'ผัวชาวจีน' แจ้งข้อหาลักทรัพย์ 'อดีตเมียไทย' หลังหลอกหย่า ขนทรัพย์สินมีค่าหนีสูญกว่า 100 ล้าน

ทนายตั้มพาสามีชาวจีน แจ้งความอดีตภรรยาชาวไทย ข้อหาลักทรัพย์ หลังอดีตภรรยาพาแฟนใหม่เข้ามาขนทรัพย์สินออกจากบ้าน

จากกรณีคุณเคน นักธุรกิจชายสัญชาติจีน เข้าร้องขอความช่วยเหลือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หลังถูกอดีตภรรยาชาวไทย ขอหย่าร้างอ้างต้องไปสมัคร สส.พรรคการเมืองชื่อดัง ซ้ำพาชายคนสนิทเข้าขนของหอบทรัพย์สินหนี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่สูญทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้เกิน 100 ล้านบาท อีกทั้งอดีตภรรยายังข่มขู่ว่าจะไล่นายเคนกลับประเทศ หากไม่กลับจะให้ตำรวจมาจับให้ติดคุก

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวานนี้ หลังจากจบรายการโหนกระแส ทนายตั้ม พร้อมคุณเคน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตภรรยาชาวไทยในข้อหา "ลักทรัพย์" เนื่องจากอดีตภรรยาได้เอานาฬิกาข้อมือยี่ห้อ เอพี จำนวน 1 เรือน ราคากว่า 1,000,000 บาท และ สุรายี่ห้อ หลุยส์ 13 จำนวน 1 ขวด ราคาประมาณ 108,000 บาท นอกจากนี้ยังพบว่า มีทองคำที่แม่ของคุณเคนได้ซื้อไว้ให้หลานชายหายไปอีก ซึ่งคุณเคนสันนิษฐานว่าอดีตภรรยาได้แอบนำออกไปด้วย

โดยทรัพย์สินทั้งหมดของคุณเคนมีหลักฐานการซื้อขาย และการครอบครองทั้งหมด ถึงแม้ว่านาฬิกาข้อมือจะสามารถนำกลับมาได้แล้ว แต่ก็ถือว่าความผิดได้สำเร็จไปแล้ว

ส่วนชายอีกคนที่คาดเป็นชายคนใหม่ของอดีตภรรยา คุณเคนให้โอกาสเข้ามาเจรจา ตกลงชดใช้ค่าเสียหาย ถ้าหากยังไม่มาก็จะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ ซึ่งหลังจากแจ้งความเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณเคน ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น หลังเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายแล้ว

ในส่วนของทรัพย์สิน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ ที่มีมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ทางทนายตั้มยืนยันว่าคุณเคนประกอบอาชีพสุจริต ไม่ได้เป็นทุนจีนสีเทา และมีการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ

ส่วนอดีตภรรยาประกอบอาชีพเป็นคนรับจ้างต่อวีซ่าและหนังสือเดินทางให้กับคนจีน โดยจะเป็นคนประสานงานให้กับลูกค้าของบริษัทคุณเคนทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทั้งคู่มาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน ถ้าหากสามารถไกล่เกลี่ยกันลงตัวก็จะไม่ดำเนินคดี

ทนายตั้ม บอกว่า คนที่น่าสงสารที่สุดตอนนี้คือ คุณขวัญ ที่เป็นอดีตภรรยาของนายมาก เนื่องจากนายมากมีประวัติคบหาผู้หญิงหลายคน และยังมีการหลอกเอาทรัพย์สินผู้หญิงหลายคน จึงได้มีการนัดหมายคุณขวัญมาให้ข้อมูลที่สำนักงานในวันจันทร์ที่ 16 กันยายนนี้

ด้าน พันตำรวจเอก ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผู้กำกับการ สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว จึงอยากให้มีการเจรจาตกลงกันก่อน แต่ถ้ายืนยันว่าจะดำเนินคดี ตำรวจก็จะดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์หาความจริง

ซึ่งกรณีนาฬิกาหรูที่ทนายตั้มบอกว่าความผิดสำเร็จไปแล้ว ตำรวจจะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาว่าความผิดสำเร็จไปแล้วหรือไม่ โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และยืนยันว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลคนใดโทรมากดดันหรือวิ่งเต้นให้เคลียร์คดี

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/kDGvD8CAdPI