ตร. เผย อดีตภรรยา-ลูกสาว หมอบุญ ให้การภาคเสธ เตรียมส่งสำนวนให้ DSI พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ

ตำรวจ เผยสอบปากคำอดีตภรรยา และลูกสาวหมอบุญเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ให้การภาคเสธ ส่วนผู้ต้องหารายอื่นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เตรียมขออำนาจศาลฝากขังพรุ่งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมส่งสำนวนให้ดิเอสไอพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ


หลังจากเมื่อวานนี้ตำรวจคุมตัวอดีตภรรยาและลูกสาวของนายแพทย์ บุญ วนาสิน มาควบคุมตัวที่ สน.พญาไท เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีการขอเบิกตัวทั้งคู่ออกจากห้องคุมขัวของ สน.พญาไท ไปสอบปากคำเพิ่มเติม


โดยก่อนหน้านี้ พลตำรวจตรีอัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำทั้งคู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นทั้งคู่ยังคงให้การภาคเสธ ส่วนผู้ร่วมขบวนการรายอื่นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่ยืนยันว่าได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดี และเตรียมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ

คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก แค่เฉพาะในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีผู้เสียหายแล้วกว่า 247 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 7,600 ล้านบาท ยังไม่นับรวมพื้นที่อื่นๆ และในต่างจังหวัด


ส่วนนายแพทย์บุญ ที่อดีตภรรยาและลูกให้ข้อมูลว่าอยู่ที่ประเทศจีนนั้น พนักงานสอบสวนได้ยื่นเรื่องไปที่กองการต่างประเทศ เพื่อยื่นขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดงต่อ โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดทั้งนี้คาดว่าในวันพรุ่งนี้เช้า จะนำตัวทั้งคู่ไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก


ขณะที่บรรยากาศ สน.พญาไท มีรายงานว่า ทั้ง 2 คนอยู่ในห้องคุมขัง ก็มีความเครียดเป็นปกติ แต่ด้วยความเป็นแม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน ก็ทำให้คลายกังวลช่วยเหลือกันได้บ้าง และไม่ได้มีการร้องขออะไรและเมื่อเช้านี้ ก็มีญาติขอเข้าเยี่ยมด้วย แต่ไม่สะดวกให้ข้อมูล และไม่สะดวกให้สื่อบันทึกภาพก่อนที่ในช่วงเที่ยง ก็มีคนขับรถที่บ้านของหมอบุญ เดินทางมาที่ สน.พญาไท พร้อมหิ้วถุง 2 ถุงใหญ่ เพื่อขอเข้าเยี่ยมอดีตภรรยา และลูกสาวของนายแพทย์บุญ วนาสิน 

เจ้าตัวให้ข้อมูลว่า เป็นคนขับรถที่บ้านทำงานมา 5 ปี ที่ผ่านมาครอบครัวเค้าดูแลตนเป็นอย่างดี วันนี้แม่บ้านฝากกับข้าวใส่ปิ่นโตมาให้ทั้ง 2 มีข้าวสวยและผัดกะเพรา และน้ำเปล่าขวดเล็ก 2 ขวด และไม่มียารักษาโรค ไม่มีเอกสารสำคัญใดๆ แต่เท่าที่ทราบทั้งคู่ ก็ไม่ได้ร้องขออะไรมาเป็นพิเศษมา รวมถึงเรื่องเอกสารสำคัญอะไรที่จะต้องใช้ ก็ยังไม่ได้ร้องขอมาเช่นกัน


ทั้งนี้ยังบอกอีกว่า เคยเจอนายแพทย์บุญที่บ้าน และเจอหมอบุญครั้งล่าสุดประมาณเดือน ช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ตนทราบว่าหมอบุญ เดินทางไปต่างประเทศแต่ไม่ทราบว่าไปประเทศไหน ซึ่งปกติแล้วหมอบุญไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยมากนัก // นักข่าวถามว่า หมอบุญ เคยให้พาขับรถไปตามสถานที่โครงการต่างๆ หรือไม่ คนขับรถ กล่าวว่า "ไม่เคยขับไป"


ทั้งนี้ ยังยอมรับว่าเป็นห่วงอดีตภรรยาและลูกสาวของนายแพทย์บุญ และเชื่อว่าทั้งคู่ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง


ขณะเดียวกัน ยังพบว่าคดีฉ้อโกงของ"หมอบุญ" นั้น ยังมีอีกคดีที่ผู้เสียหาย 12 คน ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กรณีหลอกลงทุนในโครงการต่างๆ มูลค่าความเสียหาย 1,900 ล้านบาท ซึ่ง บก.ปอศ. พิจารณาแล้วเห็นว่า มีผู้เสียหายจำนวนมาก และความเสียหายสูง ทางพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. จึงเร่งรวบรวมสำนวนคดี และพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอในสัปดาห์หน้า พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ


ส่วนคดีของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น ก็มีรายงานว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสั่งให้โอนสำนวนไปที่ดีเอสไอ เพื่อรวมเป็นคดีเดียวกันเช่นกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/kCLLGv4Cl6Y