เฟซบุ๊ก 'แตงโม' ปลิวแล้ว ย้ายไปเคลื่อนไหวไอจีแมว 'คุณแม่-กระติก-ฮิปโป' ยันไม่ได้โพสต์

ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) มีประเด็นร้อนและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก เมื่อเฟซบุ๊ก Happy Melon Patcharaveerapong ของคุณแตงโม มีการโพสต์ภาพ คลิป และข้อความที่เป็นปริศนาหลายโพสต์ โพสต์แรก เป็นภาพของคุณกระติกยืนหันหลัง กำลังโบกมือ พร้อมข้อความว่า

"หนูถูกทำร้ายจากเพื่อนที่เรารักแล้วไว้ใจ" ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามว่า ใครเป็นคนล็อกอินเฟซบุ๊กคุณแตงโมเข้าไปโพสต์ภาพนี้ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน รวมทั้งข้อความดังกล่าว จะสื่อความหมายถึงอะไร

จากนั้นช่วงเย็น มีการโพสต์รูปแตงโม กระติก แซน และปอ ขณะอยู่บนเรือ พร้อมข้อความระบุว่า "เรายังไม่ไปไหน เรายังรอความจริงจากปากทั้ง 5 คนอยู่ ถ้ายังไม่พูดความจริง เราจะเปิดความจริงให้ทุกคนได้รับรู้พร้อมกัน ว่าเหตุเกิดบนเรือ คืออะไร ลบข้อมูลมือถือ อย่าคิดว่าจะกู้คืนไม่ได้หรือไอ้เพื่อนรัก"

ต่อมามีการโพสต์คลิป พร้อมข้อความว่า "เราฉี่ไม่ได้หรอกท้ายเรือ ขนาดเรือจอดโดนคลื่นซัด เธอยังต้องเกาะแขนผู้ชาย 2 คน ประคองเลย เราพูดไม่ได้ ก็อย่าใส่ร้ายเรา ไอ้เพื่อนรัก" ส่วนช่องคอมเม้นท์ ก็โพสต์รูปภาพผู้หญิงกินยาจำนวนมากไว้ด้วย แต่สักพักคลิปนี้ก็ถูกลบหายไป

นอกจากนี้ ในสตอรี่ยังมีการโพสต์ภาพและข้อความระบุว่า "นี่โมเองนะ ทุกคนอย่าเพิ่งทิ้งโมไป โมจะทำให้ความจริงปรากฏ โมไม่ต้องการอะไร นอกจากความรักที่ทุกคนมอบให้โมในตอนนี้"

ความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กของคุณแตงโม ทำให้ชาวโซเชียลมีความคิดเห็นที่หลากหลาย ฝั่งหนึ่งมองว่า อาจจะเป็นบุคคลที่รู้ความจริงของคดีและทราบรหัสเข้าเฟซบุ๊กของคุณแตงโม กำลังเรียกร้องความยุติธรรมให้คุณแตงโม

แต่อีกฝั่งก็มองว่า เป็นการกระทำที่ไม่สมควร หากต้องการเปิดเผยเรื่องราวความจริง ก็ไม่ควรใช้เฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิตเป็นเครื่องมือ และยังสร้างความสับสนในสังคมด้วย เนื่องจากมีการสร้างเฟซบุ๊กปลอม นำรูป นำคลิปจากเฟซบุ๊กจริงของคุณแตงโมไปโพสต์เรียกยอดไลค์ด้วย

เรื่องนี้ คุณแม่ของแตงโม เปิดเผยผ่านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ระบุว่า คุณแม่ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊กของแตงโม เพราะเล่นไม่เป็นและไม่ทราบว่าใครเป็นคนโพสต์ โทรศัพท์ของแตงโมอยู่ที่คุณแม่ แต่คุณแม่ไม่เคยนำออกมาใช้ ส่วนโพสต์ดังกล่าวใครเป็นคนทำ คุณแม่ก็ไม่ทราบ ส่วนจะให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ ต้องสอบถามคุณแม่อีกครั้ง เพราะคุณแม่กำลังเหนื่อยและยุ่งกับการเตรียมงานฌาปนกิจแตงโม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ค.นี้

นอกจากนี้ ทนายเดชา ยังโพสต์เฟซบุ๊กเตือนว่า ผู้ที่เข้าไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ มีความผิดตามกฎหมายคอมพิวเตอร์ มาตรา 9 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนคุณต่อย ดายศ พี่ชายของแตงโม ก็ไปโพสต์คอมเม้นท์ในเฟซบุ๊กของคุณแตงโมว่า "นี่เฟซบุ๊กน้องผม แต่ผมไม่รู้นะครับว่าคุณเป็นใคร แต่ถ้ามีของ จัดเอาออกมาเลยครับ เอาให้หนักๆ"

ด้านคุณฮิปโป ทีมผู้จัดการของแตงโม ก็ยืนยันว่า เพื่อนๆของแตงโม ไม่มีใครรู้แอคเคาท์หรือพาสเวิร์ดของแตงโมเลย เนื่องจากแตงโมไม่ได้รับรีวิวงานในเฟซบุ๊ก จึงไม่ต้องให้แอคเคาท์กับใครไว้ หากใครจะเข้าเฟซบุ๊กแอคเคาท์นี้จากเครื่องอื่น ระบบเฟซบุ๊กจะแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์มือถือเครื่องหลักที่ลงทะเบียนไว้ จึงไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือกลุ่มเพื่อนๆ แน่นอน

ส่วนกระติก เมื่อวานนี้ ไปให้ปากคำเพิ่มเติม ที่ สน.มีนบุรี กรณีฟ้องหมิ่นประมาท นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือ จิน สามีของ หนิง ปณิตา ที่แสดงความคิดเห็นในโซเชียลจนทำให้เกิดความเสียหาย กระติกพูดถึงเรื่องภาพตัวเองยืนหันหลังบนเรือ เป็นภาพที่แตงโมถ่าย ตอนขากลับหลังจากทานข้าว ซึ่งคนที่มีรูปนี้จะต้องมีโทรศัพท์แตงโมด้วย เนื่องจากตำรวจได้คืนโทรศัพท์ไปเป็นสัปดาห์แล้ว แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้โทรศัพท์อยู่ที่ใคร แต่ยืนยันว่าไม่ได้อยู่กับตัวเธอเอง

นอกจากนี้ เมื่อคืนก่อน มีเพื่อนแจ้งมาว่า เห็นบัญชีคลับเฮ้าส์ของแตงโม ขึ้นออนไลน์ แสดงว่ามีคนใช้โทรศัพท์ของแตงโม ซึ่งหากเป็นการแฮกเข้าเฟซบุ๊ก จะต้องไม่มีรูปนี้ เพราะรูปอยู่ในโทรศัพท์แตงโมเท่านั้น ซึ่งจากที่อ่านข้อความในโพสต์ ก็พบว่าเป็นการกล่าวหาเธอในลักษณะยุยงปลุกปั่น ให้ได้รับความเสื่อมเสียชัดเจน จึงจะขอรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อดำเนินคดีในภายหลัง

ขณะที่ในทวิตเตอร์ #แตงโมต้องได้รับความยุติธรรม ก็กลับมาติดเทรนด์อันดับ 1 อีกครั้ง จนช่วงดึก เฟซบุ๊กจริงของแตงโม มีการลบรูปและคลิป เหล่านั้นออกไปแล้ว เหลือเพียงสเตตัสสุดท้าย เมื่อวันที่ 24 ก.พ. และล่าสุด เฟซบุ๊กจริงของแตงโม ถูกปิดไปแล้ว แต่ไปมีการเคลื่อนไหวในไอจีรูปแมวของแตงโมแทน