พิสูจน์สารในเส้นผม ตา-ยาย ร้องลูกวางยาฮุบสมบัติ เพื่อนบ้านเผยเท่าที่เห็น ลูกสาวคนเล็กดูแลอย่างดี

เพจสายไหมต้องรอด พา สองตายยาย ที่เชื่อว่าถูกลูกสาวคนเล็กวางแผนฮุบสมบัติหลายร้อยล้าน ไปตรวจหาสารเสพติดที่กระทรวงยุติธรรม หลังสงสัยว่าอาจถูกให้กินยาบ้า เพื่อต้องการให้มีปัญหาทางด้านสมอง

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานาย นอ อายุ 83 ปี และนางแว่น อายุ 69 ปี มาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ด้วยการตรวจเส้นผม

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทั้งนาย นอ ได้มาขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด หลังเชื่อว่าถูกลูกสาวคนเล็ก วางแผนที่จะฮุบสมบัติ โดยลูกคนเล็กได้มีการถอนเงินจากบัญชีของนาย นอ ไป 13 ล้านบาท และ ของคุณยายอีก 3 ล้านบาท รวม 16 ล้านบาท จนเกลี้ยงบัญชี

แถมยังเอาที่ดินจำนวนกว่าร้อยไร่ที่เขาใหญ่ ของนาย นอ ไปจำนอง จนทำให้ทุกวันนี้ทั้งสองคน ต้องกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว

ที่สำคัญในระหว่างที่ทั้งนาย นอ และ นางแว่น อยู่กับลูกสาวคนเล็ก ยังเชื่อว่าถูกวางยาประเภทกล่อมประสาท นอกจากนี้ลูกสาวคนเล็กได้ยื่นร้องต่อศาล ขอเป็นผู้อนุบาล โดยร้องว่าคุณตาและคุณยาย ซึ่งเป็นพ่อและแม่มีปัญหาทางสมอง

ต่อมาทั้งคุณตาและคุณยายสามารถหนีออกมาจากบ้านของลูกคนเล็ก และได้ไปตรวจร่างกายและผลการตรวจก็พบว่าสมองของทั้งคุณตาและคุณยายปกติ และไม่ต้องมีผู้อนุบาลแต่อย่างใด

โดยนายเอกภพเปิดเผยว่า เหตุผลสำคัญที่ต้องพาทั้ง 2 คนมาตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย เพราะ นาย นอ ระบุว่า ลูกเขยมีพฤติกรรมเสพยาบ้า จึงไม่รู้ว่า ยาที่ ลูกสาวคนเล็ก เอามาให้กินเป็นยาบ้าหรือไม่

จากนั้นเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เชิญนาย นอ และนางแว่น เข้าไปพูดคุยเพื่อสอบถามรายละเอียด โดยบอกว่า การตรวจหาสารเสพติดนั้น จะต้องซักประวัติ ถามที่มาที่ไปของเหตุการณ์ให้ละเอียดชัดเจน ซึ่งหลังจากตรวจเสร็จสิ้นแล้ว จะมีการเปิดเผยความคืบหน้าต่อไป

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านของตานอ อายุ 83 ปี และยายแว่น อายุ 69 ปี ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พยายามจะสอบถามข้อมูลในฝั่งของลูกสาวคนเล็ก ปรากฎว่าที่ไม่มีใครออกมาให้ข้อมูล และมีการปล่อยสุนัขออกมาหน้าบ้านด้วย

ทีมข่าวจึงไปพบกับ นางส้มลิ้ม ลูกคนโตของตากับยาย ยืนยันว่า แม่มาร้องให้ช่วยอยู่ริมรั้วบ้าน บอกว่าอยากออกมาแต่ออกไม่ได้ ซึ่งตอนพูดคุยกับแม่ ก็คุยไม่ค่อยรู้เรื่อง เหมือนอ่อนแรง และเพลีย ตนจึงพาแม่เข้าบ้าน ต่อมาสอบถามจนรู้ว่า ถูกลูกสาวคนเล็กเอายาให้กิน และพบว่าเงินในบัญชีธนาคารกว่า 10 ล้านบาท ถูกโอนไปเข้าบัญชีลูกสาวคนเล็ก จนไม่เหลือสักบาท รวมถึงที่ดินกว่า 100 ไร่ที่ปากช่องด้วย

ด้านนายธีรพร ทองเพียร กำนัน ต.คลองม่วง อ.ปากช่อง บอกว่า ตากับยายเคยมาหาตน 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว ก็เห็นว่าทั้งตากับยาย ดูปกติดี สติสัมปชัญญะปกติดีทุกอย่าง ความจำดี เรียกชื่อตนเองถูกต้อง เพียงแต่คุณตามีปัญหาหูตึงนิดหน่อยเท่านั้น คุณตายังเล่าให้ฟังว่า มีปัญหากับลูกสาวคนเล็ก ยักยอกเงินออกจากบัญชีไปจนหมด และโยกย้ายเอาที่ดินไปเป็นของตัวเอง มีการฟ้องร้องกันเท่านั้น ส่วนข้อเท็จจริงอย่างอื่นตนไม่รู้เรื่อง ทราบเพียงว่ามีการฟ้องร้องกันไปมาหลายคดี

ขณะที่ทีมข่าวสอบถามจากชาวบ้านบอกว่า เท่าที่เห็นลูกสาวคนเล็กก็ดูแลพ่อกับแม่อย่างดี พาไปหาหมอแทบทุกอาทิตย์ นอกจากนี้ยังทราบว่าตากับยายเคยมีประวัติการรักษา โดยหมอจาก รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ในจ.นครราชสีมา ได้วินิจฉัยคุณตากับคุณยาย มีอาการสมองเสื่อม กับประสาทหลอน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/GtzoIQTrLR8