ไล่ล่าระทึก! 2 สามี-ภรรยา ใช้รถกู้ชีพขนยาบ้า ก่อนทิ้งยา-รถ หนีลอยนวล

ตำรวจเร่งล่า 2 สามี-ภรรยา ใช้รถกู้ชีพลักลอบลำเลียงยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด จากจังหวัดเลยเข้ากรุงเทพ ก่อนทิ้งยาไว้ในซอยหทัยราษฎร์ และทิ้งรถไว้ในซอยราษฎร์อุทิศ ขณะที่ตำรวจ ปส.เผยเส้นทางลำเลียงยามาจากประเทศเพื่อนบ้านปลายทางกรุงเทพ

กล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งจับภาพ วินาทีที่รถตู้กู้ชีพขับผ่านหน้ารถยนต์คันนี้ข้ามไปถนนอีกฝั่ง แล้ววิ่งสวนเลนขึ้นไป ขณะที่รถยังจอดติดไฟแดงอยู่ที่แยกห้วยบง จังหวัดสระบุรี จากนั้นมีกลุ่มชายฉกรรจ์เป็นตำรวจอีก 5-6 คน ยิงปืนไล่หลังไป เจ้าของรถถึงกับร้องด้วยความตกใจ ก่อนจะบอกว่าตำรวจน่าจะไล่จับคนร้าย และโชคดีที่รถของเขาไม่โดนชน

จากนั้นรถกู้ชีพคันนี้ก็เปิดไซเรนขับด้วยความเร็วหลบหนีมุ่งหน้าเส้นวังน้อย อยุธยา​ ตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 1 จังหวัดสระบุรี ซึ่งตั้งด่านตรวจอยู่ จึงขับติดตาม ต่อเนื่องมายัง คลองสามวา กรุงเทพฯ แต่การสกัดจับเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะบนถนนการจราจรคับคั่ง หากใช้ความรุนแรงประชาชนทั่วไปอาจจะได้รับความเดือดร้อน หรือถูกลูกหลง ตำรวจจึงทำได้เพียงขับรถติดตามเท่านั้น เพื่อหาโอกาสสกัดจับ

ซึ่งระหว่างนั้นมีการแจ้งเตือนในกลุ่มเฟซบุ๊ก และไลน์กู้ภัยให้ช่วยสอดส่อง และดูว่ามีรถตู้กู้ชีพลักษณะในภาพวิ่งเข้ามาในพื้นที่ผ่านจุดไหนบ้าง เพราะบางช่วงตำรวจได้คลาดกับคนร้าย

จนบ่าย 3 โมงวานนี้ บริเวณกองขยะภายในป่ารกร้างซอย10/8 หทัยราษฎร์ 39 ย่านคลองสามวา ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรีพบยาบ้า 6 กระสอบ หรือประมาณ 2 ล้าน 4 แสนเม็ด ถูกทิ้งไว้ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายขับรถกู้ชีพเข้ามาทิ้งไว้ตั้งแต่ช่วงเที่ยง

และอีกครั้งหนึ่งที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ เป็นคือราวบ่าย 3 โมง กล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่ง จับภาพรถกู้ชีพของคนร้ายขับหลบหนีเข้าไปในซอยราษฎร์อุทิศ 44/0 ซึ่งอยู่ในพื้นที่ สน.มีนบุรี แล้วจอดรถทิ้งไว้ตรงที่รกร้าง จากนั้นก็มีผู้ชาย 1 คน ผู้หญิง 1 คน ลงมาจากรถกู้ชีพขึ้นรถกระบะอีกคันที่ขับตามมาหลบหนีไป

เมื่อตรวจสอบรถ พบว่า กันชนหน้าของรถถูกชนจนหลุดออกไป รถไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน กระจกฝั่งซ้ายแตก ภายในรถแทบจะไม่เห็นอุปกรณ์กู้ชีพ และมีร่องรอยเปื้อนดินทรายอยู่ที่พื้นรถ

เมื่อวานนี้พลตำรวจตรี ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจเฝ้าติดตามรายนี้มานาน จนทราบข้อมูลแน่ชัดว่า ผู้ก่อเหตุเป็นอาสากู้ภัยสองสามี ภรรยา โดยจะขนยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดเลย เข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อส่งยาดังกล่าวลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกหนึ่งต่อ ทำมาแล้ว 2 ครั้ง และรถกู้ชีพที่ใช้ก็เป็นของพ่อฝ่ายชาย

ตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรสระบุรี ได้สะกดรอยทั้ง 2 คน จากจังหวัดเลย จนถึงพื้นที่ห้วยบง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่คนร้ายไหวตัว ใช้วิธีเปิด สัญญาณไฟไซเรนขอทางจากประชาชน เพื่อหลบหนี แต่ตำรวจก็สามารถจับรถสเก๊าหน้าได้ 1 คัน พร้อมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมทั้งยืนยันว่า คนร้ายไม่ได้ยิงใส่ตำรวจตามที่มีข่าวออกไป

ขณะที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด พบว่า ยาเสพติดล็อตดังกล่าว ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ขนข้ามผ่านลำน้ำเหือง อ.ปากชม จ.เลย มาตั้งแต่คืนวันที่ 4 ต่อเนื่องวันที่ 5 มิถุนายน จากนั้นใช้รถตู้พยาบาลขนลำเลียงผ่านเส้นทาง จ .เลย, จ.เพชรบูรณ์, จ.พิษณุโลก, จ.นครสวรรค์, จ.สระบุรี และกรุงเทพมหานคร

โดยขบวนการดังกล่าวมีการใช้รถคุ้มกันทั้งหน้าและหลัง เพื่อตรวจสอบเส้นทาง และดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตลอดเส้นทาง ส่วนยาเสพติดล็อตนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะนำไปในพื้นที่ภาคใต้ แต่น่าจะนำมาใช้ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล

แหล่งข่าวระดับสูงใน ปส. ยังบอกด้วยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีรถกู้ชีพ หรือรถพยาบาลลอบลำเลียงยาเสพติด เมื่อคำนวณดูเส้นทางจุดที่คนร้ายทิ้งยาเสพติดและรถ พบว่าห่างกันว่า 16 กิโลเมตรโดยประมาณ เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นเครือข่ายที่อยู่ในพื้นที่ที่คนร้ายนำรถตู้ไปจอดทิ้ง เนื่องจากมีความชำนาญเส้นทาง และมีเครือข่ายมารับออกจากจุดทิ้งรถไปได้ทันทีด้วย