สังคม

ล่องหน! ไร้เงา ‘พระบิดา’ กลับบ้านเกิด น้องชายท้าหมอปลา จมูกดีก็หาให้เจอ

โดย thichaphat_d

10 พ.ค. 2565

2.5K views

พระบิดาโจเซฟล่องหนแล้ว หลังศาลให้ประกันตัวเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ยังไม่กลับสำนักและไม่กลับบ้านเกิด ด้านน้องชายพระบิดาท้าหมอปลา ถ้าจมูกดีก็หาให้เจอ

กรณีหมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมทีมงานประสาน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งป่าในพื้นที่หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งถูกร้องเรียนว่ามีการตั้งเป็นลัทธิประหลาด กักขังผู้มาปฏิบัติธรรม และรักษาโรคโดยการให้ขี้ไคล น้ำลาย เสมหะ ปัสสาวะของ ‘พระบิดา’ เจ้าลัทธิ และในสำนักมีศพผู้เสียชีวิตอยู่ถึง 11 ศพ มีการต่อท่อน้ำเอาน้ำเหลืองจากศพมาใช้รักษาโรค โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายทวี อายุ 74 ปี หรือพระบิดาโจเซฟ ไปดำเนินคดีที่ สภ.คอนสาร

โดยตำรวจได้แจ้งข้อหาพระบิดาโจเซฟ 4 ข้อหา บุกรุกที่สาธารณประโยชน์ รักษาโรค ผิด พ.ร.บ.เวชกรรม ที่ไม่เป็นไปตามหลักสาธารณสุข เคลื่อนย้ายศพจัดการศพ และร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารสถาณการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งนายทวีรับสารภาพในชั้นสอบสวน

จากนั้นได้คุมตัวขึ้นรถไปฝากขังศาลจังหวัดภูเขียวในเวลา 16.30 น. ศาลอนุญาตให้ฝากขังได้ โดยนายทวีต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที แต่ในช่วง 1 ทุ่ม มีกระแสข่าวว่า ศาลให้ประกันนายทวีแล้ว โดย พันตำรวจเอก วัฒนชัย จันทาทุม ผู้กำกับการ สภ.คอนสาร เผยว่า ศาลให้ประกันตัวชั่วคราว นายทวี ไปแล้วด้วยวงเงิน 5 หมื่นบาท

ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวว่า หลังพระบิดาโจเซฟได้ประกันตัว จะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดขอนแก่น ผู้สื่อข่าวจึงตามไปที่บ้านเกิดพระบิดาโจเซฟ ที่อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น แต่ไม่พบพระบิดาโจเซฟ

นายทองทิพย์ อายุ 62 ปี น้องชายนายทวี กล่าวว่า หลังประกันตัวชั่วคราวทุกคนก็แยกย้ายกันกลับทันที เพราะไม่อยากให้เป้าสายตาของสื่อมวลชน และไม่ทราบว่าพี่ชายไปไหน ซึ่งพี่ชายมีลูกศิษย์ลูกหาที่มีฐานะชื่อเสียงหลายคน ส่วนข่าวที่ออกไปนั้นเกินจริงหลายเรื่อง ไม่มีการกินอุจจาระ น้ำเหลืองศพ หรือเสมหะ แต่มีการดื่มปัสสาวะและกินขี้ไคลจริง โดยไม่ได้บังคับ ส่วนตัวไม่เชื่อว่ารักษาโรคได้ เพราะยึดหลักวิทยาศาสตร์

และอยากฝากถึงหมอปลา หยุดสร้างความแตกแยกในสังคม ที่ผ่านมาเห็นมีแต่ใช้หลักความรุนแรง ไม่ใช้หลักประณีประนอม ทำไมไม่เข้ามาพูดดีๆ ทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ ชอบยั่วยุให้คนมีอารมณ์ ขาดสติ พร้อมถ้าจมูกดีก็ไปหาพี่ชายให้เจอ

ส่วนเรื่องศพของแม่นั้น ได้ทราบพร้อมกับทุกคน อาการของคุณแม่โคม่าแล้ว เนื่องจากอายุมาก ทำได้เพียงดูใจ ก่อนที่แม่จะสิ้นใจและได้ประกอบพิธีสวด 3 วัน โดยมีลูกศิษย์มา 95 คน เท่าอายุของแม่ หลังจากนี้จะนำศพแม่กลับไปประกอบพิธีทางศาสนา และที่ต้องเจาะโลงเอาน้ำเหลืองออก เพื่อไม่ให้เกิดความชื้นทำให้ศพเน่า เพราะไม่ได้ฉีดฟอร์มาลีน ยืนยันไม่ได้เอามากิน

สำหรับที่มาการตั้งสำนักของพี่ชาย ได้ออกจากบ้านไปหางานทำที่ กทม.ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี ทำงานขับรถส่งถ่าน 2 ปี แล้วกลับมาที่บ้านเกิด กระทั่งปี 2523 ไปบวชเป็นพระสงฆ์ที่วัดบนเขาใน อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จากนั้น ปี 2526 ธุดงค์ลงจากเขาแต่อาพาธอยู่ในป่า มีชาวบ้านมาพบเห็นและช่วยรักษา โดยหาสมุนไพรมาต้มให้กินจนหาย จากนั้นก็อยู่ที่กลางหุบเขาตรงจุดที่ป่วย แล้วตั้งสำนักตรงนั้นในปี 2536 ผ่านไป 1 ปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ขอให้ย้ายออกนอกพื้นที่ จึงธุดงค์ไปตั้งสำนักที่ อ.คอนสาร ในปี 2537 จนถึงปัจจุบัน และเปลี่ยนจากการห่มผ้าเหลือง มาห่มผ้าฤๅษีเมื่อปี 2541

คุณอาจสนใจ

Related News