เหยื่อใหม่โผล่! สาวใช้มุกท้องให้หนุ่ม 17 รับผิดชอบ แม่หวั่นลูกโดนหลอกเหมือนเทรนเนอร์

จากกรณีเทรนเนอร์หนุ่ม ที่ถูกสาวสวยหลอกว่าท้อง และให้จดทะเบียนสมรส ก่อนจะสูญเงินล้านบาท หลังรายการโหนกระแสออกอากาศไป มีคนติดต่อให้ข้อมูลเป็นจำนวนมาก ล่าสุดมีคุณแม่รายหนึ่ง กลัวว่าลูกชายวัย 17 ปีจะตกเป็นเหยื่ออีกราย หลังทราบว่ากำลังสนิทสนมกับสาวคนดังกล่าว ล่าสุดกลางดึกเมื่อคืนนี้ตำรวจ เรียกพบเทรนเนอร์และ นางสาวไบร์ท ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกเรื่อง


เมื่อคืนวันที่ 1 พ.ย. 65 (เวลา 22.00 น.) ตำรวจ สน.บางขุนนนท์ เรียกนายมาร์ช เทรนเนอร์หนุ่มและนางสาวไบร์ท เข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งมาร์ช เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ไบร์ทปฏิเสธทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องขโมยนาฬิกา, เรื่องบัตรเครดิต พยายามจะอธิบายให้ตำรวจฟัง ซึ่งที่ไบรท์พูดเป็นเรื่องโกหก แต่ตัวเองไม่ได้ตอบโต้อะไรไป เพราะรู้สึกเหนื่อยใจกับผู้หญิงคนนี้ รอดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายและว่ากันด้วยพยานหลักฐาน


นอกจาก นายมาร์ช เทรนเนอร์ที่ตกเป็นเหยื่อแล้ว ยังมีรายล่าสุด ทีมข่าวได้รับข้อมูลการติดต่อจาก แม่ของเด็กชายวัย 17 ปี ที่นางสาวไบร์ทกำลังสนิทสนมอยู่ด้วย โดยแม่ได้ติดต่อมาเมื่อเช้าที่ผ่านมา หลังทราบข่าวพฤติกรรมของนางสาวไบร์ท โดยแม่บอกว่า รู้สึกเป็นกังวลมาก ไบร์ทเข้ามารู้จักกับลูกชายและบอกว่าตัวเองท้อง ใช้วิธีแบบเดียวกันกับที่หลอกเทรนเนอร์หนุ่ม


ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยพูดคุยกับแม่น้องเจ เด็กหนุ่มอายุ 17 ปี บอกว่า ตนเองป่วย ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งแฟนของลูกชายที่คบหากันชื่อไบร์ท บอกกับตนว่าต้องไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลเหมือนกัน เนื่องจากเป็นมะเร็งเต้านม ตนเองจึงชวนมานอนที่บ้านเพื่อที่จะได้เดินทางไปโรงพยาบาลพร้อมกัน


แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองได้คุยกับลูกชาย ลูกชายเล่าว่าไบร์ทแฟนสาวที่คบหากันอยู่เป็นมิจฉาชีพ ซึ่งลูกชายเห็นผู้เสียหายมาออกรายการโหนกระแสเมื่อวานนี้ ซึ่งเธอได้ฟังลูกชายบอกเรื่องราวของไบร์ท ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก


และก็ทราบจากเพื่อนบ้านว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไบร์ท พยายามจะปีนเข้าบ้านของเธอ เนื่องจากอ้างว่าจะเข้าไปเอาเสื้อผ้าที่อยู่ในบ้าน ซึ่งบ้านไม่มีใครอยู่เลย


ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณสิทธิกร ปรักกัมนนท์ เดินทางไปที่บ้านของคุณแม่น้องเจ ย่านปิ่นเกล้า พบคุณไบรท์นั่งอยู่ที่ร้านกาแฟ ทีมข่าวจึงได้ไปพูดคุยด้วย


โดยไบร์ท บอกว่า หลังจากที่มาร์ช ให้ข่าวออกไป ทำให้เธอต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ซึ่งเธอยืนยันว่า ที่คบหากับมาร์ชเพราะความรักจริง ๆ เธอไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง มาร์ชเลย


ส่วนค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ไม่ว่าจะไปเที่ยว หรือกินข้าว ไบร์ทบอกว่าไบร์ทเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง รวมทั้งไปเที่ยวเชียงใหม่ก็หมดเงินไปหลายแสน รวม ๆ ค่าใช้จ่าย เป็นล้านบาท


ส่วนเรื่องบัตรเครดิต คุณมาร์ชเป็นคนให้เธอถือเอง ทั้งหมด 4 ใบ ซึ่งยืนยันว่าบัตรเครดิต ไม่ได้รูดใช้คนเดียวแต่ใช้ด้วยกัน ซึ่งคุณมาร์ชรับรู้ทุกอย่าง ซึ่งเธอเองมองว่าคนที่แต่งงานกัน ควรช่วยเหลือกันเพราะเป็นสามีภรรยากัน


ส่วนเรื่องกรณีกล้องวงจรปิด ที่เห็นว่ามีคนอยู่ในลิฟ เธอเองยืนยันว่าเป็นเพื่อนทั้งหมด และยืนยันไม่ได้เอาของให้ห้องมาร์ชออกไปเลย แม้แต่ชิ้นเดียว


ส่วนเรื่องของน้องเจ อายุ 17 ปี ที่พึ่งคบหากัน อยากให้ครอบครัวของน้องเจ ให้โอกาสเธอได้คบหากัน ซึ่งไม่ได้คิดจะเข้ามาหลอกลวงน้องเจแต่อย่างใด ซึ่งน้องอายุเพียง 17 ปี ยังเรียนหนังสืออยู่ เธอเองไม่จำเป็นต้องหลอกเพราะไม่มีอะไร ให้หลอก เธอเองคบหาด้วยใจจริง


นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้ข้อมูล จากกลุ่มคนที่ภาพวงจรปิดเห็นว่า ขึ้นลิฟท์ไปกับนางสาวไบร์ท ขึ้นไปที่ห้องของนายมาร์ช และมีการขนของ หยิบกล้องถ่ายรูปลงมาด้วย โดย 1 ใน 4 คน ได้ติดต่อมาหานายมาร์ชและพยายามชี้แจงว่าตัวเองไม่ได้ขโมยและไม่รู้เรื่องปัญหาต่าง ๆ ของ นางสาวไบร์ท


ในวันดังกล่าวนางสาวไบร์ทชวนตัวเองและเพื่อนมากินข้าวหลังกินข้าวเสร็จ ไบร์ท ชวนขึ้นไปที่ห้องและบอกให้หยิบกล้องลงมาด้วยจะไปเที่ยวชลบุรี หลังจากนั้น ไบร์ทก็ส่งกล้องไปต่างจังหวัด