'กระจกเงา' เปิดคำสัมภาษณ์ 'ชีวิตแม่เด็ก 8 เดือน' ด้านเพจดังติง สังคมให้ความเป็นธรรม 'เหยื่อที่แท้จริง'

เพจเฟซบุ๊กมูลนิธิกระจกเงา เปิดชีวิตของแม่เด็ก 8 เดือน สะท้อนปัญหาสังคม ขณะที่ทนายและเพจดัง ติงสังคมให้ความเป็นธรรมกับเหยื่อที่แท้จริง


โดยมูลนิธิกระจกเงา ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ แม่เด็ก 8 เดือน ที่ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเล่าว่า "หนูไม่เคยมีความฝัน ตอนเด็กๆ ไม่เคยคิดฝันว่าอยากเป็นอะไร แค่คิดว่าจะได้ทำงานที่พอเลี้ยงตัวเองได้ ไม่คิดมีความฝันว่าจะเป็นอาชีพอะไร หนูไม่เคยคิดไปไกลขนาดนั้น ดูความเป็นอยู่ของที่บ้านหนูสิ หนูคิดว่าหนูไปถึงตรงนั้นไม่ได้


หนูไม่มีบ้าน เกิดมาไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง อยู่แต่บ้านเช่า และบ้านในบ่อปลา ที่พ่อรับจ้างเฝ้าบ่อ หนูอยู่ในครอบครัวที่ลำบากตั้งแต่เด็กๆ สมัยก่อนพ่อทำงานอยู่ในโรงรับซื้อของเก่า บางวันหนูก็ไปช่วยพ่อคัดแยกขวด


หนูไม่เคยมีเพื่อนสนิท มีแค่เพื่อนที่รู้จักกัน อาจไปไหนด้วยกันบ้าง แต่ไม่เคยได้รู้เรื่องส่วนตัว ไม่สนิทกันจริงๆ เพราะตอนที่อยู่โรงเรียนไม่ได้มีอะไรได้ทำด้วยกัน


ที่โรงเรียน หนูโดนบูลลี่ ทั้งคำพูด และการกระทำ เพื่อนที่โรงเรียนทำเหมือนหนูไม่มีตัวตน เป็นอากาศ หนูก็ต้องอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว มันเลยรู้สึกไม่อยากไปโรงเรียน พ่อก็ถามว่าวันนี้ไม่ไปโรงเรียนเหรอ หนูก็ตอบว่าไม่อยากไปแล้ว ลึกๆใจอยากเรียนนะ แล้วผลการเรียนหนูก็ไม่ได้แย่นะ


หนูแทบไม่เคยกอดแม่เลย ไม่ได้แสดงความรักต่อกัน ตั้งแต่หนูอยู่ชั้นประถม แม่หูตึง พูดไปเขาก็ไม่ได้ยิน ทำให้พอเราคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็ค่อยๆ ห่างกันไป เหมือนไม่สนิทกัน อยู่ด้วยกันในบ้านแต่เราอยู่กันแบบห่างๆ จนแม่ล้มป่วยติดเตียงก็ได้ดูแลแม่มากขึ้น พาไปกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล


หนูรักพ่อนะ มีอะไร ก็มาบอกพ่อ คุยกับพ่อ แต่ไม่ชอบเวลาพ่อกินเหล้าเมาแล้วโวยวาย หนูเห็นพ่อทะเลาะกับแม่ตลอด มันบ่อยมาก เห็นตั้งแต่เด็กๆ หนูไม่ชอบเลย ตอนเล็กๆ หนูนั่งร้องไห้ พยายามขอร้องให้พ่อหยุด แต่เขาก็ไม่หยุด


หนูร้องไห้บ่อยมาก จะหยุดก็ตอนเขาเลิกทะเลาะกัน พอหนูโตขึ้น ความรู้สึกมันก็ชาชิน ชินแต่เจ็บปวด รู้สึกว่าบ้านหนูไม่มีความสุขเลย ความสุขของหนู มันคือการออกมานอกบ้าน ตั้งแต่มาอยู่กับพุดได้ใช้ชีวิตอยู่เอง ถ้าหนูมีอะไรไม่สบายใจ เขาก็จะพูดให้หนูสบายใจ เหมือนเป็นหลักในชีวิต ที่คุยกันได้ ปรึกษากันได้


ตอนคลอดน้องต่อ เจ็บท้องมาก เป็นความเจ็บที่สุดในชีวิต ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีน้อง แต่หลุดมา รู้ตัวว่ามีลูกตอนท้องได้เดือนนึง พอรู้ หนูตั้งใจเก็บไว้ คิดว่ามีก็มี ไม่เคยคิดว่าจะเอาเขาออก เราไม่มีเงินเก็บสำหรับคลอดลูกเลย เราไม่มีอะไรเลยจริง ๆ มีแต่ของที่คนอื่นให้มา ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลหนูก็ยังไม่มีอะไรเลย


ถามว่า ถ้ากลับไปแก้ไขอดีตได้ จริง ๆ มันก็แก้อะไรไม่ได้แล้ว วันนี้เป็นวันที่หนูรู้สึกไม่เหลือใคร ไม่เหลือใครจริง ๆ


ด้านนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ แสดงความคิดเห็นผ่านเพจ ทนายคลายทุกข์ ว่า คดีเด็กวัย 8 เดือนหาย ในเมื่อยังไม่เจอศพ แล้วตำรวจแจ้งความแม่เด็ก ในข้อหาประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนตัวเห็นว่าน่าจะเกินจริงไป ดูแล้วพนักงานสอบสวนจะมีมาตรฐานให้ประชาชนเชื่อถือมากแค่ไหน หรือว่ามีอำนาจ อยากปิดคดีก็แจ้งข้อหาไป สุดท้ายก็ยกฟ้อง หรือ สั่งไม่ฟ้อง


ศพยังหาไม่เจอเลย ถ้าข้อหาแจ้งความเท็จก็ว่าไป แต่ข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพนั้น ศพยังหาไม่เจอเลย แล้วจะเอาศพที่ไหนไปซ่อนเร้นอำพราง ตอนนี้ศพอยู่ไหน ศพยังไม่มีจะไปซ่อนเร้น หรือ อำพรางที่ไหน อย่าไปบอกว่าแม่เด็กใจร้าย เพราะยังไม่รู้เลยว่าความจริงเป็นอย่างไร


ตำรวจ อย่าไปตามกระแสมากนัก ขอให้ทำตามพยานหลักฐานจะดีกว่า เอาแค่คำรับสารภาพแจ้งข้อหา พ่อแม่ทำเด็กหล่น ต้องโดนข้อหาประมาทหมดหรือไง เรื่องนี้ต้องมีพยานหลักฐาน และ นิติวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ ว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว ถึงจะแจ้งข้อหาประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งเชื่อ ถ้าไม่มีพยานหลักฐาน สั่งฟ้องไปก็ถูกยกฟ้อง


ส่วนที่คนสงสารนิ่ม อาจจะเหมือนคดีของลุงพล ก็คล้าย ๆ กัน ตอนแรก ๆ ก็บอกว่า ลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์ จนตอนหลังลุงพลกลายเป็นจำเลย


ขณะที่เพจอีเจี๊ยบ เลียบด่วน ได้โพสต์ถึงคดีนี้เช่นกัน บอกว่า คดีนี้ยิ่งตามยิ่งอึดอัด เพราะแม่เด็กเป็นเยาวชน สื่อจะซักถามอะไรก็ลำบาก เป็นเยาวชน จะสอบอะไรเป็นทางการ ก็ต้องมีหน่วยงานต่าง ๆ มานั่งด้วย จะสอบแบบดุเดือดเข้มข้น ขู่อะไรก็ลำบาก แม่ก็ไม่กลัว โกหกไปเรื่อย


แถมเริ่มมีพี่ ๆ NGO เริ่มมาขอความยุติธรรมให้แม่ จะเขียน จะอะไรก็ต้องระวัง ว่าจะกลายเป็นละเมิดเยาวชนอีก ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่า ทุกอย่างที่แม่พูดคือ เท็จ 100% พี่คุ้มครองสิทธิ์แม่อายุ 17 ปี ที่เป็นเยาวชนมากไปไหม แล้วเด็ก 8 เดือน ไม่ใช่เยาวชนรึ ไม่ใช่ต้องสืบหาให้ได้ว่า ใครฆ่าเขารึ เกิดมาเพิ่งเคยเจอ ตัวละครชื่ออะไรรู้กันหมดแล้ว ลงข่าวมาจะเดือนแล้ว แต่ตอนนี้ต้องมาเขียนชื่อย่อ เพื่อ? ประเทศนี้แปลกดี


ความเห็นส่วนตัว ที่แม่บอกว่า ลูกหล่นพื้นตอนดึก นิ่งไป แม่กลัวผัวและบ้านผัวด่า เลยเอาไปวางบนดินริมน้ำ แล้วกลับมานอน กูไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว หล่นจริงรึป่าว วางจริงรึป่าว วางตรงดิน วางลงน้ำ หรือโยนลงแม่น้ำไปแล้ว ตั้งแต่ลูกหายวันแรกก็โกหก โกหกทุกวัน จนวันนี้จะให้เชื่อได้ไง ว่า วันนี้ วันพรุ่งนี้ หรือวันต่อไป จะไม่โกหก...กูไม่เชื่อ!!


อย่ามาบอกว่า โกหกเพราะกลัว ยิ่งกลัวต้องยิ่งพูดความจริง โกหกให้คนอื่นมาเสียเวลา เสียแรงงาน เสียทรัพยากรค้นหา สืบสวน สอบสวน เพื่ออะไร แค่บอกตั้งแต่วันแรกก็จบไหม!! ใครจะสงสารแม่ เห็นใจแม่ และปล่อยนางโกหกไปทุกวัน รอให้นางเฉลยความจริงอย่างสบายใจ ไม่กระทบกระเทือนใจนาง อันนี้ก็ตามใจนะ ไม่ว่ากัน แต่สำหรับกู เหยื่อจริง ๆ คือ เด็ก 8 เดือน!! ที่ตอนนี้ทุกคนคงรู้สึกเหมือนกันว่า ไม่น่ามีปาฏิหาริย์ใด ๆ ไม่ว่าตอนนี้หนูจะอยู่หรือไม่ หนูช่างเป็นเด็กที่โชคร้ายเหลือเกิน ลูกเอ๊ย เฮ้อออ..หมดแรงบอกรักเลยวันนี้.

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/epL8EClWi3A