บุกสำนักสงฆ์! 'ทนายอนันต์ชัย' ร้องเอาผิด 3 ข้อหาหนัก 'พระบุญเลิศ' หลักฐานชัดเป็นพระปลอม

แม่ทัพทนายกองทัพธรรมบุกสำนักสงฆ์วัดเขาปกล้น หลังเข้าแจ้งความขอให้ตำรวจดำเนินคดี กับพระบุญเลิศ 3 ข้อหาหนัก แต่พระบุญเลิศ กลับปิดประตูรั้วไม่ยอมให้เข้าไป


ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช แม่ทัพทนายกองทัพธรรม บุกไปยังสำนักสงฆ์วัดเขาปกล้น อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เพื่อขอเข้าพบ "ครูบาบุญเลิศ กิติธโร" หรือ พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร (เมธาศิษฐ์ อภิสิทธิ์เมธากุ) แต่พระบุญเลิศ กลับปิดประตูไม่ยอมให้เข้าไปด้านใน โดยรับปากจะไปพบกับตำรวจ พร้อมกับทนายความ ที่ สภ.บ้านหมี่ เอง


แต่ท้ายสุด พระบุญเลิศ ไม่ยอมมาตามนัด ทนายอนันต์ชัย จึงมาลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐาน ว่าเดินทางไปยังสำนักสงฆ์วัดเขาปกล้นแล้ว แต่ทางเจ้าอาวาสไม่ให้เข้าไปด้านใน และขอให้ตำรวจ ออกหมายเรียก พระบุญเลิศ พร้อมกับขอหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบด้านในสำนักสงฆ์ ต่อไป


โดยก่อนหน้านี้ ทนายอนันต์ชัย พร้อมด้วยคณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ และประชาชน เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บ้านหมี่ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี พระบุญเลิศ ใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ แจ้งความเท็จ ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม


สืบเนื่องจากกรณีที่ คณะสงฆ์อำเภอบ้านหมี่ ได้รับการร้องเรียนว่า พระบุญเลิศ ชอบให้ลูกศิษย์ออกเรี่ยไรตามพื้นที่ต่าง ๆ ต่อมาคณะสงฆ์เข้าไปพูดคุยตักเตือน สั่งห้ามมาแล้วหลายครั้ง จนมีการตรวจสอบใบสุทธิการบวชเป็นพระ แต่กลับอ้างว่า หาไม่เจอ ทางคณะสงฆ์จึงให้ พระบุญเลิศ ไปหามาเป็นหลักฐานภายใน 7 วัน


แต่พระบุญเลิศ กลับทำหนังสือร้องเรียนไปยัง ทนายกองทัพธรรม พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับทางคณะสงฆ์บ้านหมี่ ว่าถูกคณะสงฆ์บีบบังคับ ข่มขืนใจ ให้ลาสิกขา(สึก) จากการเป็นพระ


ต่อมา ทนายอนันต์ชัย เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง โดยย้อนหาต้นสังกัด ทั้งในจังหวัดลพบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย ก็ไม่พบว่าหลักฐานการบวชของ พระบุญเลิศ ใบสุทธิประจำตัวพระที่นำมายืนยันก็ไม่มีตราประทับ


แถมใบสุทธิมีทั้งของฝ่ายธรรมยุต และของฝ่ายมหานิกาย จึงทำให้พิสูจน์ได้ว่าเป็นของปลอม รวมทั้งถานานุกรมที่ใช้ ก็เป็นถานานุกรมที่ไม่มีจริง จึงได้มาแจ้งความเอาผิดกับทางพระบุญเลิศในวันนี้