เร่งล่าช่างกลประกาศศักดา ซ้อมเด็ก ปวส.ลนไฟหัวเข็มขัดสถาบันจี้อก ตร.เผยยังระบุตัวไม่ได้

นักเรียนชายวัย 20 ถูกกลุ่มเด็กช่างกลย่านมีนบุรี บังคับไปรุมซ้อมในซอยเสรีไทย แล้วใช้หัวเข็มขัดสถาบันลนไฟนาบหน้าอก ตร.เผยยังระบุตัวคนร้ายไม่ได้

จากกรณีนักเรียน ปวส.ปี 1 โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมของสถาบันแห่งหนึ่ง โดนกลุ่มวัยรุ่น 15-16 คน ใช้หัวเข็มขัดของสถาบันคู่อริลนไฟแล้วนาบที่หน้าอก เพื่อให้เกิดรอยแผลเป็น เป็นการหยามว่าถูกอีกสถาบันประทับตราที่หน้าอก จนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลติดเชื้อ

ดริ้งค์ วัยรุ่นชายที่บาดเจ็บ อายุ 20 ปี กล่าวว่า ราว 5 ทุ่มของวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา เขาและเพื่อนรุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้วชื่อ แมน ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปทำธุระกัน เมื่อถึงหน้าห้างพาซิโอ ย่านรามคำแหง ได้ถูกกลุ่มวัยรุ่น มากัน 5-6 คน ขี่รถประกบปาดซ้ายปาดขวา และสั่งให้หยุด แล้วถามว่า เรียนที่ไหน พอบอกว่าไม่ได้เรียน พวกนั้นไม่เชื่อเอามือถือไปดู พอเห็นรูปว่าเรียนที่ไหนก็ใช้ปืนจี้บังคับให้ไปนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ แล้วพาขี่ไปที่ซอยเสรีไทย 52 จนสุดซอย ก่อนจะลงมือทำร้ายจนน่วม

จากนั้น ก็เอาหัวเข็มขัดของสถาบันพวกเขา มาลนไฟจนร้อนแล้วประทับตราใส่หน้าอกของผู้บาดเจ็บ ครั้งแรกเห็นรอยเห็นไม่ชัด พวกนั้นก็ลนไฟแล้วมาประทับซ้ำอีก จนหน้าอกเป็นรอยแผล แล้วทุกคนในกลุ่มก็พากันหัวเราะชอบใจ แม้เพื่อนรุ่นพี่จะไม่โดนประทับตรา แต่ก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บไม่แพ้กัน จากนั้นก็ปล่อยตัวออกมา แต่ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าบอกใคร ไม่ไปหาหมอ ทนเจ็บปวดแสบปวดร้อนมาตลอด กระทั่งเห็นข่าว 3 เยาวชนโดนทำร้ายเหมือนกันจึงตััดสินใจออกมาแจ้งความที่ สน.บางชัน เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา

วันนี้ (17 พ.ย. 65) ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าซอยดังกล่าววิ่งขนานไปกับคลองลำบึงกุ่ม โดยอีกฝั่งของคลองเป็นตรอกถนนแคบๆ ที่สัญจรได้เฉพาะมอเตอร์ไซค์ และเต็มไปด้วยป่าทึบและรกร้างห่างไกลจากบ้านชาวบ้าน ซึ่งทีมข่าวสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นจุดที่เกิดเหตุ โดยจากข้อมูลของนายดริ้งค์ ระบุว่า ถูกพาไปทำร้ายร่างกายในป่าทึบรกร้างภายในซอยดังกล่าว

ผู้นำชุมชุนในซอยเสรีไทย 52 กล่าวว่า เวลาตกกลางคืนหลังทุ่มสองทุ่ม ภายในซอยค่อนข้างจะเปลี่ยวมืด ไม่ค่อยมีใครสัญจรผ่านไปมา แต่ก็จะมีพวกกลุ่มวัยรุ่นมักจะขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามามั่วสุมกันเป็นประจำเกือบทุกคืน ไฟไม่ค่อยสว่าง โดยเฉพาะฝั่งตรงข้ามคลองที่รถใหญ่ผ่านไม่ได้และไม่มีไฟติดเลย วัยรุ่นมักขี่รถไปทางนั้นประจำ เท่าที่สังเกตพบว่าไม่ใช่เด็กวัยรุ่นในชุมชน ส่วนกรณีที่มีการพาคนมาทำร้ายในซอยนี้ ยอมรับว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

ขณะที่ พันตำรวจเอกวสุ เชื่อพุทธ ผู้กำกับการ สน.บางชัน เปิดเผยว่า การติดตามตัวคนร้ายอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพราะยังไม่สามารถระบุตัวใครได้ ส่วนประเด็นผู้เสียหายเชื่อว่า อาจจะเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ สน.หัวหมาก ตอนนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยง แม้ทั้งหมดจะเรียนสถาบันเดียวกันก็ตาม สำหรับแรงจูงใจ สันนิษฐานว่าน่าจะก่อเหตุเพื่อมุ่งเน้นการประกาศศักดามากกว่ามุ่งหมายเอาชีวิต

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อนายดริ้งค์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งพ่อของนายดริ้งค์ ระบุสั้นๆ ว่า ตอนนี้ไม่พร้อมให้สัมภาษณ์หรือให้เสียงใดๆ แก่สื่อมวลชน แต่รู้สึกสบายใจมากขึ้น จากการเร่งรัดดำเนินคดีของตำรวจ