สังคม

เจ้าของร้าน 'ลูกไก่ทอง' รับสื่อสารผิดเอง ไม่เจตนาเรียก 102 ล้าน ยัน 'ปังชา' ทุกคนใช้ได้ทั้งไทย-อังกฤษ

โดย paweena_c

31 ส.ค. 2566

311 views

เจ้าของร้าน 'ลูกไก่ทอง' เผยไม่ได้มีเจตนาเรียกเงิน แค่ให้ความสำคัญเรื่องโลโก้ ทำตามกฎหมายเหมือนเคสต่างประเทศ ยืนยัน ปังชา คนอื่นใช้ชื่อได้ ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ

เรื่องราวของร้านลูกไก่ทอง ที่ก่อนหน้านี้มีการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเครื่องหมายการค้า หลังจากนั้นมีร้าน 'ปังชา' ได้รับหนังสือโนติสเรียกเงิน 102 ล้านบาท จากการละเมิดชื่อทางการค้า และล่าสุดพบร้านชาที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับหนังสือโนติสเรียกค่าเสียหายจากการใช้คำว่า 'ปังชา' ที่ป้ายไฟของร้าน และมีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 7 แสนบาท

ประเด็นที่เกิดขึ้น กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้โพสต์ให้ความรู้กรณี "ปังชาร้านดัง" ระบุถึงความแตกต่างระหว่าง ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และเครื่องหมายการค้า ซึ่งในส่วนของร้านที่เป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ ดังนั้นเมนูน้ำแข็งใสราดชาไทย ใครก็ขายได้ แต่อย่านำลวดลายหรือแบบภาชนะ ที่มีการจดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ไปใช้ และไม่ควรใช้รูปแบบฟอนต์ที่ชวนให้นึกถึงแบรนด์นั้น ๆ แต่ถ้าคิดค้นสูตรขนมขึ้นใหม่ ซึ่งยังไม่เคยปรากฎในที่ใดมาก่อน สามารถนำมาขอจดอนุสิทธิบัตรได้

ด้าน คุณแก้ม เจ้าของร้านลูกไก่ทอง ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ระบุ ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษ ที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ในการสื่อสารของทางร้าน ที่ก่อให้เกิดกระแสสังคมที่หนักทั้งผู้รับผลกระทบ และตัวร้านลูกไก่ทอง

และขอโทษร้านปังชา เชียงราย และร้านทางช้างเผือก หากมีโอกาสอยากติดต่อพูดคุยเพื่อขอโทษ แต่ก็ยังไม่ได้เจอ ครั้งนี้ที่ได้มาออกรายการจึงขอโทษน้องเจ้าของร้านทั้งสอง และขอโทษประชาชน ต่อความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน จากการสื่อสารของร้าน

โดยได้ชี้แจงเรื่องราวว่า การที่เพจของร้านมีการโพสต์ภาพเรื่องลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และใส่รูปภาพ รวมทั้งการที่อธิบายไม่ชัดเจน เมื่อเกิดการแชร์ออกไปทำให้เกิดความเข้าใจผิดในประเด็นดังกล่าว

เมื่อคุณหนุ่ม กรรชัย ถามถึงการฟ้องร้องร้านต่าง ๆ ว่าใจดำเกินไปไหม 'คุณแก้ม' แจงว่า ทั้งหมดที่ออกโนติสไป คือไม่ได้มีเจตนาที่จะฟ้องใคร แต่ในโนติสที่เขียนไปเรียก 102 ล้านบาท เป็นเรื่องของเครื่องหมายการค้า หรือโลโก้ โดยดูแบบอย่างจากต่างประเทศที่ให้ความสำคัญจากโลโก้ 

และยอมรับว่าเป็นความผิดของทางร้านเองกับทีมกฎหมาย ที่มองว่ามูลค่าของโลโก้ที่มีเจตนาทำไป เทียบเคียงกับเคสต่างประเทศ จึงระบุยอดเงิน 102 ล้านไป แต่ในเจตนาจริง ๆ ไม่ได้คิดที่จะฟ้องร้อง หรือต้องการได้รับเงินจากทางร้านปังชาที่เชียงราย 

ยืนยัน คำว่า 'ปังชา' ทุกคนใช้ได้ เพราะร้านไม่ได้จองไว้ใช้คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นคำว่า ปังเย็น ปังน้ำแข็งใส และจะไม่มีการยื่นโนติสใด ๆ 

ส่วนตัวภาชนะที่ใช้ แล้วมีลักษณะคล้ายเหมือนของร้านลูกไก่ทอง ส่วนนี้การพิจารณาต้องอยู่ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา แต่ถ้าเกิดเป็นถ้วยที่เหมือนเลย ส่วนนี้ถือว่าผิดสิทธิบัตร

โดยสรุป ที่ฟ้องร้องเป็นเรื่องเครื่องหมายการค้า หรือโลโก้ คำว่าปังชา ไม่ว่าภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษ (Pang Cha) สามารถใช้ได้ ถ้าไม่ก่อให้เกิดความสับสนของร้าน

อีกประเด็นที่ผู้คนสนใจ คือโลโก้หญิงสวมชุดไทย ที่มีคนบอกว่าคล้ายกับรูปภาพจากปฎิทินปี2550 คุณแก้มระบุ เป็นการจ้างคนวาดลายเส้นขึ้นมา โดยร้านบอกว่า อยากได้ผู้หญิงใส่ชุดไทย แต่ก็ไม่ทราบว่าคนวาดได้เลียนแบบมาจากภาพไหนหรือไม่ และจะขอตรวจสอบอีกครั้ง 

คุณแก้ม ได้ฝากทิ้งท้าย ระบุ "ขอโทษทุกคน เราไม่เคยจับจองอะไรเป็นของเรา อยากให้ทุกคนให้โอกาส และให้อภัยในทุก ๆ สิ่งของทางแบรนด์ ถ้ามีอะไรที่ทำให้ทุกคนเสียใจ หรือผิดหวัง วันนี้ขอน้อมรับ ขอโทษ และขอโอกาสอีกครั้ง"

ทั้งนี้ในรายการมีการนัดหมายคุณแก้ม พร้อมกรมทรัพย์สินทางปัญญา มาคุยในรายการโหนกระแส เพื่อแจงรายละเอียดอีกครั้ง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/bT8CORxv6MQ

คุณอาจสนใจ

Related News