สุราเป็นเหตุ! ‘ว่าที่ร้อยตรี’ เมาหนัก ถอยกระบะชนรถชาวบ้านดังสนั่น พังระเนระนาด 14 คัน

“ว่าที่ร้อยตรี” เมาหนัก ถอยกระบะชนรถชาวบ้าน พังระเนระนาด 14 คันรวด เจ้าตัวยืนกรานผมไม่ได้เมา แต่ปริมาณแอลกอฮอล์พุ่งสูงถึง  187 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

วันที่.20.ก.ย.67 เวลา.00.23.น.ตามกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ ต.ไร่ขิง อ.สามพราน นครปฐม ลงคลิปเหตุการณ์มีคนคล้ายคนเมาถอยรถชนรถภายในหมู่บ้านพังยังกว่า 14 คัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบภายในหมู่บ้าน นายพงษ์สิทธิ์ ก้านชูช้อ อายุ 30 ปี เจ้าของรถที่โดนชนและเป็นผู้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 00.25 น. มีคนขับรถยนต์ที่มากินงานเลี้ยงวันเกิดบ้านหลังด้านในของหมู่บ้าน หลังจากนั้นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีบอร์น์เทา ได้ถอยรถยนต์กระบะออกจากซอยอย่างเร็ว จนเสียหลักไปชนท้ายรถที่จอดข้างบ้านจนไปกระแทกกับเสาไฟฟ้าหัก และประตูรั้วพัง

จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ถอยอย่างรถอย่างเร็วจนชนกับรถยนต์ที่จอดริมทางอยู่หน้าบ้านพังยับหลายคัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังได้รับแจ้ง ได้มีการสกัดจับ ได้บริเวณหน้ามินิโลตัสภายในซอย สภาพรถยนต์กระบะคันดังกล่าวพังยับทั้งคันเช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวไปที่ สภ.โพธิ์แก้ว

นายวุฒิชัย ทัดเทียม อายุ 27 ปี ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ตนได้คุยกับผู้ก่อเหตุก่อนที่จะขับรถไปตนได้บอกกับผู้ก่อเหตุว่าเดี๋ยวผมถอยรถให้ไหม แต่ผู้ก่อเหตุพูดว่า ขับไหว เพราะไม่เมา หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุ ขึ้นรถและสตาร์ท และ ถอยชนท้ายรถ 4 ล้อเล็ก จนรถ 4 ล้อเล็ก ไปกระแทกกับเสาไฟและประตูพัง หลังจากนั้น ก่อเหตุได้เดินหน้าและถอยหลังยาว จนชนรถที่จอดริมทาง หลายคัน จนพวกผมตะโกนเรียก ผู้ก่อเหตุก็ไม่เปิดประตู และเดินหน้าถอยหลังไปต่อ จนไปถึงประตูหมู่บ้าน จนมีคน ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปถึง หน้า มินิโลตัส เพราะบริเวณตรงจุดนั้น ผู้ก่อเหตุได้จอดตรง และยกฝาท้ายกระบะขึ้นเนื่องจากฝาท้ายกระบะพังหลุดลงมาบนพื้น

หลังจากได้รับแจ้งทางพนักงานสอบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบภายในหมู่บ้านพบรถยนต์จำนวนประมาณ 14 คัน ถูกรถยนต์กระบะผู้ก่อเหตุชนพังเสียหายและเสาไฟฟ้า1 ต้น ประตูบ้านและกระถางต้นไม้ และวันนี้ ทางผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรถและเจ้าของบ้านได้เดินทางมาที่ สภ.โพธิ์แก้ว เพื่อทำการแจ้งความ กับทางผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นจากการสอบถาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการวัดแอลกอฮอล์ ผู้ก่อเหตุโดยการเป่าพบว่ามีปริมาณ 187 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้พาตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจและรักษาที่รพ.ก่อนเพราะผู้ก่อเหตุมีการการปวดศีรษะและตาบวม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ไปรักษาตัวและมาสอบปากคำต่อไป

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับผู้ที่ก่อเหตุในข้อหาเมาแล้วขับทำทรัพย์สินผู้อื่นเกิดความเสียหายไว้ก่อน และทางพนักงานสอบสวนจะนัดคู่กรณีทั้งหมดที่เป็นเจ้าของรถจำนวน 14 คัน มาเจรจา

จากการตรวจสอบรถยนต์กระบะคันที่ก่อเหตุนั้น มีประกัน ชั้น 1 ซึ่งทางประกันจะมีการเจรจากับผู้เสียหายเรื่องชดใช้ค่าเสียหายให้ทุกคัน ทั้งหมด 14 คัน

ทางผู้เสียหายทุกคนอยากจะฝากบอกทางผู้ก่อเหตุว่า เวลาขับรถภายในหมู่บ้าน ต้องมีความเกรงใจ คนในหมู่บ้านบ้าง ถ้าเมาก็อย่าขับทำให้คนอื่นเดือดร้อน บางคนไม่มีรถใช้ทำมาหากินและจะต้องมาเสียเวลาอีก และฝากบอกคุณตำรวจให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาอยากให้เข้าในผู้เสียหายบ้าง

https://youtu.be/Akl7gSNMLhw