เพื่อนบ้านมหาภัย! ปาหินใส่หลังคานานนับปี เคยไปถามบอกปฏิเสธ แต่เปิดวงจรปิดเจอคาตา

หนุ่มสุดทน ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกเพื่อนบ้านปาหินใส่หลังคาบ้าน นานเป็นปี นับร้อยๆ ก้อน เคยไปถามก็ปฏิเสธ จนล่าสุดมีหลักฐานวงจรปิดยืนยัน

นายทนงศักดิ์ นำภาพวงจรปิดมาเป็นหลักฐานในการขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังถูกเพื่อนบ้านปาหินใส่หลังคาบ้านมานานเป็นปี

ภาพวงจรปิด เผยเหตุการณ์ช่วงประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา จะเห็นภาพของเพื่อนบ้านซึ่งเป็นผู้ชายอายุประมาณ 40 ปี เดินหยิบก้อนหิน และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ก็จะได้ยินเสียงก้อนหินกระทบกับหลังคาบ้าน ทำให้นายทนงศักดิ์มั่นใจว่า ชายในคลิปคือคนที่ปาก้อนหินใส่หลังคาบ้านของเขามานานนับปี

นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า บ้านของเขาอยู่ที่หมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 ซอย 226 ก่อนหน้านี้ต้องทนเสียงก้อนหินหล่นใส่หลังคาบ้านมานาน แต่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ จนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังคาบ้านรั่วจึงเรียกช่างมาซ่อมหลังคาบ้าน โดยช่างบอกว่าเจอก้อนหินขนาดเท่ากำปั้น อยู่บนหลังคาบ้านเป็นร้อยก้อน จึงไปแจ้งความกับตำรวจ สน.โคกคราม แต่ตำรวจบอกว่าให้ไปหาหลักฐานมาก่อนว่าใครเป็นคนทำแล้วจะดำเนินการให้ เขาจึงเดินตรวจสอบบริเวณบ้าน เพื่อหาว่าจุดที่ปาก้อนหินน่าจะมาจากตรงไหน โดยเมื่อเดินไปถึงซอย 228 ไปเจอบ้านหลังหนึ่งซึ่งหลังบ้านชนกับหลังบ้านของเขา ที่บริเวณบ้านหลังนี้ มีก้อนหินซึ่งมีลักษณะและขนาดเหมือนกับก้อนหินที่ปาหลังคาบ้านของเขาจำนวนมาก

ผู้เสียหายไปถามคนในบ้านหลังดังกล่าวว่าเห็นใครปาหินใส่บ้านของตนเองหรือไม่ แต่คนในบ้านปฏิเสธ ไม่ยอมคุยด้วย โดยพูดในทำนองว่าใครจะไปทำเรื่องแบบนี้ จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปแจ้งสายตรวจของ สน.โคกคราม ให้มาตรวจสอบ เมื่อสายตรวจมาถึงก็ได้คุยกับคนในบ้าน แต่คนในบ้านก็ปฏิเสธ ตำรวจจึงเดินทางกลับโดยไม่ได้ทำอะไร

ตนเองจึงตัดสินใจขอความร่วมมือเพื่อนบ้านอีกคนซึ่งอยู่ในซอยเดียวกันกับคนที่เชื่อว่าเป็นคนปาหิน ขอติดกล้องวงจรปิด จนผ่านไป 15 วัน บ้านของผู้เสียหายก็ถูกปาก้อนหินอีก และเมื่อนำภาพวงจรปิดมาดูก็พบว่า คนที่ปาก้อนหิน คือคนในบ้านต้องสงสัยที่เข้าไปคุยด้วยแล้วปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ

ผู้เสียหายเลยตัดสินใจมาร้องเพจสายไหมต้องรอด โดยไม่บอกคู่กรณีว่ามีวงจรปิดเป็นหลักฐาน เพื่อให้ทางเพจสายไหมเป็นสักขีพยาน และเจรจากับคู่กรณี ทั้งนี้ได้ข้อมูลว่าคนที่ปาหิน อายุประมาณ 40 ปี และมีอาการป่วยทางจิต เพราะเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา วงจรปิดบันทึกภาพชายคนนี้ เดินอยู่บริเวณหน้าบ้านแล้วก็โชว์ก้นใส่กล้องวงจรปิด

ด้านนายเอกภพ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นพฤติกรรมอันตรายกับชุมชนรอบข้าง เป็นภัยสังคม และยังมีความผิดเข้าข่ายข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ในวันนี้ (6 ส.ค. 2567) เตรียมประสานทางตำรวจ สน.โคกคราม ให้ลงพื้นที่ไปคุยกับบ้านผู้ก่อเหตุ และหากพบว่าผู้ก่อเหตุ มีอาการป่วยทางจิตก็ควรต้องนำไปรักษา


https://youtu.be/3lmQlGU8MkU