หนุ่มร้องถูกสาวหลอกแต่งงาน สูญเงิน 2 ล้าน สาวแฉกลับ พ่อหนุ่มขี้อวดโชว์รวยให้แค่ 5 แสน

หนุ่มร้องทนาย ช่วยพบรักลูกสาวกำนันในแอปหาคู่ แล้วถูกหลอกแต่งงาน ฮุบเงินมรดกเกือบ 2 ล้าน หลังแต่งไม่ถึง 3 เดือน ไล่ออกจากบ้าน ฝ่ายหญิงโต้ ได้เงินมาแค่ 5 แสน แถมเอาภาพจากโซเชียลมาอวดว่ามีทรัพย์สิน สุดท้ายทะเลาะกันจึงอยู่กันไม่ได้

คุณอิฐ อายุ 35 ปี หนุ่มจาก จ.มหาสารคาม หอบหลักฐานทะเบียนสมรส เดินทางเข้าร้องเรียนกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูก น.ส.แพน อายุ 27 ปี ลูกสาวกำนันดัง ใน จ.ชัยภูมิ ที่เจอกันทางแอปหาคู่ คุยกันได้ 1 เดือน หลอกให้มาสู่ขอแต่งงานด้วยเงินสด จำนวน 2 ล้านบาท

ซึ่งเงินจำนวนนี้ คุณอิฐ ได้รับมรดกจากพ่อที่เสียชีวิต ก่อนโอนเข้าบัญชีให้กับฝ่ายหญิงทั้งหมด แล้วแต่งงานจดทะเบียนสมรสกัน จากนั้นคุณอิฐ ย้ายไปอยู่บ้านฝ่ายหญิง แต่อยู่ได้ไม่ถึง 3 เดือน ก็ถูกบีบให้ต้องเลิกรา โดยใช้วิธีไม่ให้คนในบ้านคุยด้วย ไม่หาข้าวให้กิน ให้หากินเองทั้งหมด แถมยังไม่ยอมให้ร่วมหลับนอนด้วย

นายอิฐ กล่าวว่า ตนเองรู้จัก น.ส.แพน เมื่อปี 2565 ทางแอปหาคู่ คุยกันได้ประมาณ 1 เดือน บ้านฝ่ายหญิงเรียกตนไปที่บ้าน พูดคุยตกลงว่าจะแต่งงานกัน โดยตนได้ย้ายไปอยู่บ้านฝ่ายหญิงที่ จ.ชัยภูมิ จากนั้นวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ตนได้รับเงินมรดกจากพ่อที่เสียชีวิต 1.9 ล้านบาท โดยเงินเข้าบัญชีตนเวลา ตี 1 รุ่งเช้าตนก็เดินทางไปจดทะเบียนสมรส

พอวันที่ 25 สิงหาคม ตนก็เข้าพิธีแต่งงานที่ทางฝ่ายหญิงจัดเตรียมไว้ และได้โอนเงินมรดกไปฝากไว้ที่บัญชีภรรยา ซึ่งภรรยาถอนเงินออกมาเป็นเป็นค่าสินสอดและจัดงาน เป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท และสร้อยคอทองคำจำนวน 7 บาท รวมค่าจัดงานทั้งหมดคิดเป็นเงินจำนวน 600,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือภรรยาได้นำไปใช้จ่ายส่วนตัว

นอกจากนี้ ตนยังนำเงินบางส่วนไปซ่อมแซมปรับปรุงบ้านให้กับภรรยา ซึ่งทุกอย่างก็อยู่กันอย่างผัวเมียปกติ แต่ผ่านไปไม่ถึง 3 เดือน พฤติกรรมของภรรยาตนก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ยอมให้ตนเข้าใกล้หรือร่วมหลับนอน ไม่พูดจาด้วย เหมือนแกล้งบีบให้ทนไม่ไหว ให้ออกจากบ้าน ตนจึงพูดกับภรรยาและแม่ยาย แต่ก็ทะเลาะกันตลอด ภรรยาไล่ตนออกจากบ้านและขอหย่า ตนจึงต้องออกจากบ้านภรรยากลับมาอยู่บ้านตัวเอง

หลังจากที่ตนเดินออกมาจากชีวิตภรรยา ก็ได้ข่าวว่าภรรยาได้พาแฟนเก่าเข้าบ้าน ตนก็ไม่เข้าใจว่าตนยังอยู่ไม่ได้ แต่แฟนเก่าทำไมไปมาหาสู่กันได้ จึงคิดว่าการแต่งงานที่เกิดขึ้น น่าจะถูกหลอกให้มาแต่งงาน เพื่อเอาเงินมรดกมาใช้หนี้ที่บ้านภรรยา

โดยฝ่ายหญิงเสนอเงินให้ 50,000 บาท เพื่อให้ไปจดทะเบียนหย่า แต่ตนไม่ยอม จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.บ้านเพชร แต่คดีไม่มีความคืบหน้า เพราะพ่อฝ่ายหญิงเป็นกำนันคนดังใน อ.ภูเขียว จึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางมาร้องเรียนให้ทนายช่วยเหลือ อยากให้ฝ่ายหญิงคืนเงินมา 300,000 บาท ตนจะยอมหย่าแล้วจบทุกอย่าง

ส่วนเหตุผลที่ตนไว้ใจภรรยา จนโอนเงินมรดกทั้งหมดให้ เพราะว่า หลังจากที่รู้จักกันไม่นาน ตนมีคดีมรดกของพ่อ ต้องใช้เงินจ้างทนาย 60,000 บาท ทางฝ่ายหญิงก็ได้โอนช่วยเหลือ ตนจึงเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ หลังจากนั้นไม่นานตนก็ได้คืนเงิน 60,000 บาท คืนกลับไป

ด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า กรณีแบบนี้เมียใหม่ หรือแฟนใหม่ ไม่มีสิทธิที่จะมาแบ่งทรัพย์สิน ที่เป็นมรดกตกทอดของฝ่ายชาย ส่วนที่ฝ่ายชายอยากได้เงินค่าสร้างบ้าน และโรงรถคืนนั้น ตามกฎหมายแล้วหมดสิทธิ เพราะสิ่งปลูกสร้างจะติดไปกับที่ดิน แต่ส่วนเงินที่นำไปลงทุนเปิดร้านขายของชำร่วมกัน ถือเป็นสินสมรสต้องแบ่งครึ่งกัน แต่เงินที่ฝ่ายชายได้มรดกมา แล้วนำไปฝากไว้ที่ฝ่ายหญิงฝ่าย สามารถเรียกร้องคืนได้ทั้งหมด เพราะเป็นเงินส่วนตัว ไม่ได้หามาระหว่างแต่งงานกัน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านฝ่ายหญิง ที่บ้านหนองงูเหลือม ต.บ้านเพชร อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ได้ข้อมูลจาก น.ส.แพน อายุ 27 ปี บอกว่า ข้อมูลจากฝ่ายชาย เกือบทุกเรื่องไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะเงินมรดกที่บอกว่า โอนเข้ามาให้ในบัญชี เกือบ 2 ล้านบาท จริง ๆ แล้วมีเพียงเงิน 5 แสนบาท ฝ่ายชายมาอยู่กินในบ้านตนประมาณ 3 เดือน โดยย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านมาด้วย แต่หลังแต่งงานฝ่ายชายเองนั่นแหละที่ พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป

ยืนยันว่า ไม่ได้หลอก ตอนที่ฝ่ายชายเข้ามาทีแรก ไม่มีเงินติดตัวด้วยซ้ำ ตนเองยังต้องช่วยเหลือค่าใช้จ่าย ในเรื่องคดีการรับมรดกจากพ่อฝ่ายชายที่เสียชีวิตไป ส่วนเงิน 5 แสน ที่โอนมาให้ ถอนมาใช้เรื่องของค่าใช้จ่ายของฝ่ายชายเป็นส่วนใหญ่ ส่วนค่าใช้จ่ายในบ้านก็ใช้เงินของครอบครัวตนเองด้วย ตนยังต้องจ่ายค่าซ่อมมอเตอร์ไซค์ 2 คัน ที่ฝ่ายชายอ้างว่า เป็นรถมรดกของพ่อ

ส่วนเรื่องการสร้างโรงจอดรถ หรือต่อเติมบ้าน ฝ่ายชายต้องการจะทำเอง ทางบ้านของตนไม่ได้อยากได้หรือเรียกร้อง ซึ่งฝ่ายชายบอกว่า สร้างโรงจอดรถไว้ จะได้เอารถเบนซ์มาจอด แถมส่งรูปรถเบนซ์มาให้ดู แต่ตนก็ไม่เคยเห็น มารู้จากแม่เลี้ยงของเขาว่า ทั้งหมดนั้นไม่มีจริง เขาไปเอารูปจากติ๊กต่อกมาส่งให้ตนเองดู เรื่องที่บอกว่า ตนไม่คุยด้วย ไม่ให้หลับนอน ก็คนมีเรื่องทะเลาะกัน ก็ต้องตึงเป็นธรรมดา ส่วนเรื่องไม่หาข้าวให้กิน เขาเองที่เป็นฝ่ายไม่กิน เพราะระแวงว่าจะถูกวางยา เรื่องที่ฝ่ายชายไปแจ้งความ ตนพร้อมสู้คดี ตอนนี้อยากให้เขามาเซ็นใบหย่าให้

https://youtu.be/QrxeX5hBzJk