สังคม

‘ทนายอนันต์ชัย’ ยื่นฟ้อง ‘แพรรี่’ หมิ่นหลวงตาสินทรัพย์ เจ้าตัวฟาดกลับ “มีตาลปัตรเหล็ก” เดี๋ยวเจอกัน

โดย paweena_c

9 มิ.ย. 2566

285 views

ทนายอนันต์ชัย ยื่นฟ้อง "แพรรี่" กับลูกเพจ หมิ่นประมาท กล่าวหาหลวงตาสินทรัพย์ บริจาคเงิน 1 ล้าน หวังปิดทนาย

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความพร้อมด้วย นายประยุทธ ประเทศเสนา ทนายความมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา เพื่อยื่นฟ้อง นานไพรวัลย์ วรรณบุตร , นางสาวเปรมวดี ก๋งชิน และนางสาวนงนภัส เตชะ หลังทั้งหมดร่วมกันหมิ่นประมาท ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า ส่วนตัวตนเองไม่ได้มีเรื่องผิดใจหรือ ไม่พอใจกันเป็นการส่วนตัวกับบุคคลทั้งสาม แต่ที่มาในวันนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับ หลวงตาสินทรัพย์ จรณธมฺโม แห่งวัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ จังหวัดอุบลราชธานี แต่เป็นการป้องกันสิทธิ์

ส่วนตัวของตนเองและสิทธิ์ของทางมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ซึ่งส่วนตัวของตนเองและทางมูลนิธิ ไม่เคยได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับใครแต่ก็ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นให้วิพากษ์วิจารณ์จากตัวนายไพรวัลย์ จนทำให้ตนเองและทางมูลนิธิ ถูกด่าทอในโซเชียลมีเดียอย่างมาก

แม้ว่าการตั้งกระทู้ขึ้นมาในโลกโซเชียลของนายไพรวัลย์จะไม่ได้มีการระบุชื่อของใครเข้าไปก็ตามแต่การที่โพสต์ ของนายไพรวัลย์ก็ทำให้คนเข้าใจได้ ว่าเป็นใคร

วันนี้จึงเดินทางไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาในข้อหามินประมาทกับบุคคลทั้งสามที่เป็นทั้งผู้โพสต์และผู้คอมเม้นต์ ซึ่งตนเองเป็นโจทก์ที่หนึ่งและทางมูลนิธิทนายกองทัพธรรมเป็นโจทก์ร่วมที่สอง ต้นเรื่อง ต้นเรื่องเกิดจากเรื่องพระธาตุที่นายไพรวัลย์มีการหยิบยกโพสต์ของคนอื่นมาใช้วิพากษ์วิจารณ์ก่อนจะมาถึงการโพสต์ ข้อความพาดพิงหลวงตาสินทรัพย์ เกี่ยวกับเรื่องการสอนธรรม และยังพาดพิงลูกศิษย์ของหลวงตาสินทรัพย์ ซึ่งหมายความรวมถึงตัวเองด้วย

แม้ว่าตัวนายไพรวัลย์จะไม่ได้มีการระบุชื่อก็ตามแต่ลูกศิษย์ของหลวงตาสินทรัพย์มีมากมายเป็น 1 ล้านบาท (คนทั่วประเทศหมายความรวมถึงตนเองด้วยถ้าแน่จริงก็ระบุชื่อมาเลยว่าลูกศิษย์ที่ว่าคือทนายอนันต์ชัย)

ต่อมามีจำเลยที่สอง เข้ามาร่วม แสดงความคิดเห็น กล่าวหาว่าหลวงตาสินทรัพย์ อวดอุตริ และยังกล่าวหาว่ามีการจ่ายเงินให้กับมูลนิธิทนาย เพื่อปกป้องกัน ซึ่งหมายถึงตนเอง และยังมีการโพสต์ภาพคู่คนเองและหลวงตาสินทรัพย์ และมีจำเลยที่ 3 เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งถือว่าตนเองและมูลนิธิเสียหาย เรื่องของเงินจำนวน 1 ล้านบาท ที่มีการพูดถึงในคอมเมนต์นี้ เป็นเงินที่หลวงตาสินทรัพย์ให้กับตนเองไว้ และตนเองเคยมีการแถลงชี้แจงไปถึง 4 ครั้งตลอดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา (20 สิงหาคม 65, 5 ตุลาคม 65, 15 กุมภาพันธ์ 66, 21 กุมภาพันธ์ 66) และตนเองมีการนำเงินก้อนดังกล่าวเข้ามูลนิธิ

เพื่อใช้เป็นเงินในการเดินทางทำงานช่วยเหลือพระและวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศซึ่งมาจนถึงปัจจุบันนี้มีการช่วยเหลือไปแล้วกว่า 50 กว่าผลงาน นอกจากนี้ยังมีบุคคลอื่นร่วมโพสต์พาดพิงตนเองและหลวงตาสินทรัพย์ ว่าเป็นการให้เงินเพื่อปิดปาก ในเรื่องที่ไม่ดี อยู่อีกเป็นระยะ ๆ แต่ทุกครั้งจะไม่มีการโพสต์ระบุชื่อบุคคล ตนเองอยากจะบอกว่าตนเองเป็นคนพูดน้อยค่อยหนัก ดังนั้นใครที่อยากจะพูดถึงตนเองขอให้ระบุชื่อมาให้ชัดเจนอย่าเป็นอีแอบโพสลอยๆโดยไม่ระบุชื่อแบบนี้ และยืนยันว่า ตนเองทำมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ไม่มีผลประโยชน์ตอบแทนใดใดทั้งสิ้น

ซึ่งตนเองเสียทั้งเวลาและเงินทองในการทำงานแต่มองว่าเป็นการทำบุญส่วนตัว จากนั้นตนเองอยู่ดีดีขออย่าได้มาพาดพิง พร้อมฝากถึง บุคคลที่ชอบโพสต์กล่าวหาคนอื่นแม้ว่าคุณจะไม่ใส่ชื่อแต่ถ้าการโพสต์นั้นนั้นทำให้คนอื่นเข้าใจได้ว่าเป็นใครก็สามารถถูกฟ้องได้เช่นกัน ไม่จำเป็นว่าต้องมีการระบุชื่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ขออย่าไปพยองตัวเองว่าจะด่าใครก็ได้ และอย่าได้คิดว่าตนเองเก่งพระธรรมวินัยเพียงคนเดียวเพราะก็มีบุคคลอื่นที่อาจจะเก่งกว่าก็ได้ ดังนั้นในวันนี้จึงเดินทางมาใช้สิทธิ์ที่ตนเองเสียหาย

ตนเองยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยมีปัญหาหรือประเด็นผิดใจกันกับทางจำเลยทั้งสามมาก่อนแล้วก็ไม่เข้าใจว่าอยู่อยู่ทำไมถึงมีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพาดพิงตนเอง แต่เมื่อถูกกล่าวถึงทำให้เสียชื่อ ก็ต้องออกมาต่อสู้ในสิทธิ์ของตัวเอง ตนเอง ยอมรับว่าปากของตนเองสู้กับปากของนายไพรวัลย์ ไม่ได้แต่ถ้าผิดมาตนเองก็จะฟ้อง

ส่วนการฟ้องร้องในวันนี้ยืนยันว่าจะไม่มีการเรียกค่าเสียหายใดๆ เพราะตนเองมีเงินทองอยู่แล้ว และจะไม่ยอมเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางคู่กรณีด้วย ตนเอง อยากจะฝากถึงกลุ่มคนที่มีมือที่เร็วกว่าสมอง ว่าขอให้คิดดูให้ดีก่อนจะพิมพ์อะไรในโซเชียล รวมถึงสาวกของนายไพรวัลย์ ด้วย

ขณะที่นายจตุรงค์ ตนเองก็ขอฝากจะให้เข้าใจผิดว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงหรือเป็นคนที่สื่อต้องการให้ออกรายการคนดูเป็นล้านๆ ตนเองอยากบอกว่า ทุกครั้งที่มีเรื่องคดีต่างๆตนเองก็จะรับการติดต่อจากทางสื่อเพื่อจะขอให้ไปออกรายการโดยเฉพาะคุณหนุ่มกรรชัยแต่ตนเองก็บอกเสมอว่าไม่อยากยุ่งเรื่องของคดีคนอื่นถ้าเรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับคดีของตนเองก็จะไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว

ดังนั้นอย่าได้เข้าใจผิดว่าตัวเองเจ๋ง ขณะที่สื่อมีการถามว่า เห็นว่าทางนายไพรวัลย์จะมีการให้ทางทนายเดชาเอาเป็นทนายความในการต่อสู้คดีในครั้งนี้ทางทนายอนันต์ชัยมีความเห็นอย่างไร โดยทนายอนันต์ชัยระบุตอบกลับว่า ส่วนตัวตนเองกับทนายเดชาจบ มหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นเดียวกันและเรียนเนติบัณฑิตพร้อมตนเอง แต่ตนเองจบเนติบัณฑิตก่อนทนายเดชานานถึง 30 ปี รวมถึงยังเคยต่อสู้กันในชั้นศาลถึงสองคดีและแพ้ตนเองทั้งสองคดี ดังนั้น ถ้าทางคู่กรณีจะมีการให้ทางทนายเดชาเป็นทนายในการต่อสู้คดีทางฝั่งตนเองก็จะให้ทนายฝึกหัดเป็นคนว่าความแทน เพราะคนละระดับกับตนเอง

ด้าน ไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "กูอ่านคำฟ้องมึงแล้วกูขำมากนะคะ บอกตรงๆ เออ ดีค่ะ กูจะได้ไปพูดยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้งว่า การสูบบุรี่ของพระในวัดเนี่ย มันทั้งผิดกฎหมายและไม่เป็นแบบอย่างที่ดีของชาวบ้านค่ะ

แล้วเขียนคำฟ้องก็มาเขียนให้มันดีๆ หน่อยนะคะ มาเที่ยวกล่าวหาว่ากูมีเจตนาให้คนอื่นหมิ่นประมาทมึง ทั้งๆ ที่กูแสดงความคิดเห็นเรื่องอื่นอันไม่เกี่ยวข้องกับมึงเลย แถมเรื่องที่พูดก็เป็นการวิจารณ์โดยธรรมซึ่งพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของพระ แบบนี้ก็เป็นการใส่ความกูเหมือนกันนะคะ

เดี๋ยวเจอกันค่ะ ถึงกูจะไม่ได้กระดูกเหล็ก แต่กูมีตาลปัตรเหล็ก มึงไม่รู้หรอคะ"


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/uFx8HWHH8io

คุณอาจสนใจ

Related News