สังคม

จ่อเอาผิดฐานค้ามนุษย์ เจ้าลัทธิพร้อมลูกสมุน ขังทารุณ 5 ชีวิต ใช้หนีทิพย์ 140 ล้าน

โดย JitrarutP

18 ต.ค. 2565

193 views

ตำรวจเร่งขยายผล จ่อดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์ กับเจ้าลัทธิและลูกสมุน ที่หลอกอดีตพยาบาลให้ทำงานใช้หนี้ทิพย์กว่า 140 ล้านบาท พร้อมเตรียมเรียกผู้เสียหายสอบปากคำเพิ่มวันนี้


จากกรณี ที่ ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าช่วยเหลืออดีตพยาบาล 3 คน พร้อมกับลูกชายและลูกสาวของอดีตพยาบาลอีก 2 คน โดยพบว่าเหยื่อบางราย มีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย และ ยังมีร่องรอยถูกน้ำร้อนลวก หลังถูกนายฮารุ ฮวังสิริ อายุ 39 ปี และ นายตรีเพชรรัตน์ ณเพชร อายุ 20 ปี กักขังหน่วงเหนี่ยวที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านสะพานพระราม 8 นานกว่า 3 ปี


พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้รับเบาะแส จากเพจ "สืบสวนนครบาล IDMB" เพื่อให้ช่วยเหลืออดีตพยาบาล และ ลูกสาว ที่ถูกกักขังอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านสะพานพระราม 8


ชุดสืบสวนจึงเริ่มสืบสวนแกะรอย จนพบว่ามีเหตุจริง จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาตลิ่งชัน เข้าจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน


โดยพฤติกรรมของนายฮารุ จะอ้างตัวว่าเป็นนายแพทย์ลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น และทำงานอยู่ที่สถานทูต แล้วชักชวนอดีตพยาบาลทั้ง 3 คนให้มาร่วมลงทุนทำธุรกิจ โดยเงินลงทุนจะให้นายฮารุ ซึ่งตั้งตัวว่าเป็นนายทุนเป็นคนเก็บไว้บริหารจัดการเรื่องการเงิน


จากนั้นนายฮารุ จะสร้างหนี้ทิพย์ให้กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าหนี้ที่เกิดขึ้นมาจากการทำงานไม่สำเร็จ และต้องเสียค่าปรับ ค่าเสียหายที่ลูกค้าจะเรียกเงินคืน จนสุดท้ายผู้เสียหาย ตกเป็นหนี้นายฮารุถึง 140 ล้านบาท ทั้งที่ความจริงแล้วผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนและสูญเงินไปแล้วกว่า 5 ล้านบาท


ที่สำคัญนายฮารุยังข่มขู่ผู้เสียหายว่า หากไม่ยอมชดใช้หนี้จะแจ้งตำรวจที่รู้จักกันให้มาดำเนินคดี จึงทำให้ผู้เสียหายต้องยอมมาทำงานเพื่อใช้หนี้ทิพย์ให้กับนายฮารุโดยไม่รู้ตัวว่าถูกหลอก และหากทำอะไรให้นายฮารุไม่พอใจ ก็จะเอาน้ำร้อนลวกผู้เสียหาย และทำร้ายร่างกายเพื่อลงโทษ


ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติของนายฮารุ พบว่าไม่ได้เป็นลูกครึ่งหรือมีเชื้อชาติชาวเกาหลีอย่างที่กล่าวอ้าง


มีรายงานว่าตำรวจ ได้คุมตัวนายฮารุ และ นายตรีเพชรรัตน ไปสอบปากคำที่ สน.บวรมงคลเพิ่มเติม โดยนายฮารุ ยอมรับว่า เทน้ำร้อนผู้เสียหายจริง แต่ไม่ได้สั่งให้นายตรีเพชรรัตน ตบหน้าเด็กทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นลูกของผู้เสียหาย


และยังปฏิเสธว่าไม่ได้ชักชวนใครมาลงทุน แค่เสนอแนวทางการลงทุนให้ เพราะเห็นว่าผู้เสียหายอยู่ในแวดวงเรื่องความสวยความงาม ทั้งนี้ตนเคย ทำงานอยู่กับยูนิเซฟ ทำหน้าที่เป็นรีเสิร์ชชิ่ง ที่เกาหลีใต้และประเทศไทย และทำธุรกิจเครื่องประดับออนไลน์


เคยเรียนแฟชั่นและจิวเวลรี่ดีไซน์ของมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษ เคยเรียนแพทย์ทางเลือกแบบผสมที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่ยังไม่จบหลักสูตร เคยเป็นผู้ช่วยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาฯ ในช่วงโควิดระบาดหนัก


ขณะที่นายตรีเพชรรัตน ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และให้การว่าตนได้รับคำสั่งจาก นายฮารุ ให้คอยควบคุมผู้เสียหาย และบังคับให้ตระเวนขอยืมเงินจากคนรู้จัก โดยตั้งเป้าว่า จะต้องหาเงินให้ได้ 6 หมื่นบาท ภายใน 48 ชั่วโมง


ซึ่งหากผู้เสียหายหาเงินไม่ได้ นายฮารุ ก็จะให้ตนทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ตัดผมลูกของผู้เสียหาย และยังสั่งให้ผู้เสียหายตบหน้าลูกตัวเองให้เสียงดังจนกว่านายฮารุจะพอใจ


มีรายงานว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายที่ถูกนายฮารุหลอกให้ลงทุน มาพบตำรวจแล้ว 15 ราย และเชื่อว่าน่าจะมีทยอยมาเพิ่มเติม และจากการเข้าค้นห้องพักของนายฮารุ พบมีการเขียนยันต์ด้วยลายมือของนายฮารุติดไว้ในห้อง แต่ไม่รู้ว่าเป็นยันต์อะไร รวมทั้งมีแท่นสำหรับไว้บูชา และมีตำราตามความเชื่อบางอย่างภายในห้อง


ส่วนความเคลื่อนไหวที่ สน.บวรมงคล ทั้งนายฮารุ และ นายตรีเพชรรัตน ยังถูกคุมตัวในห้องขัง และไม่มีใครมาเยี่ยม โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ลูกของผู้เสียหาย และ ผู้เสียหาย จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และสหวิชาชีพ เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่


คุณอาจสนใจ

Related News