ผัวแค้นเมียแอบคบพระ สุดท้ายสึกหนีไปอยู่ด้วยกัน ชู้ท้าฉีกทะเบียนสมรสทิ้ง เย้ยผู้หญิงเขาเลือกแล้ว

เมียลอบคบกับพระ พอถามกลับปฏิเสธว่าไม่มีอะไร สุดท้ายพระสึกแล้วหนีไปอยู่ด้วยกัน ผัวแค้นใจ ชายชู้บอกให้ฉีกทะเบียนสมรสทิ้ง เพราะผู้หญิงเลือกแล้ว

จากการพูดคุย คุณโอม เล่าว่า ตนมีภรรยา อายุ 41 ปี รู้จักกันมานานตั้งแต่ปี 47 โดยเพื่อนแนะนำให้เพราะเห็นว่าเป็นคนอีสานบ้านเดียวกัน ตนเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา ส่วนภรรยาเป็นคน จังหวัดขอนแก่น

หลังจากนั้นคุยกันได้ระยะหนึ่งจึงตัดสินใจคบหากันเป็นแฟน และมีลูกด้วยกัน 1 คน หลังจากคลอดลูกจึงได้จดทะเบียนสมรสกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 3 คนพ่อแม่ลูกเป็นครอบครัวโดยไม่เคยมีปัญหา

และได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่บ้านของภรรยาในจังหวัดขอนแก่น จากนั้นภรรยา ก็ได้รับเลือกให้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ส่วนตนเองก็ทำงานประจำใช้ชีวิตแบบนี้กันมาจนปัจจุบันลูกสาวอายุ 13 ปี ซึ่งช่วง 4 ปีหลังมานี้ ต้นมีปัญหาด้านสุขภาพจึงต้องลาออกจากงานประจำและมาอยู่บ้านและมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และทำไร่ ทำนาตามประสา ส่วนภรรยาก็ทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเวลามีงานบุญ ภรรยาจะเป็นคนดูแลจัดงาน

ซึ่งเวลาทางวัดมีการบูรณะซ่อมแซมศาลา โบสถ์ วิหาร ภรรยาก็จะเป็นคนคอยช่วยงานและหลายครั้งก็มีการรับพระไปกิจนิมนต์ หลัง ๆ เริ่มบ่อยขึ้น จนชาวบ้านเริ่มซุบซิบนินทาเพราะเห็นว่าภรรยาของตนมีความสนิทสนมกับพระหนุ่มรูปหนึ่งอายุ 33 ปี

ตนและญาติๆ รู้ มองว่าไม่เหมาะสมเพราะเป็นผู้หญิง จึงได้ตักเตือนให้ห่างออกมา ให้เป็นหน้าที่กรรมการวัดและคนที่วัดทำไป ซึ่งเคยมีการเรียกพระหนุ่มและภรรยาตนมาพูดคุย แต่ภรรยาก็อ้างว่า งานที่วัดไม่มีใครทำและทั้งคู่ก็ยืนกรานว่า "ไม่มีอะไร รู้บาปบุญ รู้อะไรควร ไม่ควร"

นอกจากนี้ ภรรยา ยังบอกว่า ที่สนิทสนมกันเพราะว่าต้องคอยส่งปิ่นโตถวายอาหารเช้า และถวายเพล เนื่องจากพระหนุ่มไม่สบายบ่อย จึงไม่ได้ออกบิณฑบาตและทั้งคู่รับปากว่า จะรักษาระยะห่างให้อยู่ในความเหมาะสม

จากนั้นตนก็ได้เรียกภรรยาไปคุยกัน 2 ต่อ 2 ภรรยาก็ยังยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรจริง ๆ แต่ตนก็บอกไปว่าถ้าไม่ได้ทำก็ถอยออกมา หรือถ้าทำก็ขอให้หยุด ตนให้อภัย จู่ๆภรรยาก็ร้องไห้ กราบขอโทษและอ้อนวอน รับปากว่าจะไม่ทำอีก

แต่ปรากฏว่าในวันเดียวกัน ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ 15 เมษายนช่วงสงกรานต์พอดีที่วัดมีการจัดงานประเพณีงานสงกรานต์ หลังจากภรรยาคุยกับตนเสร็จแล้ว ภรรยาขอตัวเป็นเก็บงานที่วัดและก็หายไปตั้งแต่ช่วงกลางวัน จนค่ำมืดก็ยังไม่กลับ ตนไปตามหาที่วัดก็ไม่พบ จนมีพระรูปหนึ่งและชาวบ้านบอกว่า ภรรยาของตนหายออกไปกับพระหนุ่มหนึ่งตั้งแต่เที่ยง

ตนพยายามไม่ทำอะไรรุนแรงเพราะห่วงลูก และไม่อยากให้ลูกมารับรู้เรื่องที่ทำให้เสียใจเสีย กระทั่ง 21:00 น. วันเดียวกัน ภรรยาขับรถกลับมาที่บ้าน ซึ่งเห็นว่าตนและญาติพี่น้องอยู่อีกหลายคนจึงรีบขับรถกลับออกไป

ซึ่งตนสังเกตเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในรถ แต่ไม่เห็นว่าเป็นจีวรพระ เห็นเป็นผู้ชายใส่เสื้อสีดำใส่หมวก

คุณโอม บอกว่า วันนั้นที่เห็นผู้ชายอยู่ในรถ คาดว่าจะเป็นพระหนุ่มรายดังกล่าว อาจจะไปลาสิขามาแล้ว ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริง เพราะพระหนุ่มใช้ facebook ของถ่ายรูปคู่กับภรรยา และมา comment ในโพสต์ของตน เหมือนต้องการแสดงตัวให้รู้ว่า ตอนนี้ได้สึกมาแล้วและก็อยู่ด้วยกันบนรถ

มีบางครั้ง ตนสงสัยว่าทั้งคู่จะไปไหน จึงแอบไปดูที่กระท่อมปลายนา ปรากฎว่า เจอทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ตนบันดาลโทสะ โมโหมากจึงปรี่เข้าไปต่อยอดีตพระหนุ่ม แต่ภรรยาก็เข้ามาห้ามและบอกว่า จะเลิกยุ่งกันแล้ว ให้ดูแชตเป็นหลักฐานด้วยว่ามีการบอกเลิกจริงๆ เพียงแค่จะมาคุย มาร่ำลากันเท่านั้น ตนก็ให้อภัยเพราะคิดว่าภรรยาทำผิดพลาดไปแล้วจะกลับตัว กลับใจ และจะเลิกยุ่งกับอดีตพระหนุ่ม

หลังจากเหตุการณ์นั้น ภรรยาบอกว่า อับอาย อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ จึงลาออกจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและขอไปทำงานกับเพื่อนที่ จังหวัดชลบุรี ตนก็เข้าใจและยินยอมให้ไป พร้อมสนับสนุนทุกอย่าง คิดว่าก็ดีถ้าอยู่ห่างกับอดีตพระหนุ่มอาจจะเลิกยุ่งกันได้จริงๆ

วันที่ภรรยามาเก็บเสื้อผ้าวันนั้นมีการดื่มเหล้าและตนก็เมาจนถอยรถชนเสาบ้าน ภรรยาด่าว่าตนแบบเสียๆหายๆ ด่าด้วยคำหยาบคายแบบที่ไม่เคยด่ามาก่อน ตนจึงพลั้งมือตบไป 3 ครั้ง หลังจากนั้นภรรยาก็ออกจากบ้านไป จังหวัดชลบุรี

หลังจากไปได้ไม่กี่วัน ปรากฎว่าก็มีคนส่งรูปมาเห็นทั้งคู่ไปขายอาหารตามสั่ง อยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น หลังจากนั้น ตนก็ไปแอบดู เห็นภรรยายืนขายของอยู่

หลังจากนั้นภรรยาอ้างว่าเป็นบ้านของเพื่อนและที่บอกว่าไปขายของที่ชลบุรี ไปขายจริงแต่ขายไม่ดี จึงย้ายกลับมาขายที่ขอนแก่น หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยกันแต่ก็ไม่รู้เรื่อง และได้แยกย้ายกันกลับบ้าน

ต่อมาตนยังคาใจจึงกลับไปดูที่บ้านหลังนี้อีกครั้ง เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อนำเอกสารไปให้ภรรยาเซ็นเกี่ยวกับเรื่องลูกสาวจะเข้าโรงเรียน ปรากฏว่ารอบนี้เจอทั้งภรรยาและอดีตพระหนุ่ม มีการท้าทายด้วยว่าผู้หญิงเขาเลือกกูแล้ว มึงมีแค่ทะเบียนสมรสฉีกทิ้งไปไม่มีค่าอะไรหรอก หนำซ้ำท้าให้ตนฟ้องชู้ด้วย จึงมีปากเสียงกัน

คุณโอม บอกอีกว่า ตอนนี้ตนก็ตกงาน ต้องกลับมาอยู่บ้านที่ จังหวัดนครราชสีมา ไปสมัครงานที่ใหม่ก็ไม่มีที่ไหนรับเพราะอายุมากแล้ว ตนอยากให้ภรรยามาเจรจาตกลงกันเรื่องหย่าและเรื่องค่าดูแลลูก ส่วนอดีตพระหนุ่ม มือที่ 3 ตนต้องการฟ้องชู้และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

https://youtu.be/8sFKbERJbqM