สังคม

แท็กซี่ขับรถทับหมา! อ้างมองไม่เห็น ไม่ขอโทษ เกิดมีปากเสียง อ้างถูกเจ้าถิ่นรุมยำ

โดย paweena_c

13 ม.ค. 2566

33 views

คนขับแท็กซี่ขับรถทับหมา อ้างมองไม่เห็น ไม่ยอมขอโทษ เกิดมีปากเสียงทะเลาะกับคนในซอย หวิดโดนรุมกระทืบ สุดท้ายตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่เรื่องยังไม่จบง่าย ๆ ตำรวจต้องเชิญตัวแท็กซี่ไปเป่าแอลกอฮอล์ เพราะพูดจาไม่รู้เรื่องและจะเอาเรื่องคนในซอยฐานทำร้ายร่างกาย


เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ return Part 5.2 โพสต์คลิปกล้องหน้ารถพร้อมข้อความระบุว่า เป็นเรื่องราวจากหลังไมค์ กรณีแท็กซี่ ขับรถเข้ามาจอดไม่เห็นหมา จนเกิดวิวาทะแท็กซี่อ้างถูกรุมทำร้าย แท็กซี่มีการโวยวายจนตำรวจต้องเข้ามาระงับเหตุและเชิญตัวไปที่โรงพักเพื่อเป่าแอลกอฮอล์


ทางเพจ ยังโพสต์ด้วยว่า เรื่องนี้มี พ.ร.บ.คุ้มครองสุนัขควรใช้กฎหมายจัดการ ถ้ามีการยั่วยุสามารถแจ้งหมิ่นประมาทได้ อย่าใช้ความรุนแรงกันเลยปัญหาเล็กๆที่ใช้สติในการแก้จบปัญหาได้ง่ายดาย


โดยในคลิปจะเห็นว่า แท็กซี่ขับเข้ามาในซอยช่วงประมาณ 20.40 น. ของคืนวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมาเพื่อส่งลูกค้าที่เป็นผู้โดยสารชาวต่างชาติ จังหวะที่เลี้ยวเข้า ถ้าดูจากคลิปจะเห็นว่ามีหมาตัวสีขาวนอนอยู่ข้างหน้า แต่แท็กซี่อ้างว่ามองไม่เห็นทักเข้าอย่างจัง จนหมาร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด


ส่วนคนที่อยู่บริเวณดังกล่าว ต่างก็ตกใจลุกขึ้นมาดู แล้วบอกให้แท็กซี่ขับถอยออกไปเพราะกำลังทับหมาอยู่ จากนั้นก็มีปากเสียงกระทบกระทั่งกัน คนขับแท็กซี่ท้าคนในซอยไปว่าให้ตบเลยอย่าพูดอย่างเดียว


เหตุการณ์ไม่จบลงง่ายๆเรื่องราวบานปลาย จนตำรวจสายตรวจต้องเข้ามาระงับเหตุ ซึ่งหากดูจากคลิปจะเห็นว่าแท็กซี่จะโวยวายตลอดว่า ถูกรุมทำร้าย ตำรวจก็พยายามถามว่าคนไหนที่ทำร้ายบ้าง แต่เหมือนว่าแท็กซี่จะชี้เหมารวมว่าทุกคนรุมทำร้ายตัวเอง


ส่วนผู้หญิงเสื้อสีเขียวออกมาแสดงตัวว่า เป็นเจ้าของสุนัข และพยายามหาหลักฐาน หาชื่อของคนขับแท็กซี่ ระหว่างนั้นก็จะมีปากเสียงโต้ตอบกันตลอดเวลา จนตำรวจเองต้องบอกให้คนขับแท็กซี่สงบสติอารมณ์ และขอเชิญตัวไปที่โรงพักเพื่อเป่าแอลกอฮอล์เนื่องจากคนในซอยสงสัยว่าคนขับแท็กซี่อาจจะมีอาการมึนเมา


สุดท้ายตำรวจต้องขับรถแท็กซี่ เพื่อพาคนขับแท็กซี่ไปที่โรงพักและเป่าแอลกอฮอล์ปรากฏว่า ผลการตรวจแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ จากนั้นก็ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน


ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์คุณนฤชา กมุทโยธิน ลงพื้นที่เกิดเหตุซึ่งเป็นหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยเพชรบุรี 33 พบกับนายวสันต์ คนที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า เหตุที่เกิดขึ้นจริง ๆ แล้วเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยขับรถทับหมา ลงมาก็ควรขอโทษ แต่คนขับแท็กซี่กลับโวยวาย และมีปากเสียงทะเลาะกับคนในซอยไม่ยอมขอโทษ เรื่องราวจึงบานปลาย โชคดีที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาระงับ


ส่วนมีการทำร้ายร่างกายกันหรือไม่ นายวสันต์บอกว่า เห็นเป็นการยื้อยุด ฉุดกระชากกัน เพราะคนขับแท็กซี่ เดินปรี่เข้ามาที่โรงแรมเพื่อขอแสตมป์บัตรจอดรถและจะขอดูกล้องวงจรปิดด้วยน้ำเสียงและท่าทียียวน จึงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน , นอกจากนี้คนขับแท็กซี่ ยังชี้มั่วอีกว่า ลูกชายของนายวสันต์ รุมทำร้ายด้วย ทั้ง ๆ ที่ลูกชายนายวสันต์ เพิ่งตื่นมาแล้วมาดูเหตุการณ์ยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ


สำหรับเรื่องสุนัขที่ถูกแท็กซี่ทับ นายวสันต์บอกว่าชื่อ 'นวล' เป็นหมาแก่ที่อยู่ในซอยนี้มานาน คนในซอยรักและเอ็นดูช่วยกันเลี้ยงเหมือนเป็นเจ้าของมัน และจุดที่มันนอนอยู่ตอนถูกทับก็ไม่ใช่ถนนสาธารณะ แต่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลหน้าร้านนวด ไม่อยากเชื่อว่าคนขับแท็กซี่จะมองไม่เห็น เพราะผู้โดยสารต่างชาติที่นั่งรถมาด้วย ยังลงมาบอกว่าเห็นสุนัขและยังขอโทษแทนคนขับแท็กซี่ด้วยซ้ำ


หลังเกิดเหตุคนในซอยช่วยกันปฐมพยาบาลอีนวล ป้อนยาแก้ปวดให้ ซึ่งมันมีอาการร้องด้วยความเจ็บปวด มีแผลลักษณะฉีกขาดตรงท้องด้านขวาและไม่รู้ว่ามีแผลช้ำ ที่อวัยวะภายในหรือไม่


ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่า 'นวล' ไปนอนหลบอยู่ตรงไหน คนในซอยกลัวว่ามันจะหลบไปตายโดยที่ไม่มีใครรู้ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด นายวสันต์มองว่าแค่ขอโทษตั้งแต่ตอนแรกเรื่องไม่น่าจะบานปลายขนาดนี้


ขณะที่ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้กล้องวงจรปิดของหน้าโรงแรมที่เกิดเหตุ หลังจากที่แท็กซี่ขับรถทับอีนวลแล้ว จะเห็นจังหวะที่แท็กซี่เดินเข้ามาที่หน้าโรงแรม จากนั้นมีการยื้อยุดฉุดกระชากกัน ซึ่งช่วงนี้เอง นายทรงชัยคนขับแท็กซี่ บอกว่า เป็นจังหวะที่ตัวเองถูกกลุ่มผู้ชาย 4-5 คน รุมทำร้าย ชกเข้าที่ใบหน้าและที่หัวอย่างน้อยสองหมัด ซึ่งตำรวจได้ส่งตัวเองไปตรวจร่างกายเพื่อนำหลักฐานใบรับรองแพทย์มาประกอบการแจ้งความดำเนินคดียืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ส่วนเรื่องที่ตัวเองขับรถทับหมายืนยันว่า มองไม่เห็นจริงๆ และที่ไม่ยอมกล่าวคำขอโทษ เพราะทางฝั่งคู่กรณียกพวกมาหลายคนและต่อว่าด่าทอสารพัด จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องขอโทษ ถ้าจะให้ขอโทษ ยกมือไหว้ขอโทษหมาที่ตัวเองขับทับดีกว่า


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Y78nLYVsgt4

คุณอาจสนใจ

Related News