สังคม

2 ผัวเมียพลิกวิกฤต ล้มแปลงยางพารา ผันปลูกกระท่อมก้านแดง โกยรายได้อย่างงาม

โดย weerawit_c

10 ม.ค. 2565

183 views

สองผัวเมียตัดสินใจล้มแปลงปลูกต้นกล้า “ยางพารา” เนื้อที่ 12 ไร่ ผันปลูก “ต้นกระท่อม” พืชเศรษฐกิจ ตัวใหม่ อย่างเต็มระบบขาย ผลตอบรับดีเกินคาด โกยรายได้เข้ากระเป๋าเดือนละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกร ตลาดกว้าง อนาคตไกล ดูแลง่ายไม่จุกจิก



วันที่ 9 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แปลงปลูกต้นกระท่อม “บังแม็กซ์ ปะเหลียน” ตั้งอยู่ริมถนนสายตรัง-ปะเหลียน พื้นที่ หมู่ 1 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เนื้อที่กว่า 12 ไร่ ซึ่งมีนายจักรตราวุธ ทองรอง หรือบังแม็กซ์ อายุ 37 ปี พร้อมด้วย น.ส.โสภาวรรณ ทองรอง หรือจ๊ะมี้ อายุ 37 ปี สองสามีภรรยาชาวตรัง



ได้พลิกพื้นที่ดังกล่าวจากอดีตทำแปลงเพาะพันธุ์ต้นกล้ายางพารา มาเป็นแปลงเพาะปลูกต้นกระท่อม พันธุ์ไทย ก้านแดง ระยะเวลาเพียงแค่ 4 เดือน กลับได้ผลตอบรับดีเกินอย่างมาก เนื่องจากเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ และมีช่องทางการตลาดที่ไปได้ไกล ประกอบกับยางพารา มีคนนิยมปลูกกันน้อยลง เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำลงเป็นอย่างมาก



โดยขั้นตอนการเพาะปลูกเริ่มจากการนำถาดพลาสติก ใส่ดินพีทมอส ก่อนจะพรมน้ำให้ชุ่มชื้น โรยเมล็ดเกสรกระท่อมลงไป และแพ็คถาดพลาสติกเพื่อให้ควบแน่น ประมาณ 20-30 วัน ต่อมาเมื่อเป็นต้นกล้าแล้วจะทำการแยกแต่ละต้นลงถาดหลุม และรออีกประมาณ 20-30 วัน เพื่อให้เติบโต ก่อนจะแยกออกมาปลูกในถุงชำโดยมีการใช้ดินแดง และแกรบดิบ อัตราส่วน 1 ต่อ 1 ประมาณ 5 วัน ต้นกระท่อมก็จะได้ขนาดประมาณ 5-6 ซม.ก็พร้อมจะออกจำหน่ายได้ โดยแปลงปลูกของบังแม็กซ์ มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เช่น การรดน้ำ การแยกต้น โดยมีคนงานจำนวนไม่มาก อยู่ที่ประมาณ 5-6 คนเท่านั้น



นายจักรตราวุธ หรือบังแม็กซ์ กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้ก่อนหน้านี้ตนทำเป็นแปลงเพาะพันธุ์ต้นกล้ายาง จนเมื่อมีการปลดล็อกต้นพืชกระท่อม ตนก็ได้เล็งเห็นว่าต่อไปพืชกระท่อมจะเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะพืชกระท่อมมีสรรพคุณที่ใช้เป็นยาชูกำลัง และมีสรรพคุณอีกหลายอย่าง ซึ่งในอนาคตน่าจะมีการนำกระท่อมมาทำเป็นยาชูกำลัง และยาอื่นๆตามสรรพคุณ และน่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เป็นสาเหตุที่ทำหมาเพาะปลูกต้นกระท่อม



รวมทั้งเป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับชาวบ้าน ญาติพี่น้องในตำบลท่าพญาได้มีงานทำด้วย โดยใช้ระยะเวลาเพราะมาแล้วประมาณ 4 เดือน ตลอดระยะเวลา 4 เดือนผลตอบรับกลับดีเกินคาด ดีมากๆ มีบริษัทใหญ่ๆต่างๆ เกษตรกร ติดต่อและเข้ามาขอซื้อต้นกระท่อมไปเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะรับมาซื้อ เพื่อนำไปขายตามท้องตลาด และนำไปปลูก ซึ่งขายได้ทุกๆวัน ส่วนรายได้ต่อเดือนหากหักค่าจ้างคนงานแล้วก็อยู่ที่ 1 แสนบาทขึ้นไปในทุกเดือน



บังแม็กซ์ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของอนาคตตนมองว่าพืชกระท่อมคงไปได้อีกไกล เพราะขณะนี้ประเทศสหรัฐอเมริกาได้สั่งซื้อกระท่อมจากอินโดนีเซีย และกระท่อมที่นำไปปลูกที่อินโดนีเซีย ก็นำไปจากไทย เนื่องจากพืชกระท่อมของไทยมีสารสกัดที่ดีที่สุด ส่วนความยากง่ายของการเพาะต้นกระท่อมอยู่ที่การรักษาดูแล เกี่ยวกับเรื่องหนอน แมลง เข้ามารบกวน เราก็จะต้องดูแลในเรื่องตรงนี้ให้มาก รวมทั้งการใช้ปุ๋ยเพื่อเร่งการเจริญเติบโต



โดยต้นกระท่อมของตนคิดว่ามีจุดเด่นคือ เป็นกระท่อมก้านแดง ชาวบ้านนิยม นำไปรับประทานเพื่อชูกำลังอย่างดีกว่าพันธุ์อื่นๆ และเป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด ความแตกต่างระหว่างการปลูกต้นยางพารากับต้นกระท่อม มองว่า ต้นกระท่อมดูแลง่ายกว่ายางพารามาก เพราะยางพาราจะมีปัญหาเรื่องโรคมากกว่า เช่นโรคเชื้อราต่างๆ พื้นที่ในการเพาะปลูกกระท่อมจะใช้พื้นที่น้อยกว่า รวมทั้งใช้คนงานน้อยกว่า แต่รายได้ก็อยู่ในระดับเดียวกัน ไม่แตกต่างกันมาก แต่จะแตกต่างกันในเรื่องต้นทุน กระท่อมใช้ต้นทุนน้อยกว่า



โดยขายอยู่ในราคาตั้งแต่ต้นละ 13 บาท ไปจนถึงต้นละ 50 บาท โดยจะขึ้นอยู่กับความสูงของต้นและขนาด โดยส่วนใหญ่ที่เริ่มขายจะอยู่ที่ขนาดความสูง 7 ซม. ถึง 12 ซม. หากมีลูกค้า หรือคนที่สนใจสามารถติดต่อได้ทาง เพจเฟสบุ๊ค “บังแม็กซ์ ปะเหลียน กระท่อมไทยพันธุ์ก้านแดง” หรือหมายเลขโทรศัพท์ 093-679-6493 (นายจักรตราวุธ ทองรอง หรือบังแม็กซ์)

คุณอาจสนใจ

Related News