สังคม

พีอาร์สาวร้อง ถูกตำรวจไถเงิน 3.3 แสน แลกไม่ดำเนินคดีสามีครอบครองยาเค ซ้ำขอหลับนอนด้วย

โดย JitrarutP

12 ธ.ค. 2566

163 views

พีอาร์สาว ร้องสายไหมต้องรอด หลังสามีถูกจับคดีครอบครองยาเค ตร.พาตัวไปรีดเงิน 3.3 แสนบาท แลกไม่ดำเนินคดี ซ้ำขอหลับนอนด้วย อ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยที่คุยกับผู้บังคับบัญชา

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พาสองสามีภรรยา มาขอความช่วยเหลือกับนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี หลังสองสามีภรรยาถูกตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี รีดเงินไป 3.3 แสนบาท และภรรยายังถูกตำรวจข่มขืน โดยอ้างว่าเป็นค่าแรงที่ช่วยเหลือไม่ให้สามีติดคุกจากการถูกจับยาเค

พีอาร์สาวผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุคือช่วงค่ำของวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา สามีได้ขับรถมาส่งเธอที่ร้านอาหาร ซึ่งเธอทำงานเป็นพีอาร์อยู่ โดยเมื่อมาถึงร้านไม่เกิน 5 นาที ตำรวจชุดจับกุมทั้ง 7 นาย ซึ่งขับรถยนต์มา 3 คัน ได้ขับรถมาจอดที่หน้าร้าน และเดินมาถามว่าของอยู่ไหน จากนั้นตำรวจก็ได้เข้าไปค้นที่กระเป๋าของเธอ และพบยาเคจำนวนหนึ่งอยู่ในซองพลาสติก ซึ่งยาเคนี้เธอซื้อให้สามีเสพ

ตำรวจได้จับเธอและสามีแยกกันนั่งรถคนละคัน พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ และพาพวกเธอมาถึงบริเวณถนนเส้นมอเตอร์เวย์ ตรงช่วงคลอง 5 ธัญบุรี และข่มขู่ให้เธอต่องาน คือล่อซื้อยาเคจากผู้ค้ารายอื่น แต่เธอไม่สามารถติดต่อใครได้ ตำรวจจึงได้พาเธอไปที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี โดยหนึ่งในตำรวจชุดจับกุม ได้เสนอว่าหากไม่ต้องการให้สามีถูกจับจะต้องจ่ายเงิน 3 แสนบาท

เธอจึงยอมตกลงเพราะไม่อยากให้สามีติดคุก ตำรวจนายนี้ จึงได้พาเธอไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ซึ่งอยู่ห่างจากกองสืบสวน ประมาณ 4 กิโลเมตร โดยเธอกดเงินไปทั้งหมด 7 ครั้ง รวม 2 แสนบาท ซึ่งเต็มวงเงินที่ธนาคารกำหนด และโอนเงินที่เหลืออีก 1.6 แสนบาท เข้าบัญชีสามี เพื่อจะได้ถอนเงินจากบัญชีสามี

จากนั้นตำรวจนายนี้ได้พาเธอกลับไปที่บ้านเพื่อไปเอาเอทีเอ็มของสามี และพามากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใกล้กับตลาดสะพานฟ้า รังสิตนครนายกซอย 8 โดยกดเงินอีก 1 แสนบาท เพื่อให้ครบ 3 แสนบาท ตามที่ตกลง แต่ปรากฎว่าตำรวจนายนี้กลับไม่ทำตามสัญญา แถมยังเรียกร้องข้อเสนอเพิ่ม โดยบอกว่าให้เธอหลับนอนด้วย และขอเงินเพิ่มอีก 30,000 บาท ซึ่งเป็นค่าเสียเวลาที่เขาคุยกับผู้บังคับบัญชา ซึ่งตอนนั้นเธอต้องยินยอม เพราะไม่มีทางเลือก โดยตำรวจนายนี้ได้พาเธอไปที่โรงแรมม่านรูดแล้วมีเพศสัมพันธ์

จากนั้นได้พาเธอกลับมาที่กองกำกับการสืบสวนจังหวัดปทุมธานี ซึ่งสุดท้ายปรากฎว่าสามีก็ยังถูกดำเนินคดี เพียงแต่เปลี่ยนจากคดีครอบครองยาเค เป็นครอบครองยาบ้า 2 เม็ด จนกระทั่งผ่านไป 2 สัปดาห์ สามีสังเกตว่าเธอมีอาการเครียด จึงตัดสินใจบอกเรื่องทั้งหมดให้สามีทราบ และมาขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ซึ่งเมื่อวานนี้ (11 ธ.ค. 2566) ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง 7 นาย ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬา

ขณะที่นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุตามที่ต่างๆ รวมถึงพาตัวผู้หญิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมตำรวจชุดนี้ถึงรู้ว่าผู้เสียหายมียาเค ทั้งที่เพิ่งซื้อยาเคมาจากนายกอล์ฟได้ไม่นาน จึงอยากให้ตำรวจตามตัวนายกอล์ฟ มาสอบสวนว่าเป็นคนชี้เป้าให้ตำรวจชุดนี้มาจับกุมสองสามีภรรยา เพื่อหวังประโยชน์อะไรหรือไม่

ล่าสุดมีรายงานว่าผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 7 นายที่ถูกกล่าวหาไปช่วยราชการ ที่ ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีแล้ว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/8_WFCKRUSds

คุณอาจสนใจ

Related News