ชายเมาคว้าอิฐไล่ทุบรถ อ้างโมโหที่รถตัวเองหาย ชาวบ้านไล่จับส่งตำรวจ

ชายวัย 40 กินเหล้าขาวเมา เข้าไปทุบกระจกบ้านเช่าที่ยังไม่มีคนอยู่ ก่อนจะไปเปิดแอร์ภายในบ้านทุกห้อง นั่งกินเหล้าขาว ก่อนจะเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาก็เอาอิฐแดงเขวี้ยงใส่กระจกรถของชาวบ้านที่จอดอยู่ ได้รับความเสียหายไป 2 คัน สุดท้ายชาวบ้านต้องช่วยกันวิ่งไล่จับ โดยชายคนดังกล่าวเผยสาเหตุที่ทำนั้นเพราะ โมโหที่รถจักรยานยนต์ของตนหาย


เวลา 21.30 น. วันที่ 24 ก.ย.65 ด.ต.เอนกพงศ์ ชมพูพาน ตำรวจสายตรวจตำบลคลองหลวงแพ่ง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้ช่วยกันล้อมจับชายเมาอาวะลาดเอาก้อนหินไล่ทุบรถและทุบกระจกบ้านเรือนประชาชน โดยชาวบ้านได้ช่วยกันไล่จับได้ที่บริเวณกลางซอย ภายในหมู่บ้านสุวินทวงศ์เรสซิเดนท์ ม.1 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมืองฉะเชิงเทรา ทราบชื่อชายที่อาวะลาดต่อมาคือ นายสมยศ เกตุตุ้ม อายุ 40 ปี จากการสอบถามนายสมยศ ยังอยู่ในอาการมึนเมาให้การวกวน โดยบอกว่า รถจักรยานยนต์ที่ตนจอดไว้หาย เลยโมโหไล่ทุบรถชาวบ้าน


ตำรวจเปิดเผยว่า จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า นายสมยศ ผู้ก่อเหตุได้ทุบกระจกบ้านเช่าเลขที่ 26/45 ที่ไม่มีคนอยู่ ตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าไปเปิดแอร์ทุกห้องของบ้าน และนั่งกินเหล้าขาวก่อนจะนอนหลับไป หลังจากนั้นเมื่อตื่น ก็เดินออกมาเอาขวดเครื่องชูกำลังและอิฐแดงทุบกระจกรถเก๋ง ยี่ห้อโอเปิ้ล สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นรถของนายทวี อายุ 50 ปี ทำให้กระจกบานคนขับแตกทั้งบาน จากนั้นผู้ก่อเหตุยังได้เดินไปเอาอิฐแดงเขวี้ยงกระจกรถเก๋ง มาสด้า สีแดง ที่จอดอยู่ใกล้กัน เป็นรถของ น.ส.อรทัย อายุ 25 ปี ได้รับความเสียหายเล็กน้อย บริเวณกระจกฝั่งคนขับมีร่องรอยของอิฐแดงแต่ไม่แตก


นายทวี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เพื่อนข้างบ้านของตน ได้ยินเสียงดังจึงออกมาดู และเห็นนายสมยศ กำลังงัดประตูรถของตนและใช้อิฐแดงทุบกระจกรถ จึงตะโกนร้องเรียกตนให้มาดู เมื่อตนเองเดินออกมาดู ก็เลยเห็นว่านายสมยศ กำลังจะเอาก้อนหินมาทุบกระจกรถเป็นรอบที่ 2 ตนเองจึงวิ่งไล่ ทำให้นายสมยศวิ่งหนี ก่อนจะเอาอิฐแดงที่อยู่ในมือปาใส่รถคันหน้า ซึ่งเป็นรถ น.ส.อรทัย โดยนายสมยศยังตะโกนท้าและให้ของลับขณะวิ่งหนี ทำให้เพื่อน ๆ ขี่รถจักรยานยนต์ตาม จนสามารถจับนายสมยศได้บริเวณกลางซอย ก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาคุมตัว


เบื้องต้นนายสมยศ ยังให้การวกวนคุมสติตัวเองไม่ได้ อ้างว่าที่ทำไปเพราะโมโหที่รถหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ ที่ป้อมสายตรวจตำบลคลองหลวงแพ่ง เพื่อรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ จะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุ และร้อยเวรเจ้าของคดีมารับตัวไปสอบสวน ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา อีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย