะเร็งในต่อมทอนซิล ตนเองถึงกับช็อก ไม่คิดว่าทางโรงพยาบาลแห่งแรกจะวินิจฉัยผิดพลาดถึงขนาดนี้ พอตนไปบอกแพทย์คนแรกที่วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง กลับไม่มีคำขอโทษสักคำ ไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ตนจึงต้องมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม


ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถให้คำตอบชัดเจนได้เนื่องจากตนไม่ใช่หมอ แต่จากข้อเท็จจริงที่ผู้เสียหายไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแห่งแรก วินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง แต่โรงพยาบาลแห่งที่สอง บอกว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง ก็ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร โดยตนจะพาผู้เสียหายไปร้องเรียนกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว และเรื่องนี้ไม่ว่าผู้เสียหายจะใช้สิทธิใดในการรักษา ไม่ว่าจะเสียเงินเอง ใช้บัตรประกันสังคม หรือบัตรทอง แพทย์ก็ต้องวินิจฉัยและให้การรักษาที่เท่าเทียมกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/hB8TI9aVF1U