สังคม

สามีภรรยาร้อง เก๋งพุ่งข้ามเลนชนเจ็บสาหัส ผ่านมา 5 เดือน คดีไม่คืบ-ไร้เยียวยา

โดย paweena_c

19 ธ.ค. 2566

298 views

สามีภรรยาร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังขี่มอเตอร์ไซด์อยู่ดีๆ ถูกรถเก๋งข้ามเลนพุ่งชน จนบาดเจ็บสาหัส ผ่านมา 5 เดือน คดีไม่คืบหน้า และไม่ได้รับการเยียวยา

วินาทีที่รถเก๋งถูกรถทัวร์พุ่งชนจนรถเก๋งสะบัดหมุนข้ามเลนมาอีกฝั่ง แล้วชนกับรถมอเตอร์ไซด์ ที่ขี่มาอย่างจัง จนทำให้คนขี่มอเตอร์ไซด์และคนซ้อนท้ายกระเด็นตกจากมอเตอร์ไซด์ ซึ่งจะเห็นว่าก่อนที่จะเกิดเหตุ รถเก๋งได้ขับแซงรถทัวร์ในลักษณะปาดหน้า และก็เร่งเครื่องทิ้งระยะห่างจากรถทัวร์พอสมควร

แต่จากนั้นรถทัวร์กลับเร่งเครื่อง แล้วพุ่งชนท้ายรถเก๋งทันที ซึ่งจากคลิปจะเห็นว่ารถทัวร์ ได้มีการเร่งเครื่องลักษณะเหมือนเป็นการพุ่งดับเครื่องชน โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงประมาณ 2 ทุ่มของวันที่ 13 เดือนกรกฎาคม ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ล่าสุดสองสามีภรรยา ซึ่งขี่มอเตอร์ไซด์และได้รับบาดเจ็บ ได้มาขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

โดยผู้บาดเจ็บบอกว่าวันเกิดเหตุได้ขี่มอเตอร์ไซด์ ออกจากห้องพักที่อำเภออุทัย เพื่อจะไปทำงานที่นิคมอุตสาหรรมโรจนะ ซึ่งอยู่ห่างจากห้องพักประมาณไม่ถึง 10 กิโลเมตร โดยตนจะขี่มอเตอร์ไซด์ไปทำงานทุกวัน ส่วนแฟนสาวจะทำงานอยู่คนละที่กัน แต่จะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ของตนไปด้วย

วันเกิดเหตุระหว่างที่ตนขี่มอเตอร์ไซด์มาปกติ จู่ ๆ ก็ถูกรถเพ่งข้ามเลนพุ่งมาชน โดยที่ตนไม่รู้ตัวมาก่อน มารู้ตัวอีกทีคือนอนกองอยู่กับพื้นถนน และกำลังจะหมดสติ

ส่วนคนขับรถเก๋งเดินออกมาจากรถทำท่าเหมือนกับว่าแขนเจ็บ แต่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือหรือสอบถามอาการแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตนและภรรยาไปส่งที่โรงพยาบาลราชธานี

ทั้งนี้อาการของตนบาดเจ็บหลายอย่าง ทั้ง ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็กแตก, ตับแตก, ปอดช้ำ, ขาขวาหัก 1 ท่อน, สะโพกขวาหัก, ข้อมือซ้ายหัก, ข้อเท้าขวาหัก พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 1 เดือน ส่วนแฟน มีอาการเลือดคลั่งในสมอง ขาขวาหัก ซี่โครงซ้ายหัก 1 ซี่ ปอดช้ำ ตับฉีก พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 14 วัน

ซึ่งในระหว่างที่รักษาตัว คนขับรถเก๋งไม่เคยมาเยี่ยมเลย มีเพียงแต่แม่ของคนรถเก๋งนำกระเช้ามาเยี่ยม ส่วนคนขับรถทัวร์ซึ่งอายุ 62 ปี ก็ไม่เคยมาเยี่ยมแม้แต่ครั้งเดียวเช่นกัน มีแต่เพียงตัวแทนของฝั่งรถทัวร์ นำเงินมาให้ 15,000 บาท เท่านั้น และหลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่ออะไรมาอีก

ตอนนี้สิ่งที่ตนต้องการที่สุดคือ อยากให้ทั้งคนขับรถทัวร์และคนขับรถบัส ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่เงียบหายหรือโยนความรับผิดชอบกันไปมาแบบนี้

ขณะที่นายเอกภพ เปิดเผยว่า คดีนี้ผู้เสียหายพยายามติดตามความคืบหน้าของคดีกับตำรวจของ สภ.อุทัย มาโดยตลอด แต่ผ่านมา คดีก็ไม่คืบหน้าทั้งที่ผ่านมา 5 เดือนแล้ว โดยตำรวจเจ้าของคดี บอกกับผู้เสียหายว่า ทางฝั่งรถเก๋งไม่มีประกันภัย และ พรบ.หมดอายุ

ส่วนฝั่งรถทัวร์ก็อ้างว่ารถเก๋งเบรคกะทันหัน ที่สำคัญตำรวจที่ทำคดีบอกว่าตอนนี้ใกล้จะย้ายแล้ว ให้ตามเรื่องคดีกับตำรวจคนใหม่ที่จะย้ายมา ทุกวันนี้ผู้บาดเจ็บถูกทางบริษัทให้ออกจากงานเพราะรักษาตัวเป็นเวลานาน



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/hsGZNXmixKc

คุณอาจสนใจ

Related News