สังคม

‘อิคคิว’ ร้อง ปทส.ตรวจสอบที่ดินสำนักสงฆ์ พบบุกรุกป่าสงวน หลัง ‘ครูบาไก่’ ยังดื้อไม่สึก

โดย paweena_c

25 ม.ค. 2566

118 views

อิคคิว อดีตลูกศิษย์ครูบาไก่ เข้าร้องทุกตำรวจ ปทส.ตรวจสอบที่ดินสำนักสงฆ์ที่จังหวัดขอนแก่น ว่าถูกต้องหรือไม่ หลังครูบาไก่ยังดื้อไม่สึก และยังฟ้องร้องพวกเขาอีก


จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ แชร์ภาพพระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร หรือ ครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น นั่งห่มผ้าอยู่บนเตียงในกุฏิตัวเอง ซึ่งลักษณะเตียง ผ้าห่ม ผ้าปูเตียง และบรรยากาศโดยรอบมีความคล้ายคลึง จนเชื่อมโยงไปถึงภาพของลับที่ส่งไปโชว์วัยรุ่นชายที่ชื่อ เจน นอกจากนี้ยังมีภาพครูบาไก่เล่นน้ำตก โดยคนมาลูบตัวให้ และภาพครูบาไก่ถอดสบงแล้วทรงเจ็ตสกี พร้อมตั้งคำถามว่า พฤติกรรมนี้เหมาะสมหรือไม่นั้น


ล่าสุด วันนี้ (25 ม.ค. 66) นางสาววาสนา เคลือบสูงเนิน หรือ อิคคิว อายุ 33 ปี พร้อมนางสาวคมคาย หรือ บุ๋ม อายุ 43 ปี และกลุ่มอดีตลูกศิษย์คนสนิทของครูบาไก่ เข้าร้องทุกข์กับตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. ให้เข้าตรวจสอบการเข้าครอบครองที่ดินที่พักสงฆ์วัดป่าปฐมเทวาราม อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่ และเป็นการรุกที่ป่าหรือเปล่า


นางสาวคมคาย กล่าวว่า นำหลักฐานภาพถ่าย และหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าพื้นที่วัดดังกล่าว มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน กว่า 70-100 ไร่ โดยขอให้ตำรวจ ตรวจสอบว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนจริงหรือไม่ และที่ออกมาเดินหน้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับตัวครูบาไก่ ไม่ใช่มาจากปัญหาส่วนตัว แต่มาจากการที่ครูบาไก่ กระทำความผิดแต่ยังคงดื้อไม่ยอมรับผิดกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำไป และยังมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นผู้เสียหาย จึงจำเป็นต้องเดินหน้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อเอาผิด ยืนยันว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด


ส่วนหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.มัญจาคีรี กล่าวว่า ยังไม่มีใครได้รับหมายเรียกดังกล่าว จึงอยากขอให้ทางตำรวจปฎิบัติหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมา


ด้าน ครูบาไก่ กล่าวว่า เคยมีการร้องเรียนเรื่องนี้ไปแล้วก่อนหน้านี้ และมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงพื้นที่มารังวัดแนวเขต ซึ่งจากการตรวจสอบในเขตพื้นที่วัดก็ไม่ได้รุกล้ำแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แนะนำว่าหากจะทำเป็นสำนักสงฆ์ก็สามารถทำได้ โดยห้ามขยับเข้ารุกล้ำในเขตป่าไม้ซึ่งอยู่ติดกัน แต่สามารถขึ้นไปปฏิบัติธรรม ปักกลดธุดงค์ได้ แต่ไม่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างได้ ทางวัดและลูกศิษย์ทุกคนก็ทราบเรื่องนี้ดี จึงพัฒนาเพียงในพื้นที่ของที่พักสงฆ์ที่สามารถทำได้เท่านั้น ยืนยันความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน


ส่วนที่เผยแพร่ภาพของพระรูปหนึ่ง มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายครูบาไก่ ในโลกโซเชียล บางภาพก็เป็นที่น่าสงสัยว่าจริงหรือไม่ และมีคลิปนั่งซ้อนท้ายลูกศิษย์ที่เป็นผู้ชายขับเจ็ตสกีให้ก่อนจะโบกมือมาทางกล้อง ในเรื่องนี้ ครูบาไก่บอกว่า ได้ดำเนินการตามวินัยของสงฆ์ไปแล้ว แต่เป็นเพียงเรื่องของโลกวัชชะหรือโลกติเตียน ไม่ถึงขั้นต้องลาสิกขาไป


อย่างไรก็ตามขั้นตอนต่างๆ ของทางคณะสงฆ์ขณะนี้ยังคงยุติชั่วคราว เนื่องจากยังต้องรอการสืบสวนสอบสวนทางด้านคดีความอาญาที่ทางครูบาไก่เข้าแจ้งความเอาผิดกับอิคคิวพร้อมพวกรวม 4 คน ซึ่งทางตำรวจได้ส่งหมายเรียกให้มาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 27 มกราคมนี้


ขณะที่ พลตำรวจตรี วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการ ปทส. กล่าวว่า ตัววัดตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนจริง รวมถึงยังพบว่าในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดที่วัดตั้งอยู่มีการออกโฉนดอยู่ 2 แปลง ประมาณกว่า 31 ไร่


ส่วนพื้นที่ของวัดต้องตรวจสอบว่าได้ยื่นขออนุญาตตั้งวัดในพื้นที่ป่าสงวนหรือไม่ เนื่องจากมติคณะ ครม. เมื่อปี 2563 เปิดช่องให้หน่วยงานราชการ หรือวัด หรือสำนักสงฆ์ สามารถขออนุญาตจัดตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนได้สูงสุดไม่เกิน 15 ไร่ ในระยะเวลาตั้งแต่ 5-30 ปี แต่จะต้องมีการขออนุญาตขึ้นทะเบียนกับทางสำนักพุทธศาสนา และมีการส่งเรื่องมาที่กรมป่าไม้ก่อนช่วงปลายปีที่ผ่านมา หากพบว่ามีการขออนุญาตและอยู่ในขั้นตอนระหว่างการดำเนินการก็จะถือว่าไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับการบุกรุกป่าสงวน


แต่หากพื้นที่ดังกล่าวไม่เคยขออนุญาต ถือว่ามีความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 15 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 150,000 บาท ตามที่ขนาดเนื้อที่ที่รุกล้ำ


https://youtu.be/t6rW_7Qee4Q

คุณอาจสนใจ

Related News