กรรมติดจรวด! โจรโดนรถชนขาหัก หลังฉกเงินลูกชาย 'แพรว แม็กซิม' ตร.ตามอายัดถึง รพ.

กรรมติดจรวด โจรฉกเงิน 2 หมื่นบาท จากเคาท์เตอร์ร้านสะดวกซื้อ แล้วซ้อนมอเตอร์ไซค์หนีข้ามจังหวัด เจอผลกรรมตามทันซิ่งไปเฉี่ยวชนรถเก๋งขาหัก สุดท้ายตำรวจตามไปอายัดตัวถึงโรงพยาบาล

กล้องวงจรปิดในร้านสะดวกซื้อ เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่เด็กชายวัย 9 ขวบ นำเงิน 20,000 บาท ไปวางที่เคาท์เตอร์ เพื่อจ่ายเงินทำธุรกรรมให้แม่ ซึ่งพนักงานร้านสะดวกซื้อรับทำธุรกรรมให้ แต่ยังไม่หยิบเงินที่วางตรงเคาท์เตอร์ไปเสีย มัวแต่หันไปทำนั่นทำนี่  คนร้ายเห็นเงินก้อนดังกล่าว ก็ทำทีเรียกพนักงานไปหยิบของให้ซึ่งอยู่อีกทาง แล้วฉวยโอกาสหยิบเงิน 2 หมื่นบาท ที่วางอยู่ใส่กระเป๋าของตัวเองแล้วเดินออกจากร้านไป  เหตุเกิดช่วงบ่ายโมงครึ่งของวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา

โดยผู้เสียหายในเหตุการณ์นี้ คือ น.ส.ชยาพร มั่งคั่ง หรือแพรว แม็กซิม รองอันดับ 1 มิสแม็กซิม 2009 วันเกิดเหตุ แพรว แม็กซิม ให้ลูกชายวัย 9 ขวบ ถือเงินสด 20,000 บาท เข้าร้านสะดวกซื้อทำธุรกรรมทางการเงินแทน ระหว่างที่กำลังหาที่จอดรถยนต์ แล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามกล้องวงจรปิด

แพรว แม็กซิม ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าผู้ก่อเหตุ คือนายพงษ์ศักดิ์ พิมพาณุวัฒน์ หรือแบงค์ อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอ่างทอง จึงประสานข้อมูลกับตำรวจอ่างทอง ทราบว่า หลังจากนายแบงค์ฉกเงินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนขี่หลบหนีไปทางจังหวัดอ่างทอง แล้วไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งที่อำเภอป่าโมก มอเตอร์ไซค์ตกข้างทางชนต้นไม้ บาดเจ็บหนัก ขาหัก ถูกนำส่งโรงพยาบาลอ่างทอง ตำรวจจึงตามไปอายัดตัวที่โรงพยาบาล

จากการตรวจสอบประวัตินายแบงค์ ยังพบว่า เคยก่อเหตุฉกโทรศัพท์ในร้านไอที ภายในตลาดอ่างทอง เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 มกราคม โดยกล้องวงจรปิดในร้านจับภาพไว้ได้ ตอนนั้นพนักงานภายในร้านติดลูกค้าอยู่ นายแบงค์ทำทีเดินเข้ามาดูของ แล้วขโมยโทรศัพท์มือถือ ราคา 9,999 บาท ไป 1 เครื่อง  หลังจากออกจากร้านนี้ ก็ยังไม่ก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือที่ห้างในเมืองอ่างทอง อีกจุดหนึ่งด้วย ซึ่งตำรวจเจ้าของพื้นที่ได้ขออนุมัติหมายจับ เพื่ออายัดตัวนายแบงค์แล้วเช่นกัน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับคุณแพรว แม็กซิม ผู้เสียหาย เผยว่า เมื่อวานนี้พันตำรวจเอก ประเวศ ศรีนาค ผู้กำกับการ สภ.พระนครศรีอยุธยา มอบเงินที่ถูกคนร้ายฉกไปให้แล้ว โดยได้ขอบคุณตำรวจที่ช่วยเร่งรัดคดีให้  ยอมรับว่า ช่วงแรกเป็นกังวลกลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน เพราะเงินก้อนนี้ไปรับมาทำธุรกรรม มันไม่ใช่ของเราทั้งหมด ตอนแรกพยายามหาตู้ฝากเงินเข้าบัญชีก่อน แต่หาไม่เจอ จึงนำไปฝากผ่านทางเคาท์เตอร์ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีบริการตรงนี้

เรื่องนี้ยอมรับว่า เป็นความประมาทของตนเอง ที่ให้ลูกชายไปฝากให้ เพราะเห็นว่าลูกเคยไปฝากเงินกับตนตลอด รู้ขั้นตอนดี จนเกิดเหตุขึ้น หลังเกิดเหตุไป 8 วัน ตำรวจโทรกลับมาหาบอกว่า จับได้แล้ว คำถามแรกที่ถามตำรวจเลยว่า ได้เงินคืนไหม โชคดีที่ได้ครบ เพราะคนร้ายนำเงินไปยังไม่ทันได้ใช้ก็ประสบอุบัติเหตุก่อน  

ส่วนเรื่องเวรกรรม ขอไม่ซ้ำเติมคนร้าย แต่ขอให้เขารับโทษไป อีกเรื่องอยากฝากถึงร้านสะดวกซื้อ ควรรับทำธุรกรรมให้เสร็จก่อนหันไปทำอย่างอื่น ไม่ว่าเงินจะน้อยหรือมาก เพราะคนร้ายฉวยโอกาสไว้ และทุกครั้งอาจไม่โชคดีจับคนร้ายได้แบบนี้