เดือดร้อนหนัก เพื่อนบ้านป่วยจิตเวช สาดอุจจาระ-ปัสสาวะเข้าบ้าน วอนญาติพาไปรักษา

สุดทน เจอเพื่อนบ้านป่วยจิต สาดอุจจาระ - ปัสสาวะใส่บ้าน ร้องหน่วยงานหลายแห่งช่วยแก้ปัญหา แต่คดีไม่คืบ วอนญาติพาไปรักษา

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดมาโพสต์ไว้ หลังได้รับความเดือดร้อนถูกเพื่อนบ้านหลังติดกันปีนกำแพงบ้าน ถือขันสาดของเหลวมาใส่บ้านตนเองในช่วงกลางคืน ซึ่งของเหลวที่ว่าก็คืออุจจาระ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้ไม้ยาวแหย่มา เพื่อปัดกล้องวงจรปิดของบ้านผู้เสียหายให้หันไปทางอื่น จากภาพกล้องวงจรปิด ระบุเวลาเป็นวันที่ 31 ธันวาคม 64 คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่


ก่อนหน้านั้นก็มีคลิปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ช่วงกลางวัน จะเห็นเพื่อนบ้านหญิงรายเดิมเดินกวาดบ้านในมือมีที่ตักผง แทนที่จะนำไปทิ้งถังขยะ เพื่อนบ้านกลับเทเศษผงมาใส่บ้านผู้เสียหาย และวันที่ 21 ธันวาคม เพื่อนบ้านก็ถือขันมาสาดปัสสาวะใส่อีก พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาร้องหน่วยงาน ทั้งตำรวจในพื้นที่ ศูนย์ดำรงธรรม สาธารณสุขในพื้นที่ รวมถึง อบต.มาแก้ปัญหาให้ก็ไม่มีความคืบหน้า จึงนำเรื่องนี้มาโพสต์ไว้ หวังให้แชร์ถึงรายการโหนกระแส


ทีมข่าวลงพื้นที่ไปบ้านผู้เสียหาย หมู่ 8 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร สอบถามกับสองสามีภรรยา คุณเดือนเพ็ญ และคุณสุริยา บอกว่า มีปัญหากับเพื่อนบ้านมาตั้งแต่รุ่นพ่อ โดยเพื่อนบ้านรายนี้ชอบสาดอุจจาระ กับปัสสาวะมาใส่บ้านตนตลอด เคยคุยกับลูกชายคนก่อเหตุหลายครั้งแล้ว พยายามขอร้องว่าอย่าสาด เพราะตนมีพ่ออายุมากแล้วอยู่ด้วย แล้วยิ่งช่วงนี้โควิด ทางบ้านตนก็กลัว แต่ลูกชายบอกว่าแม่ป่วยทางจิต จะให้ทำยังไง ถ้าไม่ยอมก็ให้ไปแจ้งความเอา ซึ่งล่าสุดตนเองได้ไปแจ้งความแล้ว


ผู้เสียหาย บอกด้วยว่า ที่ผ่านมาร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ทั้ง อบต. สาธารณสุข ตำรวจ พอเจ้าหน้าที่มาดู คู่กรณีก็หยุดไป 3-4 วัน แล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมบางหน่วยงานมาดู ก็ให้ตนทำกำแพงสูงปิดไปเลย แต่ก็ยังมีช่องให้เขาทำเหมือนเดิมอยู่ดี ส่วนบางวันก็มาด่า มาหาว่าบ้านตนเป็นจอมขมังเวทย์ ล่องหนหายตัวได้ เวลาคู่กรณีสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ไม่ติด เห็นตนนั่งซ่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ที่บ้าน ก็หาว่าตนเสกของใส่รถเขา เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่อยากเอาเรื่อง แค่อยากให้ลูกชายเขารับผิดชอบ คอยห้ามปรามแม่ตัวเอง หรือพาไปรักษา จะได้อยู่ร่วมกันได้


ขณะที่เพื่อนบ้าน บอกว่าบ้าน 2 หลังนี้ มีปัญหากันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่เป็น 10 ปีแล้ว ซึ่งตนเองไม่อยากยุ่ง ไม่ใช่เรื่องตนเอง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วตนไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนบ้านที่ก่อเหตุ ปกติก็พูดคุยด้วยดี แต่เขามีปัญหากันแค่บ้านหลังนี้หลังเดียว


ทีมข่าวพยายามจะเข้าไปสอบถามคู่กรณีที่ก่อเหตุ แต่ไม่มีใครออกมาให้ข้อมูลแต่อย่างใด เบื้องต้นทราบเพียงว่าบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 4 คน คุณยาย ลูกชาย ลูกสะใภ้ และลูกสาว