สังคม
ผบช.ภ.1 แจงปม จนท.ถือสไนเปอร์ เฝ้าด่านเคอร์ฟิว เป็นไปตามยุทธวิถี ป้องกันตัวกรณีฉุกเฉิน
โดย sujira_s
13 ก.ค. 2564
669 views
เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ก.ค. 64) มีการตั้งด่านเคอร์ฟิวแบบเต็มรูปแบบครั้งแรก ทั้งในกรุงเทพมหานคร และ 10 จังหวัดพื้นที่สีแดง ปรากฎว่าเมื่อคืนยังคงมีประชาชนออกนอกเคหะสถานหลัง 3 ทุ่ม ขณะที่โลกออนไลน์แห่แชร์ ภาพตำรวจนนทบุรี ถือสไนเปอร์เฝ้าด่านเคอร์ฟิวคืนแรก พร้อมตั้งคำถาม ต้องทำถึงขนาดนี้หรือ?
เมื่อคืนเป็นคืนที่ 2 ที่ตำรวจในกรุงเทพมหานครตั้งด่าน 88 จุดทั่วกรุงเทพ เพื่อป้องปรามไม่ให้ประชาชนเดินทางออกนอกเคหะสถานหลังเวลา 3 ทุ่ม ถึงตี 4 ปรากฎว่าเมื่อคืนนี้ช่วงก่อน 4 ทุ่มยังคงมีประชาชนเดินทางอยู่ ตำรวจที่เจอจะเน้นประชาสัมพันธืก่อนว่าห้ามออกนอกบ้านหลัง 3 ทุ่ม และจะลงบันทึกข้อมูลไว้ หากพบว่ากระทำผิดซ้ำๆ หรือ ออกมานอกเคหะสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยไม่มีเหตุอันควร จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย คือ คุมตัวแล้วส่งศาลแขวงพิจารณาในตอนเช้าทันที
พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมีรถผ่านด่านตรวจ 1,356 คัน ตรวจค้น 2,594 คน ส่วนใหญ่เป็นรถที่ใช้ขนสินค้าอุปโภคบริโภค และบุคลากรทางการแพทย์ ที่อยู่ใน 6 กลุ่มที่ได้รับการยกเวิน แต่มีบางคนที่ตั้งใจฝ่าฝืน ถูกจับดำเนินคดี 11 คน ฐานฝ่าฝืน พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน และถูกส่งฟ้องศาลทันที
ขณะที่จังหวัดนนทบุรี เพจ Thai News Pix โพสต์ภาพ ตำรวจนนทบุรี ตั้งจุดตรวจเคอร์ฟิว บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. คลองบ้านใหม่ ถนนติวานนท์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน ช่วงเวลาหลัง 3 ทุ่ม ถึงตี 4 เริ่มเป็นวันแรกเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นภาพตำรวจในด่านถือปืนสไนเปอร์อย่างน่าเกรงขาม เหมือนเป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาพนี้ถูกคนในโลกออนไลน์แชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามจนกลายเป็นดราม่าว่า ต้องทำกันขนาดนี้หรือ / ถือปืนจะไปสู้รบกับใคร / ถ้าฝ่าด่านไปจะถูกยิงตายหรือไม่ / แค่ปืนพกก็พอแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้ขณะลงพื้นที่รายงานข่าว นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย พลตำรวจตรีไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการตั้งด่านจุดตรวจร่วมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปรากฎว่ามีการประกาศให้ผู้สื่อข่าวกลับออกจากพื้นที่ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่สะพายปืนสไนเปอร์เดินไปมา ไม่คิดว่าหลังการประกาศดังกล่าว จะมีการถือปืนที่เข้มข้นในลักษณะนี้
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของ สภ.ปากเกร็ด เผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นมาตรการป้องกันตามปกติเวลาตั้งด่านใหญ่ๆ ร่วมบูรณาการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพราะยามค่ำคืนดึกดื่นเจ้าหน้าที่เองไม่มีใครรู้ว่า รถที่ผ่านด่านมาจะเป็นรถใคร หากเป็นแก๊งค้ายา มีอาวุธหนัก เราจึงต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน
ด้านพลตำรวจโท อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ยืนยันว่า กรณีตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ใช้อาวุธปืนยาวในการปฏิบัติงานเป็นการปฏิบัติตามยุทธวิธี หรือที่เรียกว่าเป็นสเกาต์หน้า ใช้สำหรับป้องกันตัวหรือยับยั้งสถานการณ์หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือมีผู้กระทำผิดเช่นแหกด่านเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยใช้ปืนยาวในการปฎิบัติหน้าที่ประจำด่านตรวจมาแล้ว แต่หากประชาชนไม่สบายใจก็ต้องขอโทษและจะระมัดระวังให้มากขึ้น
ขณะที่ผลการปฏิบัติงานตั้งด่านเคอร์ฟิวส์ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เมื่อคืนนี้มีรถออกนอกเคหะสถานหลัง 4 ทุ่ม 115 คัน ตรวจค้น 153 คน ส่วนใหญ่จะตักเตือนและเน้นย้ำห้ามออกนอกเคหะสถาน และดำเนินคดี 1 คน ฐาน เมาแล้วขับ