สังคม

'อนุชา' ลั่นไม่ยอม ลุยเอาผิด 'หมอปลา' ชี้ 'พระ' มีหน่วยงานดูแล ไม่ต้องพึ่งพาใคร

โดย thichaphat_d

17 พ.ค. 2565

77 views

อนุชา นาคาศัย ยืนยันสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ดำเนินการตรวจสอบทุกเรื่องในวงการสงฆ์ ส่วนการดำเนินคดีกับหมอปลาเป็นไปตามกฎหมาย

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวก่อนการประชุมครม เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการพระสงฆ์ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยืนยันว่า สำนักพุทธฯ มีความเข้มแข็ง และดำเนินการมาตลอด ไม่ได้ละเลยการทำหน้าที่ เพียงแต่ไม่ได้เผยแพร่ เพราะบางเรื่องมีความละเอียดอ่อน

นายอนุชา ย้ำว่า เรื่องการผิดพระวินัยและปาราชิก คงไม่ต้องพึ่งพาใคร คนใดคนหนึ่ง เข้ามาบริหารจัดการองค์กรพุทธ เพราะมีหน่วยงานดูแลอยู่แล้ว

ส่วนกรณีของการดำเนินคดีหมอปลาหรือไม่นั้น รัฐมนตรีอนุชา ระบุว่า ขอให้หน่วยงานพิจารณา ทุกอย่างว่าไปตามกฎหมาย เพราะเป็นอาญาแผ่นดิน ถ้าไม่ทำจะกลายเป็นการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่

ขณะที่ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับ หมอปลา พร้อมกับพวก ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 รวมถึงความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นายสนธิญา กล่าวว่า หมอปลาได้นำสื่อมวลชนและข้าราชการ เข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นลักษณะการล่อให้หลวงปู่แสงกระทำความผิด ด้วยการแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิง โดยเป็นวิธีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ตำรวจสอบสวนว่าในวันดังกล่าวมีทีมงานที่กระทำผิดทั้งหมดกี่คน ทั้งเรื่องของการบุกรุก และ การไลฟ์สดในวันเกิดเหตุ

รวมถึงให้ตรวจสอบในกรณีที่ น้ำฟ้า ภรรยาของหมอปลา อ้างว่า ร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่า ประสานตำรวจเข้ามาช่วยเหลือในการทำเรื่องนี้จริงหรือไม่


ด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวน สอบสวนเอาผิด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดยโสธร และนายอำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร กรณีมีร่วมกับนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา และพวกรวมถึงสื่อมวลชน เข้าไปในวัดป่าดงสว่างธรรม เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา


และมีการแสดงพฤติกรรม จาบจ้วงหลวงปู่แสง เพื่อให้รับสารภาพว่าจับเนื้อต้องตัวหญิงสาว โดยใช้วิธีล่อให้กระทำความผิด อันเป็นวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา และนายอำเภอป่าติ้ว เป็นเจ้าหน้าที่รัฐชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายปกครอง กลับมิได้ห้ามปราบตามอำนาจหน้าที่แต่อย่างใด จนกระทั่งกลายเป็นกรณีที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากถึงความไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมอยู่ในขณะนี้

ก่อนหน้านี้ พันจ่าเอก อนุสิทธิ์ บัวหุ่ง นายอำเภอป่าติ้ว ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ลงวันที่ 14 พฤษภาคม ชี้แจงวันเกิดเหตุ โดยระบุว่า ได้รับการประสานจากผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา ว่ามีกลุ่มคณะสื่อมวลชนเดินทางมาที่วัด โดยอ้างว่ามีข้อร้องเรียน แต่ไม่ทราบว่าร้องเรียนเรื่องอะไร จึงนำกำลังฝ่ายปกครองเข้าพื้นที่ และมีการเรียนให้ผู้บังคับบัญชารับทราบแล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะร่วมกล่าวหาที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อหลวงปู่ ซึ่งเป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวอำเภอป่าติ้ว และกราบขออภัยพี่น้องญาติธรรม โดยขอยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ เลื่อมใสศรัทธาต่อพระพุทธ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

คุณอาจสนใจ

Related News