ครอบครัวทำพิธีเชิญวิญญาณ รับศพ ‘เฮียตุ้ง’ เผยลูกสาวจิตใจยังย่ำแย่-หวาดกลัว

นายกฯ แสดงความเสียใจกับครอบครัว ‘รองหรั่ง’ ภรรยา-ลูกสาว ‘เฮียตุ้ง’ ร่วมงานศพในอาการโศกเศร้า ล่าสุดครอบครัว ‘เฮียตุ้ง’ ทำพิธีเชิญวิญญาณ รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว

ช่วงเย็นวานนี้ (22 ก.ค. 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่วัดยางสุทธาราม เป็นประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พันตำรวจโท กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ หรือ รองหรั่ง รองผู้กำกับการงานป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม ที่โดนเฮียตุ้งยิงเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่เข้าระงับเหตุช่วยเหลือหญิงสาวที่โดนพ่อจับเป็นตัวประกัน

นายกฯแสดงความเสียใจกับพันตำรวจโทหญิง ชนม์ณกานต์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการกองอัตรากำลัง สำนักงานกำลังพล และร้อยตำรวจโทวันรัฐธ์ จันยะรมณ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ ภรรยาและลูกชายของรองหรั่ง

จากนั้นพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพด้วย ซึ่งภายในงานยังมีบุคคลสำคัญทางการเมือง นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นตำรวจของรองหรั่งอีกหลายนาย ที่ได้ส่งพวงหรีดมาร่วมแสดงความอาลัยด้วย

ก่อนจะเริ่มสวดพระอภิธรรมศพ ภรรยาและลูกสาว 3 คนของเฮียตุ้ง เดินทางมาร่วมงานสวดพระอภิธรรมด้วย นางสาวมินนี่ อายุ 19 ปี ลูกสาวคนที่ 3 มาถึงก่อน และเข้าไปแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยได้ยกมือไหว้ภรรยาและลูกของรองหรั่ง พร้อมกับร้องไห้ด้วยความเสียใจ โดยภรรยาของรองหรั่งได้ลูบแขนปลอบใจ ก่อนจะเข้าไปไหว้เคารพศพของรองหรั่ง

จากนั้น ภรรยาของเฮียตุ้ง พร้อมด้วยนางสาวมิ้ว อายุ 23 ปี ลูกสาวคนโต กับนางสาวมิ้น อายุ 22 ปี ลูกสาวคนที่ 2 ของผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางตามมา โดยนางสาวมิ้นบอกว่า ขอไม่ให้ข่าว จากนั้นได้เข้าไปไหว้เคารพศพรองหรั่ง ก่อนเข้าฟังสวดพระอภิธรรม ซึ่งลูกของผู้ก่อเหตุทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้าเช่นกัน

ขณะที่เมื่อวานนี้ในรายการโหนกระแส ได้โฟนอินคุณมิ้น ลูกสาวคนที่ 2 ของเฮียตุ้ง ซึ่งมิ้นก็คือคนที่เจรจากับเฮียตุ้งที่หน้าประตู และเป็นคนที่นำตัวน้องออกมาจากในบ้านหลังจากที่เฮียตุ้งยิงรองหรั่งเสียชีวิต

มิ้น เปิดเผยว่า พ่อมีพฤติกรรมอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนหน้านี้เคยพาพ่อไปบำบัดที่โรงพยาบาล ซึ่งที่พ่อไปบำบัดไม่ใช่เรื่องของการป่วยจิตเวช แต่เป็นการบำบัดเรื่องยาเสพติด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพ่อใช้ยาเสพติดตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่อาการของพ่อจะหงุดหงิด อารมณ์เสียเหมือนคนติดยา ส่วนเรื่องอาวุธปืนนั้น ตอนเธออายุ 12 ขวบ พ่อบอกว่าซื้อปืนเก็บไว้และเมื่อเธอโตก็จะให้ โดยพ่อไปซ้อมยิงปืนที่สนาม 2 ครั้ง และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปอีก

ส่วนบรรยากาศที่หน้าบ้านเฮียตุ้ง แม้จะเกิดเหตุมา 3 วันแล้ว แต่ชาวบ้านใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุก็ยังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างเช่นเพื่อนบ้านคนหนึ่ง อายุ 60 ปี เปิดเผยกับทีมข่าวว่า รู้จักกับเฮียตุ้งมานานเป็น 10 ปี เป็นคนชอบโวยวายเสียดัง และทำร้ายลูกเมียตลอด ในช่วง 5-6 ปีหลัง แต่ก็ทำร้ายในบ้าน เคยมีลูกมาขอความช่วยเหลือ แต่พอจะช่วย เฮียก็มาตามด่าว่าเรื่องในครอบครัว ก็ทำให้คนแถวนี้ไม่ค่อยมีใครอยากยุ่ง เมื่อคืนนี้ทางภรรยาและลูกของเฮียได้เดินทางมาบ้านที่เกิดเหตุ มาเก็บเสื้อผ้าและของบางอย่างออกไปโดยไม่ทันได้คุยกัน

เช่นเดียวกับ เพื่อนบ้านอีกคนที่เป็นหญิง อายุ 54 ปี กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิตจริง โดยรักษามาเป็นระยะเวลา 1 ปี ส่วนรายละเอียดถึงปมเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาทางจิตนั้น ไม่ทราบ

วันนี้ (23 ก.ค. 2567) มีรายงานว่า ครอบครัวของเฮียตุ้งจะไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณเฮียตุ้งที่บ้านพัก นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า ลูกสาวของเฮียตุ้งที่อยู่ในเหตุการณ์บางคนตอนนี้ภาวะจิตใจยังย่ำแย่ และยังมีความหวาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงกับร้องไห้ออกมาตอนกลางคืน

https://youtu.be/gf1SydQ-oJg