สามีภรรยาร้อง รพ. ทำลูกในครรภ์วัย 9 เดือนดับ หลังปวดท้องรุนแรง แต่พยาบาลบอกให้กลับบ้าน

สามีภรรยาร้องโรงพยาบาล ทำลูกในครรภ์วัย 9 เดือนเสียชีวิต หลังปวดท้องรุนแรง แต่พยาบาลบอกให้กลับไปดูอาการที่บ้าน เพราะไม่พบความผิดปกติ ผอ.โรงพยาบาล แจงทำตามขั้นตอน แต่ถ้าผิดพลาดพร้อมรับผิดชอบ

ผู้ร้องเรียน 2 สามีภรรยา ชื่อ นายสิทธิฉัตร อายุ 26 ปี และ น.ส.ฮารีนา อายุ 24 ปี พร้อมด้วยทนายความ นำหลักฐานเข้ายื่นร้องเรียนกับนายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เพื่อขอความเป็นธรรม

หลังจากเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสิทธิฉัตรพาภรรยาที่ท้องแก่ใกล้คลอดอายุครรภ์ราว 9 เดือน ซึ่งมีอาการปวดท้องเหมือนจะคลอดลูก เดินทางไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้าน และขณะนั้นพยาบาลตรวจเช็กอาการอยู่ครู่หนึ่ง และบอกว่า ทุกอย่างปกติให้กลับบ้านได้ และถ้าปวดท้องรุนแรงคล้ายจะคลอดก็ให้พากลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง แต่สามีสังเกตเห็นคล้ายมีเลือดออกมาจากช่องคลอดของภรรยา

กระทั่งเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 9 ก.พ. 2567 สามีพาภรรยากลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เนื่องจากรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง และทางพยาบาลได้พาเข้าไปตรวจที่ห้องรอคลอด ผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมงก็ได้รับสายโทรศัพท์จากภรรยาว่า ลูกในครรภ์เสียชีวิตแล้ว ซึ่งพยาบาลพูดกับภรรยาด้วยว่า “ทำไมไม่พามาให้ไวกว่านี้”

ต่อมาแพทย์ให้นอนรอเวลา เพื่อให้เด็กได้คลอดออกมา แต่ผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง ก็ยังไม่คลอดจนต้องส่งต่อไปคลอดที่โรงพยาบาลสงขลา ในเวลาประมาณ 04.30 น. วันเดียวกัน ซึ่งในช่วงที่อยู่บนรถฉุกเฉิน ระหว่างทางสามีสังเกตเห็นศีรษะของทารกโผล่ออกมาจากช่องคลอด แต่ทางพยาบาลได้เอามือไปดันเอาไว้ไม่ให้ทารกออกมา

กระทั่งถึงโรงพยาบาลสงขลา แพทย์นำภรรยาเข้าห้องฉุกเฉินทันที และทำคลอดออกมาเป็นทารกเพศหญิง แต่เสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่า เด็กอาจจะสำลักน้ำคร่ำ และสายสะดือพันกันเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ไปพบกับ นพ.หมัด หีมเหม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว และพร้อมที่จะรับผิดชอบหากเกิดจากความผิดพลาดจากทางบุคลากร หรือทางโรงพยาบาล รวมทั้งทำเรื่องให้ผู้เสียหายได้รับสิทธิเยียวยาตามที่กฎหมายกำหนด

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเบื้องต้นพบว่า ในช่วงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 8 ก.พ. แม่เด็กปวดครรภ์ เข้ามาที่โรงพยาบาล พยาบาลที่เข้าเวรได้ตรวจร่างกายพบว่า เป็นปกติ ยังไม่ถึงเวลาที่จะคลอดจึงให้กลับไปดูอาการที่บ้านก่อน

ทางญาติทักท้วงว่า ทำไมไม่ให้นอนสังเกตอาการ หรือนัดมาให้ตรวจเช็กอีกครั้งในช่วงเช้า ซึ่งจุดนี้คณะกรรมการจะต้องสอบสวนในรายละเอียดอีกครั้งว่า เป็นความสะเพร่าหรือไม่ ส่วนที่สามีสังเกตเห็นคล้ายมีเลือดออกมาจากช่องคลอดภรรยานั้น พบว่าเป็นลักษณะมูกเลือด ไม่ใช่เลือดจากอาการตกเลือดที่เป็นอันตราย

และหลังกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ผลการตรวจพบว่า ทารกในครรภ์เสียชีวิตแล้ว แต่ผู้เป็นแม่ไม่สามารถคลอดออกมาได้ จึงจำเป็นที่จะต้องนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลา และระหว่างทางพยาบาลเอามือไปดันศีรษะไม่ให้ทารกคลอดออกมา เพื่อป้องกันมดลูกของแม่ไม่ให้ฉีกขาดเป็นแผลขนาดใหญ่ เนื่องจากลักษณะนี้ทารกจะพุ่งออกมาพรวดเดียวจนเกิดเป็นแผลขนาดใหญ่ได้ และเครื่องมือบนรถไม่พร้อมที่จะทำคลอด จึงจำเป็นที่จะต้องประคองเอาไว้จนกว่าจะถึงโรงพยาบาล เพื่อให้แม่ปลอดภัย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/T5wSXaO_nRM